Samsung เปิดตัวสมาร์ทวอทช์ระดับพรีเมี่ยม Galaxy Watch4 และ Watch4 Classic พร้อมกับหูฟังไร้สายแบบ TWS อย่าง Galaxy Buds2 ไปเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งหากว่าใครสนใจสินค้าทั้ง 2 ตัวนี้ ก็เตรียมทุบกระปุกหมูกันได้เลยเพราะ Samsung กำลังจะวางจำหน่ายสมาร์ทวอทช์และหูฟังดังกล่าวในบ้านเราแล้วในวันที่ 10 กันยายน 2564 นี้ โดย Galaxt Watch4 Series มีราคาเริ่มต้น 7,990 บาท ส่วน Galax Buds2 มีราคาอยู่ที่ 3,990 บาท
Galaxy Watch4 Series
สำหรับสมาร์ทวอทช์ Galaxy Watch4 Series จะแบ่งออกเป็น Galaxy Watch4 และ Watch4 Classic ซึ่งหลัก ๆ จะต่างกันที่ดีไซน์ โดย Galaxy Watch4 จะมีหน้าปัดขนาด 40 และ 44 มม. สำหรับ Galaxy Watch4 Classic จะมีหน้าปัดขนาด 46 มม. (42 มม. ไม่เอาเข้ามาขายในไทย) พร้อมกับขอบหน้าปัดที่สามารถหมุนเลือกเมนูต่าง ๆ ได้ ส่วนสเปคโดยรวมจะเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นชิป Exynos W920 ตัวใหม่ที่ผลิตบนสถาปัตยกรรมขนาด 5 นาโนเมตร รุ่นแรกของอุตสาหกรรม มากับ RAM ขนาด 1.5 GB และหน่วยความจำภายใน 16GB
ระบบปฏิบัติการ Wear OS 3.0 ที่ครอบด้วย One UI Watch ที่ Samsung ได้ไปพัฒนาร่วมกับ Google ซึ่งมีประสิทธิภาพดีขึ้นกว่าเดิม เปิดแอปเร็วขึ้นกว่าเดิมราว ๆ 30% และมีระบบจัดการพลังงานที่ดีขึ้น เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน ๆ
มีเซนเซอร์และฟีเจอร์ที่เกี่ยวกับสายสุขภาพแบบครบ ๆ ทั้งวัดอัตราการเต้นของหัวใจ, วัดคุณภาพการหลับนอน, การออกกำลังกายหลากหลายรูปแบบ, วัดความดันโลหิต, ค่าออกซิเจนในเลือด หรือ SpO2 ที่เข้ามาเป็นฟีเจอร์ที่จำเป็นมาก ๆ ในการใช้ชีวิตในยุคปัจจุบันช่วง COVID-19 ระบาดหนัก รวมถึง ECG วัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ นอกจากนี้ Galaxy Watch4 และ Watch4 Classic ยังสามารถใช้วัดมวลภายในร่างกายได้อีกด้วย Muscle Mass มวลกล้ามเนื้อมีกี่ % หรือ Fat Mass มวลไขมันมีเท่าไหร่ ไม่ต้องเสียเงินไปเช็คที่ฟิตเนสใหญ่ ๆ หรือตามศูนย์ ตามคลีนิคต่าง ๆ
Galaxy Watch4 และ Watch4 Classic รองรับมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP68 และ 5ATM โดย Galaxy Watch4 มีตัวเรือนที่ทำจาก Aluminum ในขณะที่ Galaxy Watch4 Classic ทำจาก Stainless Steel
Galaxy Watch4
- หน้าปัด 40 มม. (BT) สีดำและพิงก์โกลด์ : ราคา 7,990 บาท
- หน้าปัด 44 มม.
– (BT) สีดำและเขียว : ราคา 8,990 บาท
– (LTE) สีดำและเขียว : ราคา 10,900 บาท
Galaxy Watch4 Classic
- หน้าปัด 46 มม.
