วันก่อนเราได้เคยเสนอข่าวเรื่องที่มีคนเปลี่ยน Apple Watch เป็น Watch Edition ด้วยการพ่นสีทับ ดูไกลๆแล้วเหมือนจนแทบแยกไม่ออกไปแล้ว วันนี้คนไทยเกรียนไม่แพ้ชาติใดในโลก ซึ่งก็ไม่ใช่คนเกรียนคนไหนไกล นายอู๋ Spin9 เพื่อนซี้ของเรานี่เองที่จับเอา Apple Watch ไปเคลือบทอง ต้นทุนต่ำแค่ราคาบาทเดียวเท่านั้น ประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อ Watch Edition ไปได้หลายสิบเท่าเลยแจ้
ตอนนี้สาวก Apple หลายๆ คนน่าจะไปสอย Apple Watch มาลองเล่นกันบ้างแล้ว ไ่ม่ว่าจะเป็น Apple Watch Sport หรือ Apple Watch เฉยๆ เพราะทั้ง 2 รุ่นนี้มีราคาไม่แพงจนเกินไปนัก คือเริ่มต้นที่หมืนกว่าบาท เหล่าสาวกที่ซื้อ iPhone เครื่องละ 2-3 หมื่นคงไม่มีปัญหาเท่าไหร่ แต่สำหรับ Apple Watch Edition นั้น บอกตรงๆ ว่าราคามันแพงลิ่วกระโดดไปถึง 30 เท่า โดยเริ่มต้นที่ 10,000 เหรียญหรือราวๆ 3 แสนกว่าบาท คงมีไม่กี่คนที่จะกดซื้อมาใช้ เพราะนั่นอาจจะหมายถึงต้องกินมาม่าแทนข้าวไปอีกหลายปี
ตอนนี้ Wearable ที่อยู่ในกระแสมากที่สุดก็คงหนีไม่พ้น Apple Watch ที่เพิ่งจะวางขายไปได้ไม่นานมานี้ ในบ้านเราก็เริ่มมีเห้นคนไปสอยเครื่องนอกมาลองเล่นลองใช้งานกันบ้างแล้ว ส่วนในประเทศไทยเองนั้นยังไม่มีกำหนดว่าจะวางขายเมื่อไหร่และเหมือนจะเป็นธรรมเนียมของ Gadget IT ต่างๆ ไม่ว่าจะถูกหรือแพงมันต้องผ่านการ drop test หรือทดลองการตก หรือหล่นว่าเมื่อร่วงลงถึงพื้นแล้ว มันจะยังสวยเหมือนเมื่อตอนที่ซื้อมาหรือไม่ ซึ่งผลการ drop test ของ Apple Watch ก็ออกมาตามนี้.. เชิญชมคลิปเลยละกัน
วันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมาเป็นวันแรกที่ Apple ได้เปิดให้สั่งจอง Apple Watch พร้อมกัน 9 ประเทศทั่วโลก (สหรัฐอเมริกา, แคนาดา, ออสเตรเลีย, สหราชอาณาจักร, เยอรมนี, ฝรั่งเศส, ญี่ปุ่น, จีน, และฮ่องกง) โดยราคามีไปตั้งแต่ $349 จนไปถึง $10,000 เลยทีเดียว ซึ่ง mod Octopatr หนึ่งในสาวก Apple? ก็ไม่พลาดที่จะบินไปถึงญี่ปุ่นเพื่อไปลองเล่น Apple Watch ถึงชิบูย่ามาแล้ว (ข่าวเก่า)
หลังจากรู้ข่าวว่า Apple Watch มีเครื่องให้ลองเล่นแล้วที่ญี่ปุ่นหลังจากเปิดให้จองในวันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมา ซึงเผอิญว่าผมเองก็มาเทียวโตเกียวและยังไม่ได้กลับ เลยรีบแจ้นไปลองสัมผัสเครื่องจริงและพรีวิว Apple Watch แบบเบาๆ เท่าที่พอจะทำได้มาให้ได้อ่านและได้ชมกันApple Watch นั้นนับเป็นคู่แข่งรายสำคัญของ Android Wear และ Wearable ค่ายต่างๆ แบบที่เรียกได้ว่าหลายๆ คนน่าจะจับตารอดูว่าหลังจากเปิดวางจำหน่ายแล้ว กระแสของมันจะแรงแค่ไหน ยอดขายยอดจองจะดีกว่าของค่ายอื่นๆ หรือไม่ เพราะจนถึงตอนนี้ยังไม่มี Wearable ตัวไหนที่โดดเด่นจนครองตลาดได้จริงจัง และตลาดเองก็ยังไม่ได้เติบโตมากนัก ดูเหมือนจะเกริ่นยาวไปนิดนึงละ ขอตัดเข้าประสบการณ์ลองสัมผัส Apple Watch กันเลยละกัน
ใกล้เข้ามาแล้วนะครับ สำหรับวันที่ Apple Watch จะเปิดให้สาธารณชนและเหล่าสาวกทีหลงไหลในตัว smart watch พร้อมจะไปเสียตัว เอ๊ย! เสียตังค์จ่ายเงินซื้อมันมาไว้ในครอบครอง โดยกำหนดการเปิดตัวของ Apple Watch นั้นก็อย่างที่รู้กันดี 10 เมษายนนี้ในกลุ่มประเทศ Tier 1 จะเริ่มมีการให้เปิดจอง (คาดว่าน่าจะมีตั้งโชว์ให้ลองเล่นในร้านด้วย) แต่กว่าจะสั่งและได้รับของกันจริงๆ ก็ราวๆ 24 เมษายนแต่ดูเหมือนว่า Apple นั้นจะมีปัญหาในการวางจำหน่าย Apple Watch ในบางประเทศอย่างสวิตเซอร์แลนด์ ที่ตอนนี้ติดปัญหาเรื่องสิทธิบัตรชื่อของ Apple Watch นั้นมีคนจดเอาไว้แล้ว..
