Samsung ทำกำไรมากขึ้น 26% ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2020 จากการขายชิป ส่วนแผนกมือถือกำไรหด

Samsung ได้ปล่อยข้อมูลผลประกอบการสำหรับช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2020 โดยสามารถทำกำไรถึง 8,150 ล้านล้านวอน (ราว ๆ 24,100 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นมากกว่าไตรมาสที่ 2 ของปี 2019 ถึง 26% ทั้ง ๆ ที่รายได้รวมลดลง 6% โดยทาง Samsung ให้ข้อมูลว่าผลประกอบการของไตรมาสนี้ดีกว่าที่คาดไว้มาก สวนทางกับยอดขายมือถือสมาร์ทโฟนที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัดจากสถานการณ์ COVID-19 ที่กำลังระบาดไปทั่วโลก

หลังจากที่เกิดโรคระบาด COVID-19 ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2020 แบรนด์สมาร์ทโฟนหลาย ๆ แบรนด์ก็ต้องประสบปัญหายอดขายที่ตกลงจากการที่ต้องปิดหน้าร้านหลายสาขา รวมถึงพฤติกรรมการจับจ่ายใช้เงินของผู้บริโภคที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด แต่ถึงอย่างนั้น Samsung ก็ยังทำผลประกอบการโดยรวมออกมาได้ดีเมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปี 2020 หรือไตรมาสเดียวกันเมื่อปี 2019 โดยสาเหตุมาจากแผนก Semiconductor (ชิป) ที่มีความต้องการสูงขึ้นในช่วง COVID-19 ซึ่งเหล่าผู้บริโภคต้องเปลี่ยนมาทำงานหรือเรียนออนไลน์จากบ้าน ทำให้สินค้าประเภทหน่วยความจำ SSD, DRAM, DDR4 ฯลฯ ที่เอาไว้ใช้กับ PC ขายดีขึ้นเป็นอย่างมาก

อย่างไรก็ตามผลประกอบการจากมือถือทั่วโลกที่ลดลงก็ทำให้ยอดขายชิ้นส่วนจำพวกหน้าจอ และชิปหน่วยความจำลดลงตามไปด้วย แต่ถึงอย่างนั้นในแผนก Semiconductor ของ Samsung นั้นก็ยังนับรวมเป็น 2 ใน 3 ของผลกำไรทั้งหมดในไตรมาสนี้เลยทีเดียว นอกจากนี้ Samsung ยังมีรายได้แบบไม่คาดฝันมาจากเงินค่าปรับที่ได้มาจาก Apple เหตุยอดสั่งจอ OLED ไม่ถึงเป้าที่ตกลงกันไว้ รวมเป็นเงินถึง 924 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ ( 29,157 ล้านบาท )

ทาง Samsung ก็ยังคาดการณ์ไว้ว่ายอดขายมือถือในช่วงไตรมาสที่ 3 นั้นอาจมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากการเปิดตัวมือถือเรือธง และอุปกรณ์อื่น ๆ มากมายทั้ง Galaxy Note 20 Ultra, มือถือจอพับ Galaxy Z Fold 2, แท็บเล็ต Galaxy tab S7 ฯลฯ ซึ่งหลังจากนี้ หากสถานการณ์ COVID-19  เริ่มคลี่คลายแล้ว ผลประกอบการมือถือในไตรมาสที่ 3 จะเป็นไปตามที่ Samsung คาดไว้หรือไม่…ก็ต้องมารอดูกันต่อไปครับ

Source: TheVerge, Sammobile