ปัจจุบันค่ายมือถือหลายๆ เจ้าเริ่มออกสมาร์ทโฟนที่สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตไร้สายแบบ 5G ได้แล้ว ทั้งรุ่นเรือธง ยันรุ่นระดับกลางๆ (คาดว่าอีกหน่อยน่าจะมีรุ่นเริ่มต้นออกมาด้วย) โดยในบทความนี้ ผมได้รวบรวมมือถือ และแท็บเล็ตเครื่องศูนย์ที่ใช้ 5G ได้ในไทย ว่ามีรุ่นอะไรบ้าง

รายชื่อสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตเครื่องศูนย์ไทยที่สามารถใช้งาน 5G ได้

ชื่ออุปกรณ์

5G บนคลื่น 700MHz

5G บนคลื่น 2600MHz

5G บนคลื่น 26GHz

Huawei Mate 30 Pro 5Gรองรับรองรับไม่รองรับ
Huawei P40 5Gรองรับรองรับไม่รองรับ
Huawei P40 Pro 5Gรองรับรองรับไม่รองรับ
Huawei P40 Pro+ 5Gรองรับรองรับไม่รองรับ
Huawei Mate Xs 5Gรองรับรองรับไม่รองรับ
Huawei nova 7 5Gไม่รองรับรองรับไม่รองรับ
Huawei nova 7 SE 5Gรองรับรองรับไม่รองรับ
Galaxy Note 20 รองรับรองรับไม่รองรับ
Galaxy Note 20 Ultraรองรับรองรับไม่รองรับ
Galaxy S20 Ultra 5Gไม่รองรับรองรับไม่รองรับ
Galaxy A71 5Gไม่รองรับรองรับไม่รองรับ
Galaxy Z Fold 2 5G รองรับรองรับไม่รองรับ
Galaxy S20 FE 5G รองรับรองรับไม่รองรับ
OPPO Find X2 5Gรองรับรองรับไม่รองรับ
OPPO Find X2 Pro 5Gรองรับรองรับไม่รองรับ
OPPO Reno 4 Pro 5Gรองรับรองรับไม่รองรับ
OPPO Reno 4Z 5Gรองรับรองรับไม่รองรับ
OnePlus Nordรองรับไม่รองรับไม่รองรับ
Vivo NEX 3 5Gไม่รองรับรองรับไม่รองรับ
Vivo X50 Pro 5Gไม่รองรับรองรับไม่รองรับ
Vivo V20 Pro 5Gไม่รองรับรองรับไม่รองรับ
realme X50 5Gรองรับรองรับไม่รองรับ
realme X50 Pro 5Gรองรับรองรับไม่รองรับ
nubia RedMagic 5Gไม่รองรับรองรับไม่รองรับ
Asus ROG Phone 3รองรับรองรับไม่รองรับ

 

ในปัจจุบัน ประเทศไทยของเรามีการประมูลคลื่น 5G ไปทั้งหมด 3 คลื่นความถี่ด้วยกัน ได้แก่

  • คลื่น 700MHz (AIS, Truemove H และ dtac)
  • คลื่น 2600 MHz (AIS และ Truemove H)
  • คลื่น 26GHz) (AIS, Truemove H และ dtac)

แต่ตอนนี้ ผู้ใช้งานทั่วไปอย่างเราจะใช้งาน 5G ได้เฉพาะแค่บนคลื่นความถี่ 2600MHz  ซึ่งปัจจุบันมีเพียงแค่ AIS และ Truemove H เท่านั้น ที่มีใบอนุญาตจากการประมูลคลื่น 5G เมื่อครั้งที่ผ่านมาก สำหรับคนที่ใช้ dtac ก็อาจจะต้องรอต่อไปอีกซักพักนึง โดยล่าสุดทาง dtac เองก็ออกมาประกาศว่า พวกเขามีแผนเปิดใช้งาน 5G บนคลื่น 700MHz ที่มีอยู่ในราวๆ ช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี หรือช่วงสิ้นปีนั่นเอง

อีกทั้งในบรรดาสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ตที่รวบรวมในตารางด้านบน ส่วนนี้จะรองรับการใช้งาน 5G เพียงแค่แบบ Sub-6 นะครับ ในประเทศไทยจะยังไม่มีรุ่นใดที่รองรับคลื่น mmWave แม้แต่รุ่นเดียว และหากเพื่อน ๆ สงสัยว่า ” 5G แบบ Sub-6 กับ mmWave ต่างกันยังไง?” ในส่วนนี้ขอสรุปแบบสั้น ๆ ตามนี้นะครับ

  • 5G แบบ Sub-6: คลื่นความถี่ที่ต่ำกว่า 3.5GHz สามารถกระจายสัญญาณได้ดี มีระยะทำการใกล้ไกลขึ้นกับความถี่ ยิ่งต่ำยิ่งไกล ยิ่งสูงยิ่งใกล้ ซึ่งความต่างของระยะนี้อาจจะแตกต่างกันเป็นเท่าตัวได้ (เช่น 700 MHz vs 2600 MHz) เหมาะกับการติดตั้งเพื่อสร้างความครอบคลุม แต่จะทำความเร็วได้ไม่แรงนัก ด้วยข้อจำกัดในเรื่องแบนด์วิธที่จำกัด 5 – 100 MHz เท่านั้น (แต่ก็ยังแรงกว่า 4G)
  • 5G แบบ mmWave: คลื่นความถี่ที่สูงกว่า 24GHz ลักษณะของคลื่นมีความอ่อนไหว หากโดนกวนเพียงเล็กน้อย หรือมีอะไรบางๆมาขวาง ก็อาจจะส่งสัญญาณไม่ผ่านแล้ว เหมาะสำหรับการติดตั้งในพื้นที่ควบคุม ไม่มีอะไรมากั้น เช่นสนามกีฬา คอนเสิร์ตฮอล ที่มีคนจำนวนมากใช้งานอินเทอร์เน็ตพร้อมกัน เพราะมีแบนด์วิธปริมาณมหาศาล เยอะกว่าแบบ Sub-6 หลายเท่าตัว (100 – 1200 MHz)

ส่วนใครที่อยากรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่อง 5G ในประเทศไทย อันนี้ผมก็แนะนำให้ลองกดอ่านบทความด้านล่างได้เลยครับ มีเล่ารายละเอียดเกี่ยวกับคลื่นที่ใช้ใน 5G ทั้ง Low, Mid, High Band และบอกว่าประเทศไทยเรามีแบนด์ไหนใช้บ้างอีกด้วย

เรื่องเล่า 5G | ประเทศไทยคลื่น Band ไหน n อะไร, Low – Mid – High Band ต่างกันอย่างไร?

ทั้งหมดนี้ก็คือสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ตที่วางขายอย่างเป็นทางการในบ้านเรา (ไม่นับเครื่องนอก หรือเครื่องหิ้ว) ที่สามารถใช้งาน 5G ในประเทศไทยได้นะครับ เอาไว้หากมีรุ่นไหนเพิ่มเติมเข้ามา ผมจะรีบเข้ามาอัปเดตให้ทันทีเล๊ยย~~ 😆😁