แหล่งข่าววงในของ Bloomberg แจ้งว่า สหรัฐฯ กำลังพิจารณานำข้อบังคับ Foreign Direct Product Rules (FDPR) ที่เป็นมาตรการการคว่ำบาตรขั้นสูงสุดมาใช้ เพื่อยกระดับการแบนการส่งออกเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ไปยังจีน เนื่องจากรัฐบาลมองว่า บริษัทพันธมิตรหลายแห่งยังไม่มีความเข้มงวดมากพอ ทำให้จีนยังสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูงบางส่วนได้อยู่
FDPR เป็นข้อกำหนดที่อนุญาตให้สหรัฐฯ สามารถควบคุมการซื้อขายเทคโนโลยีใด ๆ ที่สร้างขึ้นมาโดยอาศัยเทคโนโลยีของสหรัฐฯ หรือมีความเกี่ยวข้องแม้เพียงส่วนหนึ่งส่วนใดได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ซึ่งตามรายงานระบุว่ารัฐบาลมุ่งเป้าไปที่บริษัทเซมิคอนดักเตอร์ 2 แห่ง ได้แก่ Tokyo Electron ของญี่ปุ่น และ ASML ของเนเธอร์แลนด์
โดยนอกเหนือจากการจำกัดการส่งออกแล้ว จุดประสงค์ของสหรัฐฯ ที่เตรียมนำ FDPR มาใช้ คือการโน้มน้าวบริษัทต่าง ๆ ให้ยุติการให้เซอร์วิสต่อเครื่องจักรในจีน (ที่ส่งมอบไปตั้งแต่ก่อนหน้านี้) เช่น การซ่อมแซม การบำรุงรักษา หรืออื่น ๆ ที่เป็นการอำนวยความสะดวก
Bloomberg ให้ความเห็นว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าว อาจเป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นว่า ความพยายามในการสกัดจีนของสหรัฐฯ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานั้นล้มเหลว อีกทั้งแนวทางนี้ยังเป็นดาบสองคม กล่าวคือ ผลจากการแบนทำให้จีนพัฒนาและผลิตชิปได้อย่างยากลำบากก็จริง แต่ในขณะเดียวกันบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ในสหรัฐฯ และชาติพันธมิตรเองก็ต้องสูญเสียรายได้ไปเป็นจำนวนมหาศาล
- SMIC ของจีน ผลิตชิป 5 นาโนเมตรสำเร็จแล้ว พร้อมแซง UMC ขึ้นเบอร์ 3 โลกได้เป็นครั้งแรก
- หากจีนบุกไต้หวัน ASML จะสั่งปิดเครื่อง EUV ของ TSMC ไม่ให้ผลิตชิปได้ ชิป (จะ) หายไปครึ่งโลก
- จีนตั้งกองทุนพัฒนาอุตสาหกรรมชิป 1.7 ล้านล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ เพื่อต่อกรสหรัฐฯ
- HUAWEI มั่นใจ จีนขึ้นเป็นผู้นำ AI ได้ แม้โดนคว่ำบาตร – แต่ SMIC กำลังเจอปัญหาการผลิตชิป AI อย่างหนัก
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้เล็กน้อย ตอนเดือนพฤษภาคมเคยมีข่าวออกมาว่า จีนประสบความสำเร็จในการผลิตชิป 5 นาโนเมตรได้ด้วยเครื่อง DUV แล้ว และคาดว่า SMIC จะนำไปใช้กับมือถือ HUAWEI Mate 70 series ที่จะเปิดตัวในช่วงไตรมาส 4 เป็นรุ่นแรก แต่ข่าวนี้ยังไม่ได้รับการยืนยัน เพราะไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการออกมา (หรือต่อให้เป็นเรื่องจริง SMIC ก็คงไม่ประกาศอยู่ดี)
ที่มา : Bloomberg
Comment