สำหรับใครที่กำลังมองหามือถือราคาประหยัดในงบไม่เกิน 4 พันบาทไว้ใช้งานทั่วๆ ไป เราก็ขอนำมือถือจากแบรนด์ฝรั่งเศสมารีวิวให้ดูกันกับ Wiko View 3 lite ที่มีดีไซน์สุดงามและแบตสุดอึดถึง 4000 mAh ซึ่งเป็นน้องเล็กสุดต่อจาก Wiko View 3 และ View 3 Pro จากการใช้งานโดยรวมแล้วจะเป็นยังไงบ้างมาดูกัน

ตัวเครื่องและดีไซน์

ตัวเครื่องรีวิว Wiko View 3 lite นั้นเป็นสีทอง Brush Gold แต่ดูผ่านๆ ก็คล้ายสีชมพูอ่อนที่มีขอบรอบด้านเป็นสีทองเงา เวลาโดนแสงก็จะมีเงาสะท้อนสวยงาม

ส่วนวัสดุตัวเครื่องทำจากพลาสติก มีน้ำหนักเบา เวลาถือรู้สึกว่าตัวเครื่องค่อนข้างบาง เอาเคสมาใส่ไว้ให้มันหนาขึ้นมาหน่อยก็จะรู้สึกจับถนัดมือมากขึ้น ลายนิ้วมือก็มีบ้างนิดหน่อย และรุ่นนี้จำหน่ายด้วยกัน 3 สี คือ สีทอง, สีน้ำเงิน, และสีเขียว

อุปกรณ์ในกล่องก็ให้มาแบบครบๆ ทั้งหูฟังแบบ in-ear, เคสซิลิโคลนใส, ฟิล์มกันรอย, สาย Micro USB,หม้อแปลงจ่ายไฟ 5V 1.55A และเข็มจิ้มซิม

ขนาดหน้าจอให้มาใหญ่กำลังดีที่ 6.09 นิ้ว ความละเอียดแบบ HD+ ส่วนเรื่องการแสดงผลของสีสันนั้นไม่ได้จัดจ้านอะไรมาก รู้สึกว่าสวยงามกำลังดี สู้แสงตอนกลางวันได้ดี ส่วนใครที่กลัวแสบตาก็สามารถปรับโหมดแสงกลางคืนได้เวลาใช้งานในที่แสงน้อย 

รุ่นนี้มีติ่งจอแบบหยดน้ำใส่กล้องหน้าความละเอียด 5MP มาให้ ซึ่งนอกจากจะใช้ถ่ายเซลฟี่แล้ว ก็ยังใช้ในการปลดล็อคใบหน้าด้วย

ด้านบนของตัวเครื่องมีรูหูฟัง 3.5 มม. มาให้ ส่วนด้านขวาจะเป็นช่องสำหรับถาดซิมคู่แบบ nanoSim + MicroSD 128 GB รองรับการเชื่อมต่อ 4G ทั้ง 2 ซิม (แต่ 4G active ได้แค่ซิมเดียว อีกซิมน่าจะเป็น 3G) ทำให้ไม่ต้องเลือกว่าจะใส่ซิม 2 หรือการ์ดความจุ

ปุ่มพาวเวอร์และปุ่มปรับเสียงนั้นจะอยู่ทางด้านขวา 

ด้านล่างตัวเครื่องก็จะมีรูไมโครโฟน ตามมาด้วยช่อง micro USB และลำโพงที่เสียงดังดี

พลิกมาดูกันที่ด้านหลังกันบ้าง ก็จะเป็นส่วนของปุ่มสแกนลายนิ้วมือที่สแกนได้รวดเร็ว และกล้องหลังคู่ ประกอบด้วยกล้องหลัก 13MP + กล้องจับความลึก 2MP พร้อมไฟแฟลช LED ที่ด้านล่าง

สเปค Wiko View 3 lite

  • หน้าจอ : ขนาด 6.09 นิ้ว ความละเอียด HD+ (1560 x 720)
  • CPU : Unisoc SC 9863A
  • RAM : 2 GB
  • ความจุ : 32 GB รองรับ MicroSD 128 GB
  • กล้องหลังคู่ : เลนส์หลัก 13MP + เลนส์จับความลึก 2MP
  • กล้องหน้า : 5MP
  • การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 802.11 b/g/n, Wi-Fi Direct, hotspot, BT 4.2, MicroUSB 2.0
  • มีรูหูฟัง 3.5 มม.
  • เซ็นเซอร์ : Fingerprint (ด้านหลัง), สแกนใบหน้า, accelerometer, magnetic, proximity
  • แบตเตอรี่: 4000 mAh
  • สี : สีทอง Blush Gold, สีน้ำเงิน Night Blue, สีเขียว Arctic Bleen
  • ระบบ : Android 9 Pie

