มาแล้ว มือถือที่ใครหลายคนต่างเฝ้ารอกันอย่าง iPhone 11, iPhone 11 Pro และ iPhone 11 Pro Max ที่รอบนี้เปลี่ยนแปลงกล้องหลังยกชุด ใส่เลนส์ Ultra Wide และเพิ่มฟีเจอร์ถ่ายภาพในที่แสงน้อย Night Mode ว่าแต่ในกล่องจะมีอะไรแถมมาให้บ้าง ตอนนี้ดรอยด์แซนส์ได้เครื่องมาแล้ว งั้นมาแกะกล่องไปพร้อมๆ กันเลยดีกว่า

แกะกล่อง iPhone 11

เอาล่ะ มาเริ่มกันที่น้องเล็กสุดอย่าง iPhone 11 กันก่อนดีกว่า

แน่นอนล่ะ เมื่อเปิดกล่องออกมา ก็จะเห็นเครื่อง iPhone 11 นอนรออยู่ ซึ่งสีรอบนี้เป็นสีม่วงมุ้งมิ้งสวยงามตามท้องเรื่องเลย โดยหากสังเกตดีๆ บริเวณด้านล่างจะมีหางพลาสติกเล็กๆ ให้ดึงตัวเครื่องออกมาด้วยนะ ถือเป็นอีกหนึ่งจุดที่ Apple พิถีพิถันเอามากๆ ผู้บริโภคซื้อมาแล้วไม่ต้องกลัวเลยว่าจะแงะไปแงะมาแล้วเครื่องตก เป็นรอยอะไรแบบนี้

ด้านหลัง iPhone 11 มาพร้อมกับกล้อง 2 ตัว แบ่งเป็นเลนส์ Wide ปกติและเลนส์ Ultra Wide สำหรับวัสดุก็จะเป็นแบบมันๆ นิดนึง

อุปกรณ์ภายในกล่องก็จะมีพวกคู่มือต่างๆ และเข็มจิ้มซิมครับ มาถึงไฮไลท์ของเราดีกว่า ถึงแม้ว่า iPhone 11 จะรองรับการชาร์จไว 18W แต่หม้อแปลงที่แถมมาให้กลับเป็น 5V 1V หรือ 5W ธรรมดานั่นเองครับ ใครอยากได้ชาร์จไว อันนี้ต้องซื้อเพิ่มเอาเองนะ

ต่อมาก็เป็นหูฟัง ซึ่งรอบนี้พอร์ตก็ยังคงเป็นแบบ Lightning เหมือนเดิม ส่วนสายชาร์จที่แถมมาให้ก็ยังคงเป็นแบบเดิมที่หัวด้านนึงเป็น Type A และอีกด้านนึงเป็น Lightning

 

แกะกล่อง iPhone 11 Pro

มาถึงคิวของ iPhone 11 Pro กันบ้าง โดยเครื่องนี้มาเป็นสีเขียว Midnight Green สีใหม่ของทางค่ายเลย ซึ่งตรงนี้หากใครสังเกตดีๆ ตรงบริเวณกล่อง จะมี texture นูนๆ ออกมาตรงตัวกล้องนะ เรียกได้ว่าน่าจะเป็นกิมมิคเล็กๆ ที่ Apple ใส่มาให้

เมื่อสัมผัสด้านหลังตัวเครื่อง จะสังเกตเห็นได้ว่าไม่มีพลาสติกอะไรติดมาเลย เพราะกระจกที่ให้มาก็ผ่านการพ่นให้มีผิวสัมผัสสากๆ ทรายๆ อยู่แล้ว ส่วนเรื่องกล้องก็อยู่บนแท่นฐานนูนๆ รอบนี้มาพร้อมกับกล้อง 3 ตัวแล้ว ประกอบไปด้วยเลนส์ Wide, Ultra Wide และ Telephoto

วัสดุด้านข้างยังคงเป็นโลหะชั้นดี ตัวเครื่องก็ยังคงให้ความสัมผัสที่แน่นหนา คงทน เข้ามือสมกับเป็น iPhone เหมือนเดิม

