หลังจากที่ Samsung ได้เปิดให้ทดลองใช้บริการ Samsung Pay ไปเมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา จนถึงตอนนี้ก็เปิดให้ใช้อย่างเป็นทางการแล้ว หลายๆคนอาจจะยังสงสัยหรืออยากรู้ว่าสุดท้ายแล้วใช้งานจริงจะเป็นอย่างไร ง่ายยากขนาดไหน ปลอดภัยรึเปล่า มีอะไรที่ควรรู้ก่อนใช้งานบ้าง วันนี้เดี๋ยวเราจะมาสรุปให้ฟังกันใน 7 ข้อควรรู้ก่อนใช้งาน Samsung Pay

1. ใช้งานง่ายจริง แค่แตะก็พร้อมจ่าย ไม่มีค่าบริการเพิ่ม

หลังจากที่ได้ลองใช้งาน Samsung Pay มาร่วมเดือน ก็ต้องบอกว่าการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตง่ายขึ้นกว่าเดิมจริง เพราะลดการพกบัตรเครดิตลงไปได้ และไม่ต้องดึงบัตรเครดิตออกมาจากกระเป๋าตังค์ แค่เดินไปที่แคชเชียร์ก็ควักมือถือมา ปัดนิ้วขึ้นเพื่อเรียกใช้ Samsung Pay มาพร้อมจ่ายเงินได้เลยทันที รวดเร็วสุดๆ แต่สำหรับบางคนที่เคยชินกับการยื่นบัตรให้พนักงานก็อาจจะเซ็งๆ ที่ต้องเดินไปแคชเชียร์ตลอดเวลาเหมือนกัน ครั้นจะแตะนิ้วยืนยันแล้วยื่นโทรศัพท์ไปให้พนักงานเดินไปแคชเชียร์ภายใน 30 วินาทีก็จะดูประหลาดอยู่อะนะ

ใช้ง่ายใช้เร็วตามคลิปนี้เลยครัช

Play video

Samsung Pay นี้เป็นฟีเจอร์หนึ่งของ Samsung Galaxy ใครอยากจะใช้ก็ไม่ต้องเสียค่าบริการเพิ่มเติมแต่อย่างใด ทั้งในฝั่งของผู้ใช้ และในฝั่งของร้านค้าที่รับชำระเองก็ตาม หายห่วงว่าถ้าใช้งานแล้วจะต้องโดนชาร์จอะไรเพิ่มเติมได้เลย

2. จำกัดบัตร จำกัดธนาคาร จำกัดรุ่น

มันคือความวุ่นวายที่สุดของการใช้งาน Samsung Pay ก่อนจะใช้งานตรวจสอบกันก่อนนะว่าครบตามข้อจำกัดเหล่านี้รึเปล่า

 

Samsung Galaxy รุ่นเหล่านี้เท่านั้น

บัตรเครดิตที่รองรับ

Galaxy A5 (2016)

Citi (Visa & Master)

Galaxy A7 (2016)

KTC (Visa & Master)

Galaxy S6 Edge Plus

SCB (Visa & Master)

Galaxy S7

KBANK (Visa Only)*

Galaxy S7 Edge

KRUNGSRI (Visa & Master) เริ่มใช้ได้ 1 ธ.ค.

Galaxy Note 5

BBL (Master Only) เริ่มใช้ได้ 15 ธ.ค.

Galaxy A9 Pro* รออัพเดท

 

โดยของ KBANK จะมีความวุ่นวายมากกว่าชาวบ้านตรงที่ บัตรเครดิตจะต้องผูกบัตรใน K-Mobile Banking ก่อนเท่านั้น และปกติบัตรใบนึงจะสามารถเอาไปผูกใช้งานได้สูงสุด 3 เครื่องแต่ของ KBANK จะได้เพียงเครื่องเดียว แค่นั้นไม่พอเหล่าบัตร Co-brand (เช่น robinson-กสิกร) ก็ใช้ไม่ได้ ต้องเป็นบัตรเครดิตกสิกร-กสิกรเท่านั้น…

