ใครที่คิดอยากจะเดินทางไปเที่ยวที่สหรัฐอเมริกาในอนาคตแต่ยังไม่ได้ขอวีซ่าล่ะก็.. ต่อไปนี้จะโพสท์อะไรในโซเชียลมีเดีย ทั้ง Facebook, Instagram, Twitter ฯลฯ ก็ต้องระมัดระวังกันหน่อยล่ะ เพราะตอนนี้สหรัฐกำลังเริ่มใช้มาตรการใหม่ในการขอวีซ่าเข้าประเทศ ด้วยการตรวจสอบโซเชียลมีเดียย้อนหลังถึง 5 ปี เลยทีเดียว
ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเราได้เห็นการยกระดับสงครามการค้าระหว่างอเมริกาและจีนกันไปทีนึงแล้ว แต่ดูเหมือนทางสหรัฐจะไม่หยุดแค่นั้นเมื่อทางประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศคำสั่งฉุกเฉิน ห้ามบริษัทต่างๆ ในประเทศใช้อุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคมจากบริษัทต่างชาติ ซึ่งถือว่าเป็นความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของสหรัฐฯ แม้จะไม่ได้ระบุชื่อบริษัทที่แน่ชัด แต่ก็น่าจะหมายถึงบริษัทใหญ่ของจีนที่กำลังมีประเด็นกันมาเนิ่นนานอย่าง Huawei นั่นเอง
เกือบถึงคราวซวยได้ปิดกิจการกันไปแล้ว สำหรับ ZTE บริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่จากประเทศจีนที่ก่อนหน้านี้ได้ละเมิดสัญญาซื้อขายกับทางอเมริกา ด้วยการแอบลักลอบจำหน่ายสินค้าที่ซื้อจาก Qualcomm ให้กับประเทศอิหร่านและเกาหลีเหนืออีกทีนึง ทำให้อเมริกาสั่งแบน ZTE ห้ามซื้อขายสินค้าทุกชนิดจากอเมริกาเป็นเวลาถึง 7 ปี แต่ล่าสุดก็ดูเหมือนว่าทั้งคู่จะตกลงกันใหม่ได้แล้ว ด้วยค่าปรับมหาศาลที่ ZTE ต้องจ่ายให้อเมริกาเป็นจำนวนเงินถึง 900 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 29,000 ล้านบาท)
สืบเนื่องจากที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา Donald Trump ได้เรียกบุคคลต่างๆ ทั้งผู้บริหารจากบริษัทเกมและสมาชิกฝ่ายที่ต่อต้านความรุนแรงในเกม เข้าร่วมหารือกัน หลังจากเกิดโศกนาฎกรรมกราดยิงในโรงเรียนแห่งหนึ่ง เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2018 ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 17 ราย แต่สุดท้ายก็ยังไม่ได้ผลสรุปอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอัน…และล่าสุดก็ได้มีผลการวิจัยจากหน่วยงาน US Secret Service ออกมาให้ได้รู้กันแล้วว่าความรุนแรงในเกม แทบจะไม่มีผลกระทบให้ผู้เล่นเกิดอาการก้าวร้าวอยากทำร้ายผู้อื่นเลย
ประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาอย่าง Donald Trumpได้เชิญบรรดานักพัฒนาเกมเข้าร่วมถกเถียงกันในเรื่องของความรุนแรงจากวิดีโอเกม หลังจากมีการเชื่อมโยงเรื่องดังกล่าวเข้ากับเหตุการณ์กราดยิง ณ โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในรัฐฟลอริด้า และมีผู้เสียชีวิตถึง 17 ราย เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2018 ที่ผ่านมา ซึ่ง Donald Trumps ได้กล่าวภายในการพูดคุยครั้งนี้ว่า “ผมได้ยินคนพูดกันมากขึ้นเรื่อยๆ ว่าความรุนแรงในวิดีโอเกมมีผลต่อความคิดความอ่านของเด็กๆ”
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า