ส่วนด้านล่างก็ยังคงใช้เป็นพอร์ต Lightning เหมือนเดิมใน iPhone 11 ทั้ง 3 รุ่น ไม่ใช่ Type C แบบที่มีข่าวหลุดออกมาตอนแรกนะครับ

ส่วนภายในกล่อง ที่แถมมาก็คล้ายๆ กับ iPhone 11 นั่นแหละ คู่มือ เข็มจิ้มซิม หรือหูฟังก็แถมเป็นแบบเดียวกันทั้งหมด จะมีต่างก็อยู่สองอย่างก็คือ หม้อแปลงที่ในรุ่นนี้ใส่มาให้เป็นแบบชาร์จไว 18W แล้ว ไม่ต้องซื้อเพิ่ม

อีกหนึ่งจุดที่แตกต่างกันก็คือสายชาร์จ ที่ให้มาเป็นแบบ Lightning to Thunderbolt แล้ว สามารถเสียบเชื่อมต่อกับ MacBook Pro ได้สบายๆ เลย

แกะกล่อง iPhone 11 Pro Max

เอาล่ะ มาแกะกล่องพี่ใหญ่ iPhone 11 Pro Max กันบ้าง รอบนี้มาในสีทองหรูหรา

หน้าตาหล่อเอาเรื่องอยู่เหมือนกันสำหรับ iPhone 11 Pro ซึ่งวัสดุหรือสเปคต่างๆ อะไรจะเหมือนกับ iPhone 11 Pro ทั้งหมด จะต่างก็เรื่องขนาดหน้าจอและเรื่องแบตเท่านั้นเอง อุปกรณ์ที่แถมมาในกล่องก็เหมือนกันกับ iPhone 11 Pro ทั้งหมดเลย ขอข้ามไปเลยแล้วกันเนอะ

 

สรุปความแตกต่าง iPhone 11 ทั้ง 3 รุ่น

สำหรับความแตกต่างของทั้ง 3 รุ่น จะขอสรุปสั้นๆ ละกันนะครับ iPhone 11 Pro Max เป็นตัวที่มีขนาดใหญ่ที่สุด หน้าจอใช้เป็นแบบ AMOLED มีกล้อง 3 ตัว Wide, Ultra Wide แล้วก็ Telephoto สำหรับ iPhone 11 Pro ก็เหมือนกับรุ่นพี่ทุกอย่าง ยกเว้นเรื่องขนาดหน้าจอและขนาดแบต สำหรับรุ่นเล็กอย่าง iPhone 11 จะใช้วัสดุแบบอลูมิเนียมอัลลอยปกติ หน้าจอใช้เป็น IPS LCD และกล้องหลังที่มีเพียงแค่ 2 ตัวเท่านั้น

พอลองเอา iPhone 11 Pro Max มาเทียบกับ iPhone XS Max แม้ว่าจะเป็นสีทองเหมือนกัน แต่ว่าก็มีอะไรหลายๆ อย่างที่แตกต่างกัน เรียกว่าสวยกันคนละแบบดีกว่า

Play video

ทั้งหมดนี้ก็คือการแกะกล่องคร่าวๆ เรียกน้ำย่อยของ iPhone 11 ทั้ง 3 รุ่นครับ อยากรู้อะไรเพิ่มเติมสามารถแสดงความคิดเห็นบอกกันได้เลยด้านล่างนะ เดี๋ยวไปทดสอบ ทดลองเล่น แล้วจะมาพรีวิวและรีวิวกันให้ได้ดูกันแบบจัดเต็มเลยนะ

อ้อ ส่วนกำหนดวางจำหน่ายในไทยเบื้องต้นเห็นว่าน่าจะมาก่อนสิ้นเดือนตุลาคมนะครับ ยังไงรอติดตามข่าวสารกันอีกที ถ้ารู้จะรีบมาอัพเดทเลย