ซึ่งจากข้อจำกัดนี้ ทำให้หลายๆคนเริ่มถอดใจขี้เกียจใช้ Samsung Pay กันไปเลย ทั้งเครื่องที่มีแล้วไม่รองรับ และบัตรเครดิตที่ยังจำกัด ที่ใช้ได้ก็ไม่ตรงกับบัตรหลักที่ใช้ประจำ แต่เราน่าจะได้เห็นเครื่องที่รองรับมากขึ้นเรื่อยๆ และเหล่าธนาคารก็ค่อยๆตบเท้าเข้าร่วมรายการกันมากขึ้นทุกที เพราะเห็นถึงศักยภาพของ Samsung Pay ที่มีคนเริ่มใช้กันมากมายขึ้นเรื่อยๆนั่นเอง

3. กลายเป็นตัวประหลาด คนนึกว่าเป็นมิจฉาชีพ ใช้ได้น้อยร้าน

หลังจากที่ผ่านด่านของข้อจำกัดทั้งหมดมาได้แล้ว เมื่อใช้งานก็จะเจอกับปัญหาใหญ่อีกอย่าง คือ ตัวร้านค้าที่รองรับหรือรู้จักในปัจจุบันนี้ยังค่อนข้างมีอยู่น้อยมาก ยื่นโทรศัพท์ไปให้หรือบอกว่าจะจ่ายด้วย Samsung Pay ก็ทำหน้างง แถมบางคนนี่เรียกว่ามองหัวจรดเท้า แม้ว่าจะทำให้ดูและจ่ายได้จริงก็ยังไม่เชื่อ แถมคิดว่าเราเป็นมิจฉาชีพซะอีก ตอนนั้นนี่ต้องเอามือถือเปิดเว็บของ Samsung Pay ยื่นให้เค้าอ่านเพื่อยืนยันเลยว่าที่เราทำได้เนี่ย เป็นของจริงไม่ได้มาโกงนะเฟ้ย

คืออ่านแบบหน้านิ่วคิ้วขมวดมาก…คือไปซื้อของที่ร้านไอทีนะ ยังไม่รู้จักเลย

และอีกหลายๆร้านที่แม้ว่าเค้าจะรู้จัก Samsung Pay แล้วก็ตาม แต่เค้าก็จะส่ายหน้า ปฎิเสธการชำระเงินด้วย Samsung Pay กัน โดยให้เหตุผลกันต่างๆนาๆ และบางร้านตัวเครื่องรูด​​ EDC ก็ยังไม่รองรับอีกด้วย โดยประสบการณ์ส่วนตัว ร้านที่ไม่ยอมรับชำระ ก็มีทั้งช้อปของเครือข่ายมือถือเจ้านึง, ซูเปอร์มาร์เกตห้างดัง, และฟาสต์ฟู้ดเจ้านึง…ขอไม่เปิดเผยชื่อ เดี๋ยวคนอ่านจะไม่กล้าไปขอลองใช้งาน วันหน้าเค้ารับชำระขึ้นมาก็ได้

แต่แม้ว่าผมจะบอกว่าจะมีร้านค้าที่รองรับได้น้อย และดูสงสัยในการทำงานของ Samsung Pay แต่ก็มีหลายๆร้านที่ตื่นตาตื่นใจกับมัน และยินดีที่จะเปิดรับการชำระเงินกันอยู่อีกเยอะเหมือนกัน แนะนำว่าพกบัตรสักใบสำรองเอาไว้ก็จะดีนะ กรณีเจอร้านที่ไม่รับ Samsung Pay ขึ้นมาจะซวยเอา

อย่างไรก็ดี เท่าที่เห็นก็มีร้านค้ารับชำระเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมเรื่อยๆ จากตอนแรกมีคนรู้จักน้อยมากกกกกกกกก ตอนนี้ก็จะเป็นน้อยยยยยย (จ่าย 10 ครั้งสำเร็จจริงสัก 7) แต่จากเรตการเติบโตที่ไปค่อนข้างไวมาก และ Samsung อัดโฆษณาเต็มที่แบบนี้ คาดว่าในอนาคตไม่ไกล ร้านค้าต่างๆจะรู้จักกันครบ และใช้งานได้สมูทขึ้นกว่าเดิมเยอะ