– (BT) สีดำและสีเงิน : ราคา 11,900 บาท
– (LTE) สีดำ : ราคา 13,900 บาท
Galaxy Buds2
ต่อกันด้วย Galaxy Buds2 หูฟังไร้สายแบบอินเอียร์ (In-Ear) ตัวล่าสุดของทางค่าย โดยมากับจุดเด่นระบบตัดเสียง Active Noise Cancellation หรือ ANC ที่สามารถปรับได้ถึง 3 ระดับ เลือกได้ว่า จะให้หูฟังตัดเสียงภายนอกมากน้อยแค่ไหน และนอกจากนี้ Galaxy Buds2 ยังมี Transparency Mode นำเสียงภายนอกเข้ามาได้สูงสุด 9 เดซิเบล แถมรอบนี้ Samsung ยังใส่ฟีเจอร์ Voice Pickup Unit (VPU) ที่จะสลับเปลี่ยนมาใช้ Transparency Mode อัตโนมัติเมื่อเราเปล่งเสียงพูดออกมา
จัดเต็มด้านคุณภาพตามแบบฉบับของ Samsung ด้วย Dual-Driver ได้แก่ Woofer ขนาด 11 มม. และ Tweeter ขนาด 6.3 มม. ได้รับการจูนเสียงโดย AKG มีไมค์ข้างละ 3 ตัว (รวมเป็น 6) ช่วยในการตัดเสียง ANC และ Transparency Mode รองรับมาตรฐานกันน้ำ IPX2 ใส่ออกกำลังกายได้ไม่กลัวเหงื่อ
Galaxy Buds2 ใช้ฟังเพลงหรือดูวิดีโอต่อเนื่องได้นานสูงสุด 5 ชั่วโมง เมื่อเปิดระบบตัดเสียง ANC (แต่ถ้าใช้โในการสนทนาจะเหลือสูงสุด 3.5 ชั่วโมง) ขณะที่ตัวเคสก็สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ รวม ๆ แล้วฟังกันไปยาว ๆ ได้กว่า 20 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีระบบ Fast Charge ที่ Samsung เคลมเอาไว้ว่า ชาร์จทิ้งไว้ 5 นาที ก็ได้แบตเพียงพอต่อการใช้งานทั่ว ๆ ไปแล้วถึง 1 ชั่วโมง
Galaxy Buds2 จะวางจำหน่ายในประเทศไทยทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีเขียว Olive, สำดำ Graphite และ สีชมพู Lavender มีราคาอยู่ที่ 3,990 บาท
ทั้งสมาร์ทวอทช์ Galaxy Watch4 / Watch4 Classic และหูฟัง Galaxy Buds2 จะเริ่มวางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 10 กันยายน 2564 เป็นต้นไป ใครสนใจก็เตรียมตัวกันได้เลยจ้า
กดสั่งใน Shopee ไปเรียบร้อย 😳
แต่เป็นตัว 40mm ตัวอื่นยังไม่มี
รอ Classic อีกเรือน
ผมใช้ Active 2 อยู่ โคตรอยากได้เลยตัวใหม่ แต่ดูไปดูมาแล้ว เหมือนว่ายังไม่คุ้มที่จะอัปเกรด ฮ่าๆ
ผมว่ามันจะคุ้มจริงๆ ก็ต่อเมื่อน ECG ได้รับการอนุมัติให้ใช้งานได้
ระบบ BMI มาให้ มันก็โอเคดีนะครับ มีของเล่นให้(แฟน)ได้วัดทุกวัน 😂
ส่วนผมมี gear s3 frontier อยู่ เพราะชอบรูปทรงกับสีของมัน ตอน Watch 3 ก็รู้สึกแปลกๆ ตัว LTE เป็นสีเงินเฉยเลยไม่ถูกจริตเท่าไหร่
