Samsung รายงานประกอบการประจำไตรมาสล่าสุด (สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน) มีรายรับรวม 77.2 ล้านล้านวอน และมีกำไรจากการดำเนินงานรวม 14.1 ล้านล้านวอน เพิ่มขึ้น 21% และ 12% ตามลำดับ จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า สูงที่สุดในรอบ 4 ปีหลังสุด เป็นผลมาจากยอดขายที่แข็งแกร่งของธุรกิจหน่วยความจำฝั่งเซิร์ฟเวอร์ ส่งผลให้ธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์มีรายรับสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์

ธุรกิจจอแสดงผลฝั่งมือถือของ Samsung ก็เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ไปได้สวย มีรายรับสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ในรายไตรมาสเช่นกัน สวนทางกับธุรกิจจอแสดงผลขนาดใหญ่ที่หดตัวลงจากสาเหตุสองประการ คือ ต้นทุน Quantum dot แพงขึ้น ซึ่งเป็นพาเนลที่ถูกนำไปใช้งานในทีวีระดับไฮเอนด์ และราคา LCD ถูกลง จากการทำสงครามราคาของผู้ผลิตฝั่งจีน

มีการวิเคราะห์กันว่า ธุรกิจจอ LCD มาถึงจุดตกต่ำสุด ๆ ในปีนี้ (จากที่เคยดีดตัวขึ้นไปช่วงหนึ่งตอนที่ COVID-19 ระบาดใหม่ ๆ เพราะคนแห่ซื้อทีวีไว้ดูแก้เบื่อที่บ้านช่วงล็อกดาวน์) จนทำให้ Samsung ตัดสินใจปิดสายการผลิตก่อนกำหนดถึง 6 เดือน (อ่านเพิ่มเติม)

Samsung ยังบอกอีกด้วยว่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นในช่วงนี้นั้นส่งผลดีต่อธุรกิจของทั้งบริษัท ทำให้มีกำไรเพิ่มขึ้นราว 1.3 ล้านวอน

ทั้งนี้ Samsung เชื่อว่าปัญหาเศรษฐกิจทั่วโลกจะยังคงเป็นแบบนี้ต่อไปในช่วงครึ่งปีหลัง สินค้าอุปโภคเช่นมือถือและพีซี อาจขายได้น้อยลง ลุกลามไปถึงตลาดองค์กร แต่ยังพอมีหวังจะดีขึ้นในช่วงสิ้นปีจากการออกโปรโมชันต่าง ๆ

 

ดูข้อมูลเพิ่มเติม : Samsung