Tesla กำลังเจอวิกฤตหนัก จากสถานการณ์ของราคาหุ้นที่ร่วงอย่างต่อเนื่อง ยอดขายในแต่ละประเทศที่ไม่มีทีท่าจะกลับขึ้นมาได้ และยังรวมไปถึงกระแสจากสังคมที่มองภาพลักษณ์ของ Tesla ในแง่ลบ จากการที่อีลอน มัสก์ (Elon Musk) ได้เข้าไปมีส่วนร่วม หรือบทบาททางการเมืองมากเกินไป จากการชักชวนของทรัมป์ (Donald Trump) ทำให้เกิดเป็นกระแส Tesla Takedown ขึ้นมา

จากรายงานของ Automotive News ได้รายงานไว้ว่า ยอดจดทะเบียนรถยนต์ของ Tesla ในสหรัฐอเมริกา ลดลงไปถึง 11% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว ในขณะที่แบรนด์รถไฟฟ้าคู่แข่งรายอื่นๆ กลับมียอดจดทะเบียนเพิ่มขึ้น 44% นำมาด้วย Ford, Chevrolet และ Volkswagen นอกจากนี้ ยอดขายของ Tesla ในยุโรปก็ดิ่งลงเรื่อยๆ โดยเฉพาะในประเทศฝรั่งเศส นอร์เวย์ สเปน และเยอรมนี

กลับกันในประเทศอังกฤษ จากบทความของเว็บไซต์ The Guardian สมาคมผู้ผลิตและผู้ค้ารถยนต์ (SMMT) ระบุว่า Tesla สามารถขายรถยนต์ไปได้เกือบ 4,000 คัน ในประเทศอังกฤษ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นับเป็น 20.7% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดย Model 3 และ Model Y เป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับสอง และที่สามตามลำดับ รองจาก Mini Cooper

นอกเหนือจากยอดขาย และราคาหุ้นที่ร่วงลงมาอย่างต่อเนื่องเกือบ 48% ในหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา บทความของ Sherwood ยังระบุไว้ว่า YouGov ทำให้เราเห็นถึง คะแนนความนิยมของ Tesla ลดลงต่ำสุด นับตั้งแต่ปี 2016 โดย มุมมองหรือความประทับใจ (Impression) ของผู้บริโภคนั้น เฉลี่ยอยู่ที่ -12.8 คะแนน โดยเฉพาะกับกลุ่มเสรีนิยม (Liberals) ที่ให้คะแนนติดลบสูงถึง -35.5 และในส่วนของกลุ่มอนุรักษ์นิยม (Conservatives) เป็นเพียงกลุ่มเดียว ที่ยังมอง Tesla ในแง่บวก และให้คะแนนอยู่ที่ 7.5 คะแนน

จากภาพลักษณ์ และกระแสต่างๆ ที่เกิดขึ้น ส่งผลให้ความสนใจในการซื้อ Tesla นั้น ลดเหลือเพียง 8% จาก 12% ในปี 2022 ซึ่งส่อเค้าลางที่ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ว่า Tesla อาจจะกำลังเสียพื้นที่ และความสามารถในการแข่งขันกับผู้ผลิตรายอื่นๆ ไปก็ได้

สุดท้ายแล้ว ในตอนนี้กระแสต่อต้าน หรือบอยคอต Tesla และตัวอีลอน เองนั้น ก็ไม่ได้มีทีท่าจะเบาลง โดยเฉพาะกระแสของ Tesla Takedown ที่ทั้งเจ้าของ Tesla ได้ออกมาขายรถยนต์และหุ้นของตัวเองทิ้ง การซื้อสติกเกอร์ และโลโก้แบรนด์อื่นๆ มาติดแทนที่โลโก้ของ Tesla เพื่อแสดงถึงจุดยืน และรู้สึกอับอายที่ต้องให้ผู้อื่นเห็นว่าตนนั้นใช้รถยนต์ Tesla

คงต้องรอติดตามกันต่อไป ว่าอีลอน และ Tesla จะกอบกู้สถานการณ์ครั้งนี้ขึ้นมาได้ยังไงบ้าง แล้วเพื่อนๆ คิดเห็นยังไงกันบ้างกับกระแสของตัวอีลอน และ Tesla จะไปต่อ หรือพอแค่นี้?

คนไม่กล้าใช้ Tesla กันแล้ว? ภาพลักษณ์แบรนด์ติดลบ เพราะอีลอนคนเดียว #ข่าวไอที #เทสล่า #elonmusk
คนไม่กล้าใช้ Tesla กันแล้ว? ภาพลักษณ์แบรนด์ติดลบ เพราะอีลอนคนเดียว #ข่าวไอที #เทสล่า #elonmusk
@droidsans

คนไม่กล้าใช้ Tesla กันแล้ว? ภาพลักษณ์แบรนด์ติดลบ เพราะอีลอนคนเดียว #ข่าวไอที #เทสล่า #elonmusk

ที่มา : The Verge, Automotive News, The Guardian, Sherwood