สหรัฐ กับ Huawei ถือว่าเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตั้งแต่ปี 2019 ทุกวันนี้มือถือรุ่นใหม่ๆ ของทาง Huawei ก็ยังคงใช้ GMS กันไม่ได้ แต่จากข่าวล่าสุดเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาทางสหรัฐได้ไฟเขียวแก้กฎหมายใหม่ ให้บริษัทและหน่วยงานในประเทศสามารถทำงานร่วมกับ Huawei ที่เป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับเครือข่าย 5G ได้ เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล
โดยกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐได้ออกมายืนยันเรื่องนี้เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. ที่ผ่านมาว่า จะอนุญาตให้บริษัทและหน่วยงานต่างๆ ในประเทศสามารถดำเนินธุรกิจด้านการพัฒนาเครือข่าย 5G ร่วมกับ Huawei ได้ เพื่อในอนาคตเครือข่าย 5G ก็ถูกนำมาพัฒนาร่วมกับในอุตสาหกรรมการส่งสัญญาณ ส่งไฟล์ความเร็วสูง ไปจนถึงรถยนต์ไร้คนขับ แน่นอนว่าเทคโนโลยี 5G ที่ Huawei มีอยู่ตอนนี้ไม่เป็นสองรองใครแน่นอน
วิลเบอร์ รอสส์ หรือรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐอเมริกา ได้ออกมายืนยันเกี่ยวกับการแถลงการณ์ดังกล่าวพร้อมกับกล่าวว่า
สหรัฐจะไม่ยอมแพ้ในการเป็นผู้นำนวัตกรรมระดับโลก เพื่อปกป้องความมั่นคงแห่งชาติและผลประโยชน์จากนโยบายต่างประเทศ ด้วยการส่งเสริมให้ภาคอุตสาหกรรมในสหรัฐมีเทคโนโลยีที่เป็นมาตรฐานสากล
อย่างไรก็ตามด้านตัวแทนจากบริษัท Huawei ก็ได้ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นที่เกิดขึ้นนี้ ซึ่งทางสหรัฐเองก็ระบุว่าการเปลี่ยนแปลงกฎดังกล่าวไม่ใช่เป็นการส่งสัญญาณที่จะทำให้ท่าทีระหว่างสหรัฐกับ Huawei อ่อนตัวลง แต่เพื่อไม่อยากให้ตัวเองเสียเปรียบในเรื่องการพัฒนา 5G เพราะ Huawei เป็นผู้ผลิตอุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคมรายใหญ่ที่สุดของโลก ทำให้สามารถกำหนดการตั้งค่ามาตรฐานต่างๆ ได้ ดังนั้นเพื่อไม่ให้เกิดอุปสรรคในการพัฒนา 5G ทางสหรัฐจึงจำเป็นต้องแก้กฎนี้ เพื่อให้สหรัฐสามารถพัฒนาอุปกรณ์ให้เป็นมาตรฐานสากลได้ด้วยนั่นเอง
ที่มา : reuters
แค่เพื่อไม่ได้ให้เกิดต่อความวุ่นวายต่อการสื่อสาร 5G ของโลก
ถึง Huawei มันจะโดนแบนจาก USA แต่มันก็ยังมีธุรกิจ 5G ในประเทศอื่นๆด้วย
เลยต้องยกเว้นเรื่องนี้ เพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปในทางเดียวกัน
ถึงไม่เลิกแบนโลกก็ไม่วุ่นวายหรอกครับ ประเทศอื่นก็พัฒนาตามปกติ
เอาตรงๆ 5G พัฒนาหลายค่ายมากครับ ทั้ง qaulcomm nokia medaiteck samsung
เเต่เหมือน หัวเว่ยจะไปเร็วกว่า เลยน่าจะร่วมมือพัฒนามากกว่าครับ
สหรัฐไม่ยอมเสียผลประโยชน์ทางเทคโนโลยีหรอก
ไม่เกี่ยวว่า Huawei เร็วกว่าครับ
แต่เพราะต้องเพื่อให้เกิดมาตรฐานที่เหมือนกัน
เพราะ Huawei ก็มีลูกค้าเยอะ Ericsson , INTEL , NOKIA , QUALCOMM , SAMSUNG ก็เช่นกัน
ถ้า Huawei ทำไปทางนึง แล้วพวกหลังทำไปอีกทางหนึ่งยังไงมันก็เกิดความลำบากแน่นอน จึงต้องยกเว้นตรงส่วนนี้ไว้
USA ก็คงกลัวตามไม่ทันนั่นแหละ รู้เขารู้เรา เลยมีคำพูดสวยหรูดูดีขึ้นมา
สรุปก็คือขัดขาไม่สำเร็จสินะ
ตัวเองแบนเขาแต่ประเทศอื่นไม่แบนตาม พอประเทศอื่นๆเริ่มใช้และกลายเป็นมาตรฐานก็เลยต้องยอมผ่อนเพื่อจะได้ตามทัน
คืออยากบล๊อคเค้าให้ของตัวเองขายดี แต่ก็อยากได้เทคโนโลยีเค้าว่างั้น
ตามเค้าไม่ทันเลยจำเป็นต้องร่วมมือกับเค้าพอวันนึงพัฒนาได้เท่าเค้าก็แบนเค้าเหมือนเดิมเพื่อเป็นที่1ในโลกมุขเดิมๆของไอ้กันจ้าวโลก😂😂😂
คงโดนยาแรงจากรัฐบาลจีน รัฐบาลทรัมป์ ถึงยอมผ่อนปรน
ในความคิดผมไม่น่าใช่ แต่คงกลัวว่าเทคโนโลยี 5G ของตัวเองจะไม่ทันชาวบ้านเขามากกว่า โดยเฉพาะ 5G ของ Huawei เลยต้องทำเป็นยอม ไม่งั้นก็ตกขบวน กลายเป็นผู้ตามแบบห่างๆในด้านนี้ทันที
แต่ถ้า HW ไม่ร่วมมือด้วย ตั้งเงื่อนไขว่าต้องให้ทำการค้าได้ด้วย ก้อจบ สหรัฐ เต่าเหมือนเดิม
วิธีแก้มีทางเดียวเท่านั้นคือ อเมริกา ต้องพัฒนา 6G ให้เกิดขึ้นแซงหน้าจีน ให้ได้
คงไม่ได้แล้วละเพราะ Huawei กับ ซัมเซง ญี่ปุ่นมันพัฒนา 6G แล้วน่าจะครึ่งทางแล้วมั่ง เหมือนสิทธิบัตรรอบนี้ตัว ญี่ปุ่น จะมีมากกว่าประเทศอื่น (ตอน 5G สิทธิส่วนมากมาจาก Huawei)