คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าของอินเดีย (CCI) เรียกคืนรายงานการสอบสวน Apple ในข้อกล่าวหาที่ว่า บริษัทสัญชาติอเมริกันรายนี้ ใช้อำนาจทางตลาด เรียกเก็บส่วนแบ่งที่ไม่เป็นธรรมกับนักพัฒนา หลังเริ่มการสอบสวนมาตั้งแต่ปี 2021 เนื่องจาก Apple ร้องเรียนว่า เอกสารที่ถูกนำมาใช้ประกอบการพิจารณาคดี มีข้อมูลที่ละเอียดอ่อนและเป็นความลับหลายอย่าง ส่งผลให้กระบวนการสอบสวนที่แต่เดิมก็ล่าช้าไปมากอยู่แล้ว ยิ่งกินเวลานานขึ้นไปอีก
แม้ช่วงหลังอดขาย iPhone จะเริ่มฟื้นตัวจากวิกฤติมาได้เป็นลำดับ พอให้ Apple ได้หายใจหายคอโล่งขึ้นบ้าง แต่หลังบ้าน Apple ยังคงเผชิญกับเรื่องปวดหัวจากสารพัดคดีการฟ้องร้องต่อไป โดยเฉพาะคดีเกี่ยวกับการผูกขาดที่ Apple มีโจทก์อยู่หลายราย ทั้งสหภาพยุโรป กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ การฟ้องร้องแบบกลุ่มในสหราชอาณาจักร และล่าสุดก็มีคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าของสเปน หรือ CNMC เข้ามาผสมโรงเพิ่มอีกราย
คณะกรรมาธิการการค้าที่เป็นธรรมของญี่ปุ่น (JFTC) ออกแถลงการณ์เมื่อวันจันทร์ เกี่ยวกับผลการสอบสวน Google ในกรณีกีดกันไม่ให้ Yahoo Japan เข้าถึงเครื่องมือหรือเทคโนโลยีที่ที่จำเป็นในการรับรายได้จากโฆษณาแบบกำหนดเป้าหมาย (targeted advertising) บนมือถือและแท็บเล็ตเมื่อหลายปีก่อน ผลคือ Google ถูกตัดสินว่ามีพฤติกรรมเข้าข่ายผูกขาดทางการค้า และแทรกแซงธุรกิจของคู่แข่ง แต่ Google รอดตัว ไม่โดนปรับเงิน
เมื่อวานนี้ กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ (Department of Justice: DOJ) ร่วมกับอัยการ 15 รัฐ และวอชิงตัน ดี.ซี. ยื่นฟ้อง Apple ต่อศาลกลางของรัฐนิวเจอร์ซีย์ ข้อหาผูกขาดทางการค้าในตลาดสมาร์ทโฟนด้วยเทคนิคและวิธีการกีดกันต่าง ๆ ซึ่งส่งผลเสียต่อทั้งผู้บริโภคและนักพัฒนา โดย Merrick B. Garland อัยการสูงสุดของสหรัฐฯ กล่าวในงานแถลงข่าวว่า Apple เลือกที่จะทำให้คู่แข่งดูแย่ลง แทนที่จะพัฒนาสินค้าและบริการของตนให้ดีขึ้น
ดูท่าว่าสหภาพยุโรป (EU) จะกลายเป็นของแสลงสำหรับ Apple ไปเสียแล้ว จากประเด็นต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นแทบไม่หยุดหย่อนในช่วงที่ผ่าน เช่นกรณี USB-C กับกฎหมาย DMA และ Right to Repair ที่ไม่ว่าจะอย่างไหน Apple ก็แสดงท่าทีไม่เห็นด้วย แต่ก็ต้องจำใจปฏิบัติตาม ล่าสุดยังมีประเด็นใหม่เกิดขึ้นอีก คือ Apple จ่อถูกคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ปรับ 500 ล้านยูโร หรือประมาณ 20,000 ล้านบาท กรณีผูกขาดแอปตรีมเพลง
