หลังจากที่ Uber ได้ออกโปรฉีกหน้าแท็กซี่สุวรรณภูมิกรณีอื้อฉาวไม่รับนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น ซึ่งการกระทำนี้ดูเหมือนจะไปกระตุกหนวดเสือทำให้เจ้าหน้าที่สนามบินสุวรรณภูมิกวดขัน กีดกันไม่ให้ Uber เข้าไปให้บริการในสนามบินซะแล้ว เมื่อทางคุณ Elcid Vergara ได้โพสต์เฟซบุ๊คว่าถูกทางเจ้าหน้าที่สนามบินล้อมรถ และไล่ให้ไปขึ้นแท็กซี่ของสนามบินที่ต้องเสี่ยงดวงวัดคุณภาพกัน โดยจนท.ให้เหตุผลว่า “ผิดกฎหมาย รถป้ายเขียวต้องเป็นรถทัศนาจรที่จองมาล่วงหน้าเท่านั้น“
(27 ม.ค. 58) ล่าสุดจากกรณีโกงค่าโดยสาร แท็กซี่แวนสุวรรณภูมิยังมีการขู่หยุดวิ่ง และขอขึ้นค่าธรรมเนียมเพิ่ม ซึ่งทางกรมขนส่งฯ ก็ดูจะรับลูกตามไปเสียด้วย ซึ่งหลายๆคนก็มีความเห็นว่าเรื่องค่าธรรมเนียมที่จะเพิ่มจาก 50 บาทเป็น 100 บาท และค่าสัมภาระของผู้โดยสารที่บางคนมีมากมายนั้นเป็นเรื่องที่พอเข้าใจได้ก็จริง แต่ก่อนที่จะขอท่าเดียวก็อยากให้ฝ่ายแท็กซี่เสนอเรื่องการแก้ปัญหาการโกงต่างๆและมารยาทของคนขับอย่างเป็นรูปธรรมมาด้วย ไม่ใช่เอะอะๆมาขู่หยุดวิ่ง แล้วก็อ้างแต่เพียงว่ารถหยุดวิ่งเลิกให้บริการไปแล้ว 300 คัน จาก 2,000 คัน แต่พอ Uber จะเข้าไปให้บริการบ้างแต่ก็มาหาทางกีดกันซะอย่างงั้น (อ่านเพิ่มเติมที่ Thairath)
ส่วนตัวเห็นโพสต์นี้แล้วก็เซ็งจิตที่ผู้บริโภคอย่างเราๆต้องถูกตัดตัวเลือกการให้บริการ ไม่ให้เกิดการแข่งขัน ทั้งๆที่ของที่มีอยู่ในปัจจุบันมันก็ไม่ได้ดี และเมื่อวานนี้เพื่อนชาวต่างชาติหน้าฝรั่งที่มาเที่ยวเมืองไทยก็เพิ่งมาบ่นให้ฟังถึงแท็กซี่ที่ไม่ยอมกดมิเตอร์ เรียกไปไหนก็โดนเหมา 200 บาทขั้นต่ำ (เจอแท็กซี่ทำแบบนี้ไม่ต่ำกว่า 2-3 คัน) แถมสื่อสารไม่รู้เรื่องก็โดนไล่ลงจากรถอีกต่างหาก…ฟังแล้วรู้สึกอายแทนประเทศไทยเลยจริงๆ T__T
นับวันยิ่งไม่ปลื้ม taxi คนดีๆ ก็พลอยซวยไปด้วย
เพิ่งโดนมากับตัวเองเลย นั่งจากหมอชิตจะไปบางบัวทองบอกต้องนั่งอย่างน้อยสองคน แล้วค่าโดยสารคูณสองด้วย.
เพิ่งโดนมากับตัวเองเลย นั่งจากหมอชิตจะไปบางบัวทองบอกต้องนั่งอย่างน้อยสองคน แล้วค่าโดยสารคูณสองด้วย.
ง่าย ๆ เลยนะ "ผลประโยชน์ที่ต้องสูญเสียใหักับรถป้ายดำ" ทำให้คนที่ได้สัมประทานไม่พอใจ และทำแบบนี้ แต่ลืมนึกไปเรื่องนึง ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศไทยจะลดลงไปเรื่อย ๆ จนกลายเป็นที่ขยาดหวาดกลัวของนักท่องเที่ยว กฎหมู่ เป็นเรื่องถนัดนักสำหรับพวกนี้ ไม่ได้สนใจเรื่องกฎหมายเท่าไร น่าอนาถจริง ๆ กับการบริหารงานแบบนี้
จริงครับuberไม่ได้จ่ายเงินนี่
จนส่งอยากได้ใต้โต๊ะ กี่บาทละครับ เอาให้เยอะกว่าที่แท็กซี่จ่ายให้เลย ไหม
ไม่นั่งเท๊กซี่มานานมาก ตั้งแต่ซื้อรถได้ แม้ลำบากที่จอด ค่าน้ำมัน แต่ดีกว่ามานั่งเซ็งเป็ดปวดตับกับเท๊กซี่ เด่วนี้ดีหน่อยมีทางเลือก grab taxi ก็พอใช้ได้ uber ก็ดี(ถ้าแถวนั้นมี) น้อยมากที่จะโบกเอาเอง บอกตรง กลัว
มีบารมีหนุน..ไม่งั้นคงไม่กล้าขนาดนี้
งานถนัดอยู่แล้ว จนท สนามบิน ถ้าพูดไม่รู้เรื่อง หรือไม่ทำตาม รับรองคนขับคงจมกองตีนแถวนั้นแน่ ๆ
ขออภัยที่เขียนคำไม่สุภาพ แต่มันคือเรื่องจริงในสังคมเดี๋ยวนี้
ทางเลือกที่ดีที่สุดของผู้บริโภคคือ ต้องพยายามฝึกบินเองให้ได้เหมือนนก เวลาไปไหนจะได้ไม่ต้องลำบาก
ถ้าเตี๊ยมกับคนขับว่าเป็นญาติกัน เค้าจะไล่อีกไหมอะ
ที่เคยเจอกับตัวที่สุวรรณภูมิ
ร้ายน้อยหน่อย เอาเราไปปล่อยกลางทางบอกต้องรีบไปส่งรถ
ร้ายขึ้นมาอีกนิด ขับซิ่งเหมือนโกรธกันมาแต่ชาติปางก่อน แล้วตะคอกใส่"พี่! ถ้าพี่เห็นใจแท็กซี่นะพี่บอกเจ้าหน้าที่ว่าลงกิ่งแก้วนะ ผมรอคิวมาสองชั่วโมง บ้านพี่อยู่ใกล้แค่นี้" ผมคิดในใจ"เออgooขอโทษวะที่บ้านgooดันไม่ไกลจากสนามบิน แต่จะให้บอกว่าลงกิ่งแก้วเพื่อ? แล้วแท็กซี่คันอื่นมันจะถีบgooมั้ยถ้าบอกไปกิ่งแก้วแล้วไม่ลงกิ่งแก้วเนี่ย"
ร้ายลึกๆ เอามาปล่อยตรงคาร์โก้สนามบินเลย สุดๆบอกแก๊สหมด
ทุกวันนี้แอร์พอร์ทลิ้งดีกว่าครับ สบายใจกว่าเยอะ