Apple Watch เป็นหนึ่งใน Wearable Device หรืออุปกรณ์สวมใส่ที่มีคนจับตามองมากที่สุดของปีนี้เลยก็ว่าได้ เพราะ Apple มักจะเป็นบริษัทที่กำหนดทิศทางของ gadget ต่างๆเหมือนในยุค iPhone และ iPad แต่รอบนี้เหมือนว่าจะไม่เป็นอย่างที่คาดกัน เมื่อยอดสั่งจอง Pebble Time พุ่งสูงขึ้นเป็นเท่าตัวหลังงานเปิดตัว Apple Wacth จบลง หรือว่ามันกำลังจะหมดยุคที่ Apple เป็นผู้นำซะแล้ว
Google ปล่อยคลิปโฆษณา Android Wear ตัวใหม่ก่อนหน้างาน Spring Forward ที่ Apple จัดขึ้นเพื่อจะเผยโฉม Apple Watch เพียง 1 ชั่วโมงก่อนหน้า (แถวบ้านเรียกปาดนะครับ)
Apple Watch นาฬิกาที่เหล่าสาวกรอคอยช่วงนี้ก็เริ่มมีข่าวเยอะขึ้นเรื่อยๆ ทั้งกำหนดการวางจำหน่ายที่คาดว่าจะพร้อมให้จับจองกันปลายมีนาคมนี้ และล่าสุดกับผลการทดสอบแบตเตอรี่และความอึดที่ Apple ไม่ได้เอ่ยถึงในงานเปิดตัว ว่าเอาจริงๆ แล้วจะใช้งานได้นานแค่ไหน แต่บอกใบ้ไว้ว่าต้องชาร์จทุกวันข้อมูลจาก 9to5Mac ได้เปิดเผยว่าเหตุผลหลัก ที่ Apple ต้อเลื่อนการวางจำหน่าย Apple Watch จากปลายปี 2014 เป็นต้นปี 2015 นั้นมาจากปัญหาเรื่องแบตเตอรี่ล้วนๆ โดยในช่วงที่ผ่านมานั้นได้มีการปล่อยเครื่องทดสอบออกไปถึง 3,000 เครื่อง เพื่อที่จะดูว่าในสถานการณ์จริงๆ สามารถใช้งานได้นานแค่ไหนกันแน่
Apple Watch นาฬิกาอัจฉริยะที่เหล่าสาวกรอคอย และมีข่าวลือว่าเตรียมออกวางจำหน่ายในช่วงเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ แต่ฝรั่งต้องอี้งเมื่อมาเดินงาน CES แล้วเห็น Apple Watch วางขายไปเรียบร้อย ซึ่งเมื่อพิจารณาดูดีๆเจ้านาฬิกาที่เห็นกลับชื่อ Smart Watch ของแบรนด์ Hyperdon จากจีนที่ทำหน้าตาลอกเลียนแบบ Apple Watch มาแบบเป๊ะๆ ทั้งดีไซน์และซอฟท์แวร์ แถมทำงานเชื่อมต่อกับ iPhone ได้ดีอีกด้วย สนนราคาขายก็แสนถูก ต่ำกว่า 1,000 บาท คาดว่าจะน้อยกว่าของ Apple เองถึง 10 เท่าได้มาดูกันว่าเจ้า Smart Watch หรือ Apple Watch ปลอมมันทำอะไรได้บ้างกัน