พอได้เห็น Watch 4 Classic ตัว LTE แล้วอดใจไม่ได้จริงๆ ทรงสวย สีใช่ ต้องโดน
ถ้าจำไม่ผิด Active 2 ก็ใช้ ECG ได้นะ แต่ยังไม่ได้รับอนุมัติสักที Watch 4 นี่มี SpO2 ผมโคตรอยากมีไว้เลย แต่ก็นะ ปรึกษากระเป๋าตังค์แล้ว ยังไม่ผ่าน 5555
ขอถามย้ำอีกรอบนะครับ
วัดความดันโลหิตได้จริงไหม และใช้หลักการอะไรครับ
จากที่เคยเอา apk ไปยัดใน Watch Active 2 เพื่อวัดความดันนะครับ
ตอบว่าวัดได้จริง ไม่รู้หรอกว่าใช้กรรมวิธีใด แต่…………………..อ่านให้จบครับ
ก่อนเริ่มใช้การวัดความดันโลหิต คุณต้องมีเครื่องวัดความดันแบบดิจิตอล ที่เชื่อถือได้(รับรองทางการแพทย์) ก่อน 1 เครื่อง (ไม่แพงมาก ซื้อติดบ้านไว้ได้ พันกว่าบาท) ตอนเริ่มใช้ นาฬิกาจะให้คุณทำการคาริเบสก่อน 3 ครั้ง
โดยใส่เครื่องวัดความดันไว้ คนละแขนก็แขนที่ใส่นาฬิกา กดเริ่มวันที่นาฬิกา นาฬิกาจะเริ่มทำงาน และบอกให้เราเริ่มวัดความดันด้วยเครื่องวัดความดัน พอได้ค่าจากเครื่องวัดความดัน (นาฬิกามันรู้ด้วยว่าวัดเสร็จแล้ว) ก็เอาค่าไปกรอกในนาฬิกาว่าได้ค่าเท่าไหร่บ้าง ทำแบบนี้ 3 ครั้ง เป็นอันจบ
หลังจากนั้น ลองวัดเทียบกันทุกวัน ๆ ค่าที่ได้จากนาฬิกาและเครื่องวัดความดันถือว่าใกล้เคียงกันมาก ผิดกันบวกลบแค่หลักหน่วยถือว่ายอมรับได้เลย
และนาฬิกาจะเตือนคุณทุก ๆ เดือนให้คอยคาริเบสค่าซ้ำในทุกๆ เดือนเพื่อความแม่นยำด้วย
อยากได้มาก ฟังก์ชั่นโดนใจสุดๆ แต่ราคาเยอะไปนิด ตอนนี้เลยสั่ง Maimo Watch มาลองของไปก่อน ไว้สักพักราคาลงหรืออะไรยังไงค่อยจัด
จากที่ลอง Galaxy Watch4 มาคิดว่ายังไม่ดีเท่าไหร่ การวัด O2 ค่อนข้างไม่เสถียร วัดขาดๆหายๆ วัดการกรนขนาดใช้กับ Z fold 3 ยังจับได้ยากถึงยากที่สุดไม่สมราคาคุย การเชื่อมต่อกับมือถือแบรนอื่นเข้าขั้นเลวร้ายที่สุด แม้จะลง Galaxy Wareable ได้แต่เชื่อมต่อทีกลับ ขึ้นไม่สามารถเชื่อมต่อได้ ขนาดใช้ Note20 เวลาใช้งานจริงการ Syn กลับทำได้ไม่ดี ไม่มีการส่งข้อมูลการจับการวัดต่อเนื่อง(อาจจะเพราะ Note มีพวกอุปกรณ์วัดอยู่แล้ว มันเลยทับกัน?) ผิดกับตอนใช้กับ Z fold 3 ดังนัั้นใครจะซือแต่ไม่มีมือถือซัมซุงอาจจะต้องลุ้นกันนิดนึง
แต่สิ่งที่ดีๆก็ยังมีเรื่องความสมูทความไวของAppที่ลื่นไม่มีสะดุด การวัดการนอน(พวกความลึกในการหลับ)ที่ลองวัดคน 3-4 คน ได้ผลแตกต่างกันชัด คิดว่าน่าจะแม่นสมที่คุย แบตที่ใช้จริงได้ราวๆ 2 วันนิดๆ ไม่เหมือนกับที่กลัว ตอนชาร์จก็ค่อนข้างเร็ว ความร้อนมีแค่ตอนชาร์จแบตตอนใช้งานแทบไม่มี ถือว่าพอใช้ได้ระดับนึงละ