ณ เวลานี้เวลาพูดถึงกล้องมือถือแทบทุกคนก็จะคุ้นกับคำโฆษณาว่าที่ว่าต้องเป็นกล้อง AI ถึงจะออกมาได้ภาพที่สวยเฉียบโดนใจ และผู้ผลิตหลายๆ เจ้าก็พร้อมใจกันที่จะพัฒนากล้องทั้งหลังและหน้าของมือถือให้ออกมาพร้อมกับเทคโนโลยีนี้ ล่าสุดทางทีมงานโซนี่ที่พัฒนากล้องคู่หน้าของ Xperia XA2 Ultra เองก็ได้ให้สัมภาษณ์ในบล็อก Sony Mobile ว่ากำลังพัฒนากล้องหน้าแบบ AI อยู่
สำหรับใครๆ ที่คุ้นชินกับมือถือโซนี่ก็น่าจะทราบดีอยู่ว่าแม้โซนี่จะไม่เคยพูดถึงคำว่า AI Camera มาก่อน แต่โซนี่ก็มีระบบออโต้ของตัวเองที่เรียกว่า Superior Auto ที่นำเสนอมาตั้งแต่สมัย Xperia Z1
โดยโหมดนี้สามารถจำแนกประเภทภาพได้มากถึง 36 รูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นโหมด แสงน้อย, ถ่ายย้อนแสง, ถ่ายสปอตไลท์, เอกสาร, มาโคร, โหมดขาตั้งกล้อง, โหมดเดิน, โหมดเคลื่อนไหวเร็ว และอื่นๆ ซึ่งนั่นเองก็นับเป็น AI ลักษณะหนึ่ง แต่ก็ต้องยอมรับว่าการทำงานของมันนั้นอาจจะไม่ได้รวดเร็วหรือปรับแต่งภาพออกมาได้ดีนักในระดับที่ผู้ใช้งานสังเกตเห็นได้ เลยไม่เป็นที่กล่าวขานกัน
โหมดขาตั้งกล้อง + โหมดแสงน้อย
ระบบของ Superior Auto นั้นค่อนข้างจำกัดอยู่กับกล้องหลังของ Xperia และมีเพียงรุ่นทอปๆ เท่านั้นที่ใช้งานกับกล้องหน้าเพื่อให้คัดแยกได้แค่บางสถานการณ์ ทำให้การที่โซนี่แอบเผยมาว่าแนวทางการพัฒนากล้องเซลฟี่ใน Xperia รุ่นต่อๆ ไปนั้นน่าจะเป็นการเพิ่ม AI เข้ามาก็ทำให้น่าสนใจว่าจะเป็นการยก Superior Auto ไปให้กับกล้องหน้า หรือจะเป็นการยกเครื่องระบบใหม่เลย
ไม่ว่าโซนี่จะเลือกแนวทางไหนก็ดูจะเป็นแนวทางที่น่าสนใจทั้งคู่ครับ ยิ่งถ้าโซนี่ยกเครื่องซอฟต์แวร์กล้องใหม่และพัฒนาตามแนวทางที่ CEO คนใหม่ให้สัมภาษณ์ว่าจะเน้นพัฒนากล้องให้กับ Xperia แล้วล่ะก็ เชื่อว่าน่าจะทำให้ Xperia กลับมาดูน่าสนใจขึ้นกว่าเดิมได้อย่างแน่นอน
ที่มา: Xperia Blog, Sony, Youmiuri
Superior Auto คือ algorithm ธรรมดาแหละครับ AI คือ algorithm + เรียนรู้เรื่อยๆ ต่างกันตรงนี้เอง
แค่มีการตัดสินใจเป็นเงื่อนไขก็นับเป็น AI แล้วล่ะครับ แต่นับเป็น Classical AI ที่เรากำหนดเกณฑ์ตัดสินใจแทบทุกอย่างเอง ต่างจาก AI ใหม่ๆ ที่มีกระบวนการฝึกและถ่วงน้ำหนักผลลัพธ์ออกมาต่างกัน ทำให้เงื่อนไขที่ถูกซอยยิบย่อยนั้นมากกว่าสมัยก่อน (แต่ก็ยังไม่เห็นเจ้าไหนระบุในส่วนของกล้องว่ามีการเรียนรู้เรื่อยๆ นะครับ จากที่ผมทราบมา)
โดยหลักการทำงานแล้ว Superior Auto ก็ไม่ต่างกับ AI สมัยใหม่นักเพราะมีการวิเคราะห์และตัดสินใจจากองค์ประกอบของภาพเหมือนกัน แต่คิดว่ามันไม่ได้มีเงื่อนไขละเอียดมากเท่ากับ AI ใหม่ รวมถึงกระบวนการปรับโทนสี แสง ก็คงไม่ได้ดีเท่าด้วยนั่นเอง
แค่มี if 1 อันมันก็นับเป็น AI แล้วครับ เพราะงั้นการใช้ AI ในการถ่ายภาพมันก็เป็นอะไรที่มีมานานแล้ว
สิ่งที่ AI ยุคนี้ต่างจากยุคก่อนมันคือพลังประมวลผลครับ กล้องมันต้องประมวลผลแบบ real-time และสมัยก่อนมันไม่แรงพอที่จะประมวลผลที่ซับซ้อนแบบ real-time มันจึงไม่สามารถจำแนกฉากซับซ้อนได้แบบทุกวันนี้ที่ความสามารถในการประมวลผลสูงกว่ามาก (พูดง่ายๆก็คือฉลาดไม่เท่า)
ส่วนเรียนรู้เรื่อยๆเรียกว่า machine learning ครับ ตีความง่ายๆมันก็คือ AI ที่พัฒนาตัวเองได้
เพราะเหตุนั้นแล้ว การที่บอกว่ากล้องนี้ใช้ AI มันก็ไม่ได้การันตีว่าภาพจะดีครับ มันไม่ต่างจากเราพูดว่ากล้องนี้มีโหมด Auto นั่นแหละ
แล้วทำไมเขาถึงใช้คำว่า AI? มันเป็นการตลาดครับ ใส่คำว่า AI ให้มันดูล้ำสมัย คนซื้อจะได้รู้สึกว่ามันดี แค่นั้นแหละครับ
ขอบคุณสำหรับคำอธิบายเพิ่มเติมครับ ผมเข้าใจขึ้นเยอะเลย จริงๆ ผมแอบคิดในใจมานานละ เห็นบางเจ้าโฆษณาว่า AI อย่างนู้นอย่างนี้ เช่น จับ scene ไรงี้ได้ มันก็ไม่ต่างกับกล้องดิจิตอลที่ใช้กันมานานเป็นสิบๆ ปีแล้วด้วยซ้ำ สำหรับผม ผมคิดว่าถ้าจะ AI จริงๆ ต้องเรียนรู้ต่อได้ด้วย เหมือนที่ Pixel โฆษณาไว้น่ะครับ ^^
อย่าลืมพัฒนากล้องหลังด้วยนะครับ เอาให้เทพแบบ A7lll เลยได้ม่ะ พลีสสส รอดู xz2 premium
ขอแต่ Sensor 1/1.7" เท่ากับ กล้องหลักของ P20 Pro แต่ ยัดมาเป็น มา 2 Module เป็น Wide + Tele พร้อม OIS 5 แกน สำหรับ HW ผมว่าแค่นี้ก็โครตสุดสำหรับมือถือแล้วนะ
มือถือหลายๆค่ายก็ใช้เซนเซอร์จาก Sony
รอชม