หลังจากที่เหรียญ BitCoin และ Cryptocurrency มีราคาเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา รวมถึงมีความผันผวนขึ้นลงค่อนข้างสูง ทางด้าน ก.ล.ต จึงได้ออกมาเตรียมยกระดับการกำกับดูแลการซื้อขายเหรียญคริปโทเคอร์เรนซีเพื่อคุ้มครองผู้ลงทุน โดยเบื้องต้นจะมีการกำหนดคุณสมบัติทั้งด้านการเงินและด้านความรู้ ซึ่งสิ่งที่เป็นประเด็นกันอยู่ในตอนนี้เลยคือ ผู้ลงทุนต้องมีรายได้ต่อปี 1 ล้านขึ้นไป ถึงจะลงทุนได้

ล่าสุดทาง ก.ล.ต. (สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์) ได้ออกมาเปิดรับฟังความเห็นเกี่ยวกับการกำหนดคุณสมบัติของผู้ลงทุนในคริปโทเคอร์เรนซี และกำหนดหลักเกณฑ์ให้ผู้ประกอบธุรกิจต้องทดสอบความรู้ ของผู้ลงทุนก่อนการให้บริการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อให้มีกลไกคุ้มครองผู้ลงทุนที่เหมาะสม

เนื่องจากคริปโทเคอร์เรนซี (cryptocurrency) เป็นนวัตกรรมทางการเงินรูปแบบใหม่ที่มีความผันผวนสูง การลงทุนจึงต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจรับความเสี่ยงจากการได้รับผลขาดทุนจากการลงทุนได้ เบื้องต้นได้กำหนดหลักเกณฑ์ของผู้ลงทุนออกมา 2 เป็นด้านคือ

ด้านการเงิน

  • มีรายได้ต่อปี ไม่นับรวมกับคู่สมรส ตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป หรือ
  • มีสินทรัพย์สุทธิ(net worth) ตั้งแต่ 10 ล้านบาท โดยไม่นับรวมมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ซึ่งใช้เป็นที่พักอาศัยประจำ หรือ
  • มีมูลค่าการลงทุนในหลักทรัพย์ สัญญาซื้อขายล่วงหน้า หรือสินทรัพย์ดิจิทัล (port size) ตั้งแต่ 5 ล้านบาทขึ้นไป

ด้านความรู้

  • ต้องเป็นผู้ลงทุนที่มีประสบการณ์ลงทุนในคริปโทเคอร์เรนซี หรือ มีประสบการณ์ลงทุนในหลักทรัพย์ หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ไม่น้อยกว่า 2 ปีหรือ เป็น professional ตามที่สำนักงานกำหนด เช่น CFA, CISA, CAIA หรือ CFP เป็นต้น

ในกรณีผู้ลงทุนที่ไม่เข้าข่ายข้อกำหนดข้างต้น จะไม่สามารถลงทุนใน Cryptocurrency โดยตรงได้ จะต้องผ่านผู้จัดการเงินทุนสินทรัพย์ดิจิทัล (DA Fund manager) เท่านั้น รวมถึงในการเปิดบัญชีใช้บริการใหม่ ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลต้องกำหนดจำนวนเงิน ขั้นต่ำในการเปิดบัญชีไม่ต่ำกว่า 1,000 บาท

อย่างไรก็ตามข้อกำหนดคุณสมบัติทั้งหมดยังอยู่ในขั้นตอนรับฟังความคิด โดยจะเปิดให้ผู้สนใจแสดงความคิดเห็นได้ที่เว็บไซต์ หรือทาง e-mail: ekarit@sec.or.th และ chawin@sec.or.th จนถึงวันที่ 27 มีนาคม 2564 ครับ  และจะมีการเสวนาเพื่อรับฟังความคิดเห็นผ่านทางเฟซบุ๊กไลฟ์ เพจ “สำนักงาน กลต.” ในวันที่ 24 มีนาคม 2564 เวลา 14.00 – 16.00 น. ด้วยเช่นกัน

 

ที่มา : sec, เอกสารเกี่ยวข้อง