4. หยุดความเสี่ยงการเก็บข้อมูลบัตรจากร้านค้า

สิ่งที่ชอบมากอย่างนึงของการใช้ Samsung Pay คือ ไม่ต้องคอยระวังพนักงานร้านจดเลขบัตรเครดิต วันที่หมดอายุ และเลข CCV หลังบัตรไป เพราะปัจจุบันหลายๆคนอาจจะไม่รู้ว่าการจ่ายเงินแบบที่เรายื่นบัตรเครดิตไปให้พนักงานเค้าเดินไปมาเนี่ย เป็นความเสี่ยงที่สูงมาก เพราะเพียงแค่เค้าจดข้อมูลหรือถ่ายภาพบัตรเครดิตของเราไป เค้าก็สามารถเอาข้อมูลบนบัตรนั้นไปจับจ่ายใช้สอยได้ตามสะดวก ดังที่เคยเห็นข่าวว่ามีพนักงานฉ้อโกงเหล่านี้ เคยเอาข้อมูลบัตรของลูกค้ามาใช้งานมาแล้ว ในต่างประเทศหลายๆแห่งจะเอาเครื่องมาตั้งเอาไว้ให้ลูกค้ากดเสียบบัตรชำระเงินเองเลยด้วยซ้ำ

วางเอาไว้ด้านหน้าแคชเชียร์เลย จะได้ให้คนมากดรูดกันง่ายๆได้เอง ไม่ต้องผ่านมือพนักงาน

ในไทยนี่ซ้ำร้ายบางร้านมีความพยายามในเก็บข้อมูลของบัตรลงในฐานข้อมูลของร้านอีกต่างหาก อ้างว่าทำเพื่อตรวจสอบกรณีการชำระเงินมีปัญหา ฯลฯ แต่การกระทำแบบนั้นมันทำข้อมูลบัตรของเรามีความเสี่ยงสูงมาก เพราะเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าร้านค้าเหล่านั้นเอาข้อมูลเราไปทำอะไรบ้าง หรือเก็บเอาไว้แน่นหนาขนาดไหน เสี่ยงต่อการโดนแฮกรึเปล่า ร้านค้าใดที่ยังเก็บข้อมูลบัตรเครดิตลูกค้าอยู่แนะนำว่าเลิกได้ควรเลิกนะ ไม่ควรอย่างยิ่ง

แต่ถ้าเราใช้งาน Samsung Pay จะไม่ต้องกลัวเรื่องพวกนี้อีกต่อไป เพราะข้อมูลบัตรเครดิตจะไม่ได้แสดงขึ้นมา และทุกการยืนยันจะสามารถใช้งานได้เพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น เอาไปรูดมั่วๆซั่วๆไม่ได้ จะจดอะไรไปใช้งานต่อก็ไม่ได้เช่นกัน แต่เค้าอาจจะแฮปมือถือเราไปเลยแทน 555

5. จุดอ่อนของความปลอดภัย คือตัวเราเอง

สำหรับคนที่สงสัยว่า Samsung Pay มีความปลอดภัยขนาดไหน ลองอ่านที่เคยเขียนเอาไว้ใน ทำความรู้จัก Samsung Pay บริการที่จะทำให้เราไม่ต้องพกบัตรเครดิตให้ตุงกระเป๋าอีกต่อไป โดยสรุปแล้วคือความปลอดภัยของ Samsung Pay มีความแน่นหนาสูงมาก ทั้งโฟลวการใช้งาน, Samsung Knox, และระบบด้านหลังที่ได้รับการยอมรับระดับโลก ซึ่งจุดอ่อนเดียวที่ผมเห็นจากการใช้งานก็มีเพียงการเปิดให้มียืนยันตัวตนโดยการใช้ PIN แทนลายนิ้วมือ ถ้ามีใครรู้ขึ้นมาก็…ยาวครับ เพราะว่าเค้าสามารถกดใช้งานได้เลยทันทีโดยไม่ต้อปลอดล็อคหน้าจอเลยด้วยซ้ำ แต่ในกรณีมือถือหายนี่ไม่ต้องห่วงนะครับ เราสามารถโทรไปขอระงับการใช้งานผ่าน Call Center ของบัตรได้ทันที หรือใช้ Find my Phone ของ Samsung Galaxy ได้เลยครับ

6. โปรโมชั่นจากบัตรต่างๆอัดฉีดมาเพียบ

จากที่บอกในข้อแรกว่า Samsung Pay ได้รับการตอบรับดี และมีหลายๆบัตรเตรียมเข้าร่วมนั้น สิ่งนึงที่ยืนยันความฮอตของมันได้ดีก็คือแต่ละรายมีการออกโปรโมชั่นมาแข่งขันแย่งลูกค้ากันเต็มไปหมดนั่นเอง ก็ขอแปะเอาโปรโมชั่นบางส่วนมาแปะให้ได้ดูกันนะ

