ดูเหมือนว่า Samsung จะโดนวิกฤตเงินเฟ้อและเศรษฐกิจซบเซาเล่นงานเข้าไปเต็ม ๆ เพราะล่าสุดมีรายงานออกมาว่าตอนนี้ Samsung มีมือถือขายไม่ออกค้างสต๊อกอยู่เพียบกว่า 50 ล้านเครื่อง โดยส่วนใหญ่เป็นมือถือซีรีส์ Galaxy A ทำให้ตอนนี้ต้องลดจำนวนการผลิตมือถือลงไปชั่วคราวก่อน

ตามรายงานบอกว่าในปี 2022 นี้ ทาง Samsung คาดการณ์ว่าจะสามารถส่งมอบมือถือได้ถึง 270 ล้านเครื่อง แต่ตอนนี้กลับมีเครื่องค้างสต๊อกอยู่ถึง 50 ล้านเครื่อง คิดเป็นจำนวนมากถึง 18% จากที่ Samsung ตั้งเป้าไว้ หากนำไปเทียบกับปีที่ผ่าน ๆ มา ในสถานการณ์ปกติจะมีมือถือค้างสต๊อกอยู่ที่ประมาณ 10% เท่านั้น

เห็นแบบนี้แล้วบางคนอาจคิดว่าเหล่ามือถือที่ค้างสต๊อกพวกนี้ น่าจะเป็นมือถือในระดับไฮเอนด์ที่มีราคาสูงอย่าง Galaxy S22 Series หรือซีรีส์จอพับ Galaxy Z Fold / Flip รึเปล่า? แต่จริง ๆ แล้วมือถือที่ขายไม่ออกกลับกลายเป็นมือถือระดับกลางซีรีส์ Galaxy A ซะนี่ 

มีการวิเคราะห์ว่าที่มือถือซีรีส์ Galaxy A ที่มีตั้งแต่รุ่นราคาสุดคุ้มไปจนถึงรุ่นที่มีราคาขึ้นมาในระดับหมื่นกลาง – หมื่นปลาย เหลือค้างสต๊อกมากที่สุด ก็เนื่องจากฐานลูกค้าของมือถือระดับนี้โดนเล่นงานจากพิษเศรษฐกิจมากที่สุด ก็เลยทำให้ไม่มีความจำเป็นจะต้องซื้อมือถือใหม่นั่นเอง ส่วนฐานลูกค้าสำหรับมือถือระดับไฮเอนด์ซึ่งไม่ค่อยโดนผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจ (หรือโดนแต่ไม่มาก) ก็ยังคงมีแรงซื้อมือถือแพง ๆ ได้อยู่

นอกจากนี้ยังมีรายงานออกมาด้วยว่าเมื่อช่วงเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ 2022 ทาง Samsung ผลิตมือถือถึงเดือนละกว่า 20 ล้านเครื่อง แต่มาเริ่มลดกำลังผลิตลงครึ่งนึงเหลือเพียงเดือนละ 10 ล้านเครื่องเมื่อช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมานี่เอง แถมยังมีข้อมูลด้วยว่า Samsung จะลดการผลิตมือถือของปีนี้ลงไปกว่า 30 ล้านเครื่องจากที่เคยตั้งเป้าไว้ และทาง Samsung ก็พึ่งส่งจดหมายหา Supplier เพื่อขอชะลอการนำเข้าส่วนประกอบสำหรับผลิตมือถือกับเครื่องไฟฟ้าเนื่องจากยังไม่สามารถระบายสินค้าออกจากสต๊อกได้

ก็ไม่รู้ว่าหลังจากนี้เศรษฐกิจทั่วโลกจะเริ่มฟื้นตัวเมื่อไหร่ และ Samsung จะทำยังไงต่อไปกับสินค้าที่ยังเหลือค้างสต๊อกอยู่แบบนี้ด้วย

 

ที่มา : Thelec