UI และ การใช้งาน

Wiko View 3 lite มาพร้อมระบบ Android 9 Pie โดยจะมีหน้าตา UI แบบ Android เดิมๆที่เรียบง่ายลื่นไหลดี มีโหมดใช้ง่ายแบบไอค่อนใหญ่ๆ ให้เลือกใช้ด้วย ส่วน WiFi รุ่นนี้รองรับแค่ 2.4GHz ไม่มีตัว 5GHz นะ

ส่วนลูกเล่นอื่นๆ อย่าง Gesture หรือการใช้นิ้วสัมผัสหน้าจอเพื่อสั่งงานก็มีมาให้ อย่างเช่น  โหมดใช้งานมือเดียว, การใช้หน้าจอแอมเบียนท์ (หน้าจอจะเปิดเมื่อเรายกเครื่องขึ้นมา), เปลี่ยนแถบ Navigation Bar ให้เหลือปุ่มเดียวแบบลากสั่งงาน และใช้ 3 นิ้วเพื่อลากแคปหน้าจอ แถมยังมีฟีเจอร์ที่ช่วยเคลียร์แคชที่อยู่ในเครื่องของเราให้ด้วย บางทีที่หน่วยความจำเต็มไวก็เพราะขยะในเครื่องนี่แหละ เคลียร์แล้วก็จะได้หน่วยความจำเพิ่มมา

สำหรับระบบปลดล็อคใบหน้า ส่วนตัวลองใช้แล้วไม่ค่อยชอบ เพราะมันปลดล็อคตอนใส่แว่นกับตอนหลับตาได้ รู้สึกไม่ค่อยปลอดดภัย.. แนะนำให้ใช้ปลดล็อคแบบรหัส หรือ ปลดล็อคด้วยนิ้วดีกว่า

ประสิทธิภาพและการเล่นเกม

Wiko View 3 lite ใช้ชิปของ Unisoc SC รุ่น 9863A โดย Unisoc นี่ชื่อเดิมของเค้าก็คือ Spreadtrum ซึ่งใครที่ติดตามรุ่นราคาประหยัดน่าจะเคยเห็นผ่านตามาบ้าง แต่จะไม่ได้รับความนิยมเหมือน MediaTek เรื่องการใช้งานทั่วไปมีความลื่นไหลในระดับนึง แต่ด้วย RAM เพียง 2 GB ก็จะมีหน่วงบ้างเวลาเปิดสลับแอปไปมา หรือโหลดไฟล์ใหญ่ๆ ก็อาจจะช้านิดหน่อย แต่ก็ไม่เป็นปัญหาเท่าไหร่ ใช้งานทั่วไป ดู Youtube ท่องเว็บ เล่นโซเชียลได้สบายๆ และในการทดสอบ AnTuTu ได้คะแนนไป 73,405 คะแนน

 

ส่วนการเล่นเกมนั้น ได้ทำการทดสอบเกมยอดฮิตอย่าง ROV ซึ่งรุ่นนี้ไม่มีโหมดเฟรมเรทสูงให้เปิด มีแค่ HD ให้เปิดเท่านั้น ลองเล่นแล้วเวลาบวกหนักๆ เอฟเฟกต์เยอะๆ ก็มีอาการหน่วงออกมาให้เห็นอยู่ ปิดไม่เล่นบนความละเอียด HD ก็พอบรรเทาให้เล่นได้ลื่นไหลขึ้นได้นิดหน่อย เฟรมเรทการเล่นทั่วไปอยู่ที่ 24-32 และไม่รองรับโหมดใหม่ 10v10 

ส่วน PUBG นั้น ตัวเกมตั้งค่ากราฟฟิกมาให้แบบต่ำสุดทั้งหมด ปรับสูงสุดได้แค่สมดุลเท่านั้น เมื่อเข้าไปลองเล่นช่วงแรกก็ดูปกติดี แต่พอเล่นนานๆ พบว่าไม่ค่อยเวิร์ค เพราะเวลาบวกกันคือกระตุก ช่วงที่ขับรถเร็วก็จะ Render ฉากช้า แต่พอเล่นโหมดกราฟฟิกต่ำก็พอเล่นได้อยู่บ้าง แม้จะไม่ค่อยลื่นไหลได้ดั่งใจเท่าที่ควร