รัฐสภายุโรปผ่านกฎหมาย Digital Markets Act เพื่อควบคุมธุรกิจบนแพลตฟอร์มดิจิทัล (เช่น โซเชียลมีเดีย และบริการออนไลน์อื่น ๆ) ให้เกิดความโปร่งใส เป็นธรรม สามารถตรวจสอบได้ และเพื่อเป็นการป้องกันการผูกขาดไม่ให้บริษัทยักษ์ใหญ่มีอำนาจเหนือตลาด โดยจะมีผลบังคับใช้ในปี 2024 ในยุโรป – ล่าสุดมีรายงานว่า ญี่ปุ่นเป็นอีกหนึ่งประเทศที่อยู่ระหว่างการร่างกฎหมายต่อต้านการผูกขาดลักษณะเดียวกับกฎหมาย DMA ซึ่งมีเป้าหมายหลักคือ การกำกับดูแล Apple และ Google
เกมแมวจับหนูระหว่าง Apple และ Beeper ที่ดำเนินมาตลอดทั้งเดือนธันวาคม กำลังจะนำพาปัญหาใหม่มาให้ Apple เมื่อล่าสุดมีรายงานว่ากระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) และคณะกรรมการการค้าสหรัฐฯ (FTC) ได้จับตาดูสถานการณ์นี้อย่างใกล้ชิด โดยทั้งสองหน่วยงานกำลังพิจารณาว่าการกระทำของ Apple เข้าข่ายการผูกขาดทางการค้าและมีอำนาจเหนือตลาดหรือไม่
Meta ในฐานะเจ้าของ Facebook นั้นขึ้นชื่อเรื่องการถูกกล่าวหาและฟ้องร้องอยู่เป็นประจำอยู่แล้ว กับประเด็นการหาประโยชน์จากข้อมูลส่วนตัว (Personal Data) ของผู้ใช้งาน แต่ข่าวล่าสุดนี้อาจมีความน่าสนใจเป็นพิเศษหลังนักกฎหมายในอังกฤษประกาศกร้าว “เดินหน้าดำเนินคดีเรียกค่าเสียหายมูลค่าแสนล้านบาทกับ Meta โดยเป็นการฟ้องคดีแบบกลุ่มแทนผู้ใช้งานในอังกฤษกว่า 44 ล้านรายทั้งประเทศสำหรับการใช้อำนาจเหนือตลาดและหาประโยชน์จากข้อมูส่วนตัวอย่างไร้ขอบเขตของ Facebook
ดูเหมือนว่าดีลการเทคโอเวอร์ ARM มูลค่ากว่า 4 หมื่นล้านเหรียญ หรือประมาณ 1.357 ล้านล้านบาทของ NVIDIA จะเจอเข้ากับอุปสรรคอย่างจังซะแล้ว เมื่อ Federal Trade Commission (FTC) หรือคณะกรรมการด้านการค้าของสหรัฐฯ ได้ออกมายื่นฟ้อง ขอบล็อคการฮุบกิจการครั้งนี้ของ NVIDIA เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดการกีดกันทางการค้า ทำให้ไม่เกิดเทคโนโลยีใหม่ ๆ ขึ้น
ช่วงไม่กี่ปีให้หลังมานี้ จะเห็นว่า Google มักจะมีปัญหากับผู้ตรวจสอบประเทศต่าง ๆ เรื่องพฤติกรรมการผูกขาดทางการค้าอยู่เรื่อย ทั้งในเอเชีย ยุโรป หรือแม้กระทั่งในสหรัฐอเมริกาเอง ล่าสุดตอนนี้บริษัทฯ ได้โดนคณะกรรมาธิการยุโรปหรือ European Commisson ตัดสิน ปรับอ่วมกว่า 2.8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ราว ๆ 9.2 หมื่นล้านบาท นับเป็นการคิดค่าปรับที่แพงที่สุดของ EU เลยทีเดียว
