Sony เปิดตัวเครื่องเล่นเกม PlayStation 5 Pro (PS5 Pro) อย่างเป็นทางการ รายละเอียดส่วนใหญ่แทบไม่ผิดเพี้ยนไปจากข่าวลือ รวมถึงดีไซน์ที่หลุดออกมา ในรุ่นนี้มีการอัปเกรดที่สำคัญ 3 ประการ คือ การปรับปรุงจีพียูครั้งใหญ่ การแสดงผล ray tracing ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และการนำ AI เข้ามาช่วยอัปสเกลภาพ เรียกว่า PlayStation Spectral Super Resolution (PSSR)

ซ้าย PS5 Pro ; ขวา PS5 Slim

PS5 Pro หน้าตาคล้าย PS5 Slim ตัวเครื่องใหญ่กว่าเล็กน้อย และมีกันสาด (?) เพิ่มมา บริเวณรอยต่อระหว่างเพลตชิ้นบนกับชิ้นล่าง โดยที่เพลตชิ้นล่างของด้านขวา ยังสามารถถอดออกมาเพื่อประกอบไดรฟ์อ่านแผ่นเข้าไปได้ตามเดิม ข้อแตกต่างคือ PS5 Pro ไม่มีชุดบันเดิลที่ขายพร้อมกับไดรฟ์อ่านแผ่นแล้ว หากต้องการใช้งาน ต้องซื้อแยกเองในภายหลัง

ยังประกบไดรฟ์อ่านแผ่นได้ แต่ไม่มีชุดบันเดิลแล้ว

ที่ผ่านมา ชาวเกม PS5 ต้องเลือกระหว่าง performance mode เพื่อที่จะรันเกมให้ได้เฟรมเรตสูงกว่า 30 fps เน้นความลื่นไหล หรือ fidelity mode สำหรับภาพความละเอียด 4K เน้นความสวยงาม อาจนำไปสู่ความรู้สึก ‘รักพี่เสียดายน้อง’ แต่การมาของ PS5 Pro จะช่วยแก้ไข (หรือบรรเทา) ปัญหาดังกล่าว เพราะ PS5 Pro แรงพอที่จะประมวลผลเกม 60 fps แบบ 4K ได้

จีพียูที่อัปเกรดใหม่บน PS5 Pro มี compute unit (CU) เพิ่มขึ้น 67% พร้อมเปลี่ยนมาใช้หน่วยความจำที่เร็วขึ้น 28% ส่งผลให้ในภาพรวม PS5 Pro สามารถเรนเดอร์เกมได้เร็วกว่าเดิมสูงสุด 45% และมีจำนวนแสงของ ray tracing มากกว่า PS5 ประมาณ 2 ถึง 3 เท่า

นอกจากนี้ PS5 Pro ยังมีฟีเจอร์ Game Boost ช่วยปรับปรุงความเสถียรของเกม PS4 และ PS5 เดิม เมื่อนำมาเล่นบนเครื่องรุ่นใหม่ โดยมีเกมรองรับมากกว่า 8,500 เกม และในขณะเดียวกัน ก็มีฟีเจอร์ Enhanced Image Quality ช่วยเพิ่มความละเอียดให้เกม PS4 โดยเฉพาะ

สำหรับเกม PS5 ที่มีอยู่แต่เดิม บางเกมจะได้รับการอัปเดตเพื่อดึงเอาประโยชน์จากฮาร์ดแวร์ PS5 Pro ออกมาใช้ รวมถึงเกมที่จะออกใหม่ก็จะถูกปรับปรุงไปในแนวทางนี้ เกมกลุ่มนี้จะมีตรา PS5 Pro Enhanced กำกับอยู่

ของใหม่อย่างอื่นที่เพิ่มมาใน PS5 Pro คือ การรองรับ Wi-Fi 7 การรองรับ VRR และการรองรับเกมความละเอียด 8K ตัวเครื่องมีความจุ 2TB เปิดราคา 699.99 ดอลลาร์ หรือประมาณ 23,500 บาท เริ่มขายวันที่ 7 พฤศจิกายน 2024 ในกลุ่มประเทศเทียร์แรก (ส่วนไดรฟ์อ่านแผ่น ในไทยขายอยู่ 3,790 บาท)

ที่มา : PlayStation