  • ซื้อตั๋วหนัง 1 ฟรี 1 เมื่อจ่ายด้วบัตร KTC Mastercard ในโรงเครือ SF

  • รับคะแนนสะสม 5 เท่า เมื่อจ่ายด้วยบัตรเครดิตซิตี้ ในห้างเครือ The Mall

  • ใช้จ่ายบ่อยครั้งที่สุด 3000 คนแรก จะได้ Battery Pack

  • และอื่นๆ

ไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.samsung.com/th/samsungpay/specialOffer.html เลยนะ

7. ระวังติดในลูปบริการของ Samsung จนออกไม่ได้

โทรศัพท์ของ Samsung ในช่วงหลังๆ นอกจากจะมีฟีเจอร์เด็ดๆออกมามากมาย หลายๆคนก็พร้อมที่จะควักเงินจ่ายกันอยู่แล้ว แต่ก็ยังมีเรื่องบริการเสริมอีกเพียบที่จะออกมาเพิ่มความน่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น

  1. Samsung Pay นอกเหนือจากที่เขียนในบทความนี้แล้ว ข้อจำกัดของมันก็ไม่ได้จบแค่เพียงใช้จ่ายด้วยบัตรเครดิต ในอนาคตเราอาจจะได้เห็นการรองรับบัตรเดบิต หรือไม่แน่ว่าถ้ามีการตกลงกันลงตัว เราอาจจะได้เห็น Samsung Pay ใช้ได้กับการจ่ายเงินรูปแบบอื่นๆในประเทศไทยที่จะมาในอนาคตอีกด้วยนะ หุหุ

  2. Galaxy Gift จนถึงตอนนี้มันก็มีอายุมาร่วม 3 ปีแล้ว แจกจ่ายส่วนลด และของฟรี คืนกำไรให้เหล่าผู้ใช้ไปเพียบ และกลายเป็นเหตุผลที่หลายๆคนเลือกซื้อ Samsung Galaxy ไปเสียด้วยซ้ำ ถ้าใครยังไม่เคยใช้ก็ขอให้ลองดู เพราะมีความหลากหลายครอบคลุมคนหลากหลายไลฟ์สไตล์เลยทีเดียวครับ หลังๆเห็นคนพยายามทำตามแต่ก็ยังไม่เห็นใครทำได้สำเร็จเทียบเท่าเลย
     โปรเยอะจริงอะไรจริง

  3. Personal Assistant ในปีหน้าเราอาจจะได้เห็น Siri ในเวอร์ชั่นของ Samsung ก็เป็นได้ หลังจากที่เราได้เห็นข่าวที่ Samsung ไปซื้อบริษัท Viv ที่รวมตัวเหล่าผู้ให้กำเนิด Siri มาตั้งเป็นบริษัทใหม่อีกแห่ง แต่มันจะดีกว่า Siri หรือ Google Assistant ขนาดไหนนั้น คงต้องรอดู

ซึ่งพวกสินค้าและผลิตภัณฑ์เหล่านี้ต้องบอกว่า Samsung เค้าไม่ได้เปิดให้ใช้กับเครื่องรุ่นอื่นยี่ห้ออื่น หากว่าใครใช้ทุกอย่างจนเคยชินแล้ว ต้องระวังว่าจะติดอยู่ในระบบ ecosystem ของ Samsung จนยากที่จะออกไปใช้สินค้าอื่นได้ แม้ว่าต่อไปจะมีอะไรที่น่าสนใจออกมาเพิ่มเติมก็ตาม

 

เมื่อคุณรู้ทั้ง 7 ข้อนี้แล้ว ก็ลองตัดสินใจกันดูนะ ว่าจะลองใช้ Samsung Pay กันรึเปล่า แต่ส่วนตัวตอนนี้ก็มีโอกาสเมื่อไหร่ก็ควักแต่มือถือ ไม่ควักกระเป๋าตังค์ละแจ้ แอบรู้สึกดีเบาๆเมื่อคนใช้ค่ายอื่นมาเห็นรู้สึกว้าวไปกับฟีเจอร์นี่ด้วย อิอิ

ใครได้ลองใช้แล้วมีคิดเห็นเกี่ยวกับ Samsung Pay อย่างไรบ้าง หรือมีคำถามเพิ่มเติมก็มาบอกกันได้ในคอมเมนต์เลยนะ