แหล่งข่าวรายงานว่า เสียวหมี่จะปรับกลยุทธ์ธุรกิจมือถือใหม่ หันมาใช้ชิปเซตที่พัฒนาเองตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป หลังถูกรัฐบาลจีนรบเร้าหลายครั้งให้ปฏิบัติตามแนวทางลดการพึ่งพาเทคโนโลยีต่างประเทศ ซึ่งในบริบทนี้สื่อถึง Qualcomm จากสหรัฐฯ และ MediaTek จากไต้หวัน ที่เสียวหมี่ใช้บริการอยู่เป็นประจำ

ประเด็นที่ทำให้ข่าวนี้น่าสนใจยิ่งกว่าเดิมคือ คุณเหลย จุน ซีอีโอของเสียวหมี่ พึ่งประกาศไปหมาด ๆ ว่า บริษัทจะเพิ่มงบลงทุนสำหรับการวิจัยและพัฒนาชิปเซต (และเทคโนโลยีอื่น ๆ) เป็น 30,000 ล้านหยวนในปีหน้า จากเดิม 24,000 ล้านหยวนในปีนี้ ไทม์ไลน์จึงตรงกันพอดิบพอดี

การพัฒนาชิปเซตเพื่อใช้เองในค่าย ช่วยให้เสียวหมี่สามารถกำหนดทิศทางการออกแบบและควบคุมต้นทุนได้ถนัดถนี่ขึ้น ในขณะที่อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของจีนก็จะได้ประโยชน์จากความก้าวหน้าของเทคโนโลยี ทั้งยังเป็นการเตะตัดขา Qualcomm และ MediaTek ไปในตัว จากรายได้ก้อนโตที่จะสูญไป

แต่อย่างไรแล้วก็คงไม่ใช่งานที่ง่ายนัก เพราะปัจจุบันคงมีเพียงแอปเปิลเจ้าเดียว ที่สามารถเอ่ยได้อย่างเต็มปากว่า ‘ประสบความสำเร็จ’ ตามแนวทางนี้ ในขณะที่ซัมซุงและกูเกิลยังลุ่ม ๆ ดอน ๆ แม้พยายามเข็น Exynos และ Tensor อย่างหนักมาหลายปี

ข้อมูลจากแหล่งข่าวไม่ได้ลงรายละเอียดอะไรมากนัก แต่ความเป็นไปได้อย่างหนึ่งคือ เสียวหมี่อาจประเดิมใช้งานชิปเซตรุ่นใหม่กับมือถือระดับเริ่มต้นหรือระดับกลางก่อน เพราะความเสี่ยงย่อมต่ำกว่าเมื่อเทียบกับรุ่นเรือธงที่เปรียบเสมือนเป็นหน้าเป็นตาของค่าย เมื่อทุกอย่างลงตัวแล้ว ถึงตอนนั้นค่อยเปลี่ยนตามในภายหลังก็ไม่สาย

ตามแผนของเสียวหมี่ ชิปเซตจะเข้าสู่กระบวนการผลิตจำนวนมากในปี 2025 และจะเปิดตัวในปีเดียวกันหากไม่ติดขัดปัญหาอะไร

ที่มา : Bloomberg