ก่อนที่รีวิว HTC One M8 ตอนที่ 2 จะมา ผมขอคั่นเวลาทุกท่านด้วยการแกะกล่องเจ้า M8 ซะก่อน ว่าในกล่องนั้นมีอะไรแถมมาให้บ้าง แต่บอกก่อนว่าเครื่องที่นำมาแกะนี้เป็นของไต้หวัน ซึ่งจากที่ได้ข้อมูลมาของในกล่องนั้นน่าจะเหมือนกันทุกประเทศ ไม่มีการชักเข้าชักออก เพราะฉะนั้นลองมาดูกันเลยดีกว่า

หน้าตากล่อง HTC One M8 นั้นใช้ดีไซน์เดิมกับ HTC รุ่นหลังๆ ทุกประการครับ

จุดสังเกตุของโมเดลเอเชียกับโมเดลที่ขายในสหรัฐคือรหัสเครื่อง ทางฝั่งเอเชียใช้รหัส M8x เพราะถึงแม้จะใช้ CPU Snapdragon 801 เหมือนกัน แต่ก็เป็นคนละรหัส CPU ซึ่งทางฝั่งเอเชียจะเป็น MSM8974AC ส่วนฝั่งอเมริกาจะเป็น MSM8974AB ครับ รอบนี้ CPU ฝั่งเอเชียดีกว่านิดหน่อย

 

เครื่องนี้เป็นสี Gun Metal Grey หรือสีเทา ส่วนตัวผมชอบสีนี้ เพราะสีเงิน Glacial Silver นั้นมันเป็นสีเดียวกับ One M7 เลยดูเดิมๆ ในสายตาผมไปหน่อย

 

ซองกระดาษไขสัญลักษณ์เฉพาตัวของ HTC เค้าหละ ด้านหลังก็มีแผนภาพบอกรายละเอียดของช่องใส่ nano SIM และ ช่องใส่ micro SD ว่าอยู่คนละฝั่งกัน

 

กล้องหน้าของ HTC One M8 ความละเอียด 5MP วัสดุโลหะให้ความรู้สึกพรีเมี่ยมดีจริงๆ ส่วนเรื่องงานประกอบนั้นเห็นมีเมืองนอกมีบ่นเหมือนกันว่ามีเจอรอยขีดๆ ข่วนๆ ที่เนื้อโลหะบ้าง ยังไงก็เช็ดเครื่องให้ดีก่อนนะครับ

 

เจียลบความคมของขอบด้านข้างออกไปเรียบร้อย จับแล้วไม่รู้สึกว่ามันจะบาดมือเหมือนตอน M7

 

 

ผิวด้านหลังของ Gun Metal Grey นั้นเป็นลาย Brush Metal เนื้อจะเรียบๆ ลื่นๆ ส่วนของสี Glacial Silver เนื้อจะทรายๆ นิดนึง เหมือนกับของ M7 ครับ มีการระบุตำแหน่งของ NFC ด้วยว่าอยู่ด้านล่างของกล้อง Ultra Pixel

 

ในกล่องมีอะไรอีก… สาย micro USB

 

มีหม้อแปลง จ่ายไฟ 5V 1.5A ใครที่เคยบ่นว่า One M7 ชาร์จแบตนานมาก ตอนนี้ One M8 ชาร์จไวแล้วครับ เพราะเปิดใช้งาน Qualcomm Quick Charge แล้ว

 

มีหูฟังมาให้แบบ In-ear พร้อมจุกเปลี่ยนขนาดอีก 2 คู่ ปุ่มกดเป็นแบบปุ่มเดียวใช้รับสายวางสาย ไม่มีปุ่มปรับเสียง 

 

อีกชิ้นนึงที่มีมาให้ด้วยคือ Bumper ครับ เป็นเคสซิลิโคนผิวจะแข็งๆ หน่อย จับแล้วหนึบๆ มือนิดนึง

 

 

เนื่องจาก HTC ทำเอง งานเลยเนี้ยบ ทุกปุ่มทุกตำแน่งพอดีเป๊ะ 

 

 

ด้านหลังตัดช่องกล้องวัดระยะ ช่องไมค์ตัดเสียงรบกวน และกล้อง Ultra Pixel พร้อม Dual-LED เรียบร้อย

 

ปุ่มปรับเสียงด้านข้างนั้นตัว Bumper จะหุ้มทับไปเลย แต่ยังกดใช้งานได้ตามปกติ แต่ปุ่ม Power นั้นต้องเปิดทิ้งไว้ เพราะตัวปุ่มมันมี IR Blaster หรืออินฟราเรดรีโมทที่ใช้เปิดปิด TV เครื่องใช้ไฟฟ้าครับ ถ้าเอาตัว Bumper หุ้มไปเกรงว่าจะใช้ไม่ได้ เลยต้องเว้นเปิดเอาไว้

 

ส่วนอันนี้ชอบเลย ด้านล่างของตัว Bumper นั้นมีจุกปิดช่อง micro USB และช่องหูฟัง 3.5 ให้ด้วย  :bigsmile:

 

สำหรับวันนี้ก็ขอจบการแกะกล่อง HTC One M8 เพียงเท่านี้นะครับ ไว้พบกันอีกทีกับ รีวิว HTC One M8 ตอนที่ 2 เร็วๆ นี้ ถึงแม้ว่าเครื่องจะมาขายกันปลายเมษาเลยก็ตามที  😥

 

 

บทความที่เกี่ยวข้อง

[DroidSans Review] รีวิว HTC One M8 ภาค 1 สัมผัสตัวเครื่องและฟีเจอร์กล้อง