กล้องถ่ายภาพ

กล้องหลังคู่ของ Wiko View 3 lite ความละเอียด 13MP + 2MP ถือว่าอยู่ในระดับพอใช้ โหมดหลักๆ ที่ให้มาก็จะมี HDR, Bokeh, โหมดฟิลเตอร์ และโหมดกลางคืน เมื่อถ่ายภาพในที่สว่างก็ทำได้โอเค แต่บางรูปถ่ายออกมาแล้วสีก็จะหม่นๆ หน่อยไม่ค่อยตรงกับของจริง แต่รู้สึกว่าตัวกล้อง AI ทำงานได้ค่อนข้างช้า โฟกัสก็ช้ามาก ต้องถือกล้องค้างไว้เพื่อให้มันโฟกัส ถ้าขยับตัวไวภาพจะเบลอ และเวลาถ่ายภาพกลางคืนก็จะติด Noise ค่อนข้างเยอะ

ตัวอย่างรูป Wiko View 3 lite

ส่วนกล้องเซลฟี่ขนาด 5MP ก็มีมาให้ทั้งโหมด Bokeh และ AI Beauty ที่ช่วยปรับหน้าเนียน แต่เรื่องการเบลอนั้นไม่ค่อยเนียนเท่าไหร่ ยังมีติดฟุ้งๆ ตรงขอบเส้นผมบ้าง

ต้องบอกว่าโดยรวม Wiko View 3 Lite ก็ทำได้โอเคตามระดับราคาของมันเอง ไม่ได้หวือหวาสวยเทพ แต่ใช้งานถ่ายทั่วไปได้สบายๆอยู่ เช่นเดียวกันกับการถ่ายวิดีโอที่ก็จะมีไว้ให้ถ่ายบันทึกเหตุการณ์ได้ แต่ไม่ถึงกับเอามาตัดต่อเล่าเรื่องราวหรูหราอะไร

แบตเตอรี่

Wiko View 3 lite ให้แบตสุดอึดมาถึง 4000 mAh สามารถใช้งานติดต่อกันยาวๆ แบบใช้งานทั่วไป 2 ซิม เปิดทั้งเน็ตและ WiFi ช่วงเวลาไปทำงานเปิดใช้งาน เล่นโซเชียล ท่องเว็บ ดู Youtube เล่นเกมนิดหน่อย ตั้งแต่ตอนเช้า 9 โมง แบตเต็ม 100% กลับถึงบ้าน 3 ทุ่มกว่าๆ แบตยังเหลือๆ ใช้ต่อได้อีก 59% เลยแหละ และลองใช้งานแบบซิมเดียวทั้งวัน เน้นเล่นเกมนานหน่อยและใช้งานทั่วไป ตั้งแต่ 11 โมงจนถึงเกือบตี 1 แบตก็เหลือประมาณ 46% 

ลองชาร์จแบตเต็ม 100% ทดลองดู YouTube ติดต่อกันนาน 8 ชั่วโมง ผ่าน WiFi เปิดแสงหน้าจอ 60% ระดับเสียง 60% แบตเหลือประมาณ 33%

 

สำหรับการชาร์จแบตนั้นก็ใช้เวลาค่อนข้างนานเลยทีเดียว ด้วยขนาดแบตที่ใหญ่ ใช้เวลาชาร์จจาก 0% จนเต็ม 100% ก็ราวๆ 3 ชั่วโมงค่ะ

สรุปการใช้งาน

Wiko View 13 lite เป็นมือถือราคาประหยัดที่มีดีไซน์ดูดี ตอบโจทย์คนงบน้อยและเน้นใช้งานมือถือนานๆ แบบครบครันในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเล่นโซเชียล ดู Youtube ท่องเว็บก็พอไหว เล่นเกมทั่วไปพอไหว และด้วยแบตเตอรี่สุดอึด 4000mAh สามารถอยู่ได้แบบเต็มวันสบายๆ ไม่ต้องกลัวแบตหมด และความจุที่ให้มาขนาด 32GB ก็เพียงพอสำหรับโหลดแอปใช้งานทั่วไป แต่ด้วย RAM ที่ให้มาเพียง 2 GB อาจจะไม่เหมาะสำหรับการใช้งานแบบหนักหน่วงเล่นเกมกราฟฟิกสูงๆ ต้องการการตอบสนองอย่างรวดเร็วก็อาจจะต้องคิดดูก่อน 

ข้อติของรุ่นนี้ก็คงจะเป็นเรื่องกล้องหลังที่ประมวลผลช้ามาก ถ่ายไม่ค่อยได้ดั่งใจเท่าไหร่ รวมถึงมือถือในราคาระดับเดียวกันก็มีตัวเลือกเยอะพอสมควรด้วย แต่โดยรวมแล้ว Wiko View 13 lite ก็อยู่ในระดับที่พอใช้ จะซื้อไว้ใช้งานเป็นเครื่องสำรองหรือซื้อให้คุณพ่อคุณแม่ที่อายุมากแล้วไว้ใช้ติดต่อกันก็เหมาะอยู่ ในราคาสบายกระเป๋าที่ 3,690 บาท