Microsoft ปล่อยอัปเดต KB5053598 สำหรับ Windows 11 24H2 ไปเมื่อไม่กี่วันก่อน โดยเป็นอัปเดตบังคับที่มาพร้อมกับ Patch Tuesday รอบเดือนมีนาคม เน้นแก้ไขช่องโหว่ด้านความปลอดภัย รวมถึงช่องโหว่ระดับ zero-day CVE-2025-24983 ที่อาจเปิดทางให้แฮ็กเกอร์ยกระดับสิทธิ์บนเครื่องได้ อย่างไรก็ตาม อัปเดตนี้กลับสร้างปัญหาให้ผู้ใช้จำนวนมาก
Microsoft ปล่อยอัปเดตความปลอดภัย (Patch Tuesday) ประจำเดือนมีนาคม 2025 สำหรับ Windows 11 (KB5053598 & KB5053602) และ Windows 10 (KB5053606) แก้ไขช่องโหว่ทั้งหมด 57 รายการ โดยในจำนวนนี้มี 7 ช่องโหว่ Zero-Day ที่ต้องรีบอัปเดต ซึ่งประกอบด้วย 6 ช่องโหว่ที่ถูกใช้โจมตีแล้ว และ 1 ช่องโหว่ที่ถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ
Valve เผยผลสำรวจการใช้งานฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ของเกมเมอร์บน Steam พบ Windows 10 กลับมาเป็นระบบปฏิบัติการยอดนิยมบน Steam อีกครั้ง หลังจากที่ Windows 11 มีผู้ใช้ลดลง 9.36 จุด เหลือ 44.10% ขณะที่ Windows 10 เพิ่มขึ้น 10.47 จุด แตะ 53.34% แม้ว่าจะใกล้หมดอายุแล้วก็ตาม
Microsoft ได้แก้ไขปัญหาการลากและวางใน Outlook รุ่นคลาสสิกที่เกิดขึ้นหลังจากการติดตั้งอัปเดตของ Windows 11 เวอร์ชัน 24H2 ซึ่งทำให้ผู้ใช้ไม่สามารถลากและวางอีเมลหรือกิจกรรมจากปฏิทินไปยังโฟลเดอร์ต่างๆ ได้ โดยเมื่อพยายามลากไอเทม เมาส์จะเปลี่ยนเป็นสัญลักษณ์ห้ามทำ ทำให้ไม่สามารถย้ายไอเทมได้ ปัญหานี้เกิดขึ้นหลังจากการติดตั้งอัปเดตพรีวิวในเดือนมกราคม 2025 (KB5050094) และการอัปเดตความปลอดภัยในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 (KB5051987)
Microsoft ได้ปล่อยการอัปเดตล่าสุดสำหรับ Windows 11 เวอร์ชัน 24H2 (KB5052093) ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2025 ที่มาพร้อมกับการแก้ไขบั๊กหลายรายการและฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยเพิ่มประสบการณ์การใช้งานให้ราบรื่นยิ่งขึ้น อัปเดตนี้รวมถึงการปรับปรุงในด้านต่าง ๆ เช่น การทำงานของ File Explorer, ปัญหาด้านเสียง และฟีเจอร์ใหม่ใน Taskbar และ Windows Spotlight ที่เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้งานมากขึ้น
Microsoft ได้ประกาศอัปเดตล่าสุดเกี่ยวกับการถอดซีพียู Intel Gen 8-10 ออกจากรายชื่อซีพียูที่รองรับ Windows 11 เวอร์ชัน 24H2 อย่างเป็นทางการ โดยการเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบกับผู้ใช้ทั่วไปที่มีซีพียู Intel Gen 8-10 ใช้งานอยู่แล้ว เพราะยังสามารถใช้งาน Windows 11 และอัปเดตเป็นเวอร์ชัน 24H2 ได้ตามปกติ
Microsoft ได้ออกการอัปเดตความปลอดภัยประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2025 ซึ่งแก้ไขช่องโหว่ทั้งหมด 55 รายการ โดยรวมถึงช่องโหว่ Zero-day 4 รายการที่มีการโจมตีแล้ว 2 รายการ ช่องโหว่ที่ได้รับการแก้ไขมีทั้งในระดับวิกฤต สำคัญ และปานกลาง ซึ่งมีช่องโหว่ที่ส่งผลกระทบต่อหลายผลิตภัณฑ์ เช่น Windows Storage และ Windows Ancillary Function Driver for WinSock
แม้ Windows 10 จะมีกำหนดสิ้นสุดการสนับสนุนในวันที่ 14 ตุลาคม 2025 แต่ยังคงครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุดถึง 62.7% และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ในขณะเดียวกัน Windows 11 ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่กว่ากลับมีส่วนแบ่งตลาดลดลงเหลือเพียง 34.1% ตามรายงานของ Statcounter เดือนธันวาคม 2024
Microsoft ได้ให้ทีมออกแบบพัฒนาวอลล์เปเปอร์เคลื่อนไหวแบบไดนามิก สำหรับปล่อยให้ใช้บน Windows 11 มาเป็นเวลาหลายปีแล้ว แต่ว่าจนตอนนี้ก็ยังไม่ได้มีการปล่อยออกมาให้ใช้ ล่าสุด อดีตนักออกแบบของ Microsoft ได้เผยภาพผลงานดังกล่าว ที่ดูเหมือนว่าจะถูกยกเลิกไปแล้ว
เชื่อว่าหลายคนที่ใช้ Windows คงเคยเจอปัญหาชวนปวดหัว ทั้งคอมพิวเตอร์เปิดไม่ติด ระบบล่มหลังติดตั้งโปรแกรม หรืออัปเดตไดร์เวอร์แล้วเครื่องทำงานไม่เสถียร ปัญหาเหล่านี้บางครั้งก็แก้ยากถึงขั้นต้องลง Windows ใหม่ วันนี้เรามีวิธีการที่ง่าย สะดวกกว่า และรวดเร็วกว่า นั่นคือการใช้ฟีเจอร์ System Restore Point ที่เป็นเหมือนการ "เซฟเกม" ช่วยให้เราย้อนเวลากลับไปยังสถานะที่คอมพิวเตอร์ทำงานปกติ ฟีเจอร์นี้ไม่เพียงช่วยประหยัดเวลา แต่ยังช่วยชีวิตเราในยามคับขันได้อีกด้วย
