เปิดตัวกันอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับสมาร์ทโฟนสเปคแรงราคาสุดคุ้มจากอย่าง Redmi Note 10 Series ที่มาด้วยกันถึง 5 รุ่น คือ Redmi Note 10, Redmi Note 10 5G, Redmi Note 10S, Redmi Note 10 Pro และ Redmi Note 10 Pro Max ที่มีจุดเด่นเรื่องของกล้องหลังความละเอียด 108MP และหน้าจอ Super AMOLED ที่มีรีเฟรชเรท 120 Hz ในราคาเริ่มต้นไม่ถึงหมื่น

Redmi Note 10

เริ่มต้นกันด้วยน้องเล็กสุดอย่าง Redmi Note 10 ที่มาพร้อมกับหน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6.43 นิ้วแบบ Dot Display ความละเอียด FHD+ ดันความสว่างสูงสุดได้ถึง 1,100 nits ครอบทับด้วยกระจกจอ Gorilla Glass 3 ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 678

ใช้กล้องหลัง 4 ตัว ความละเอียด 48MP ใช้เซนเซอร์ Sony IMX582, กล้องอัลตราไวด์มุมกว้างความละเอียด 8MP, กล้องจับความลึกความละเอียด 2MP และกล้องมาโครสำหรับการถ่ายวัตถุระยะใกล้ความละเอียด 2MP รวมถึงมีกล้องหน้าความละเอียด 13MP

นอกจากนั้นยังมาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 5,000 mAh รองรับระบบชาร์จไว 33W แถมมาให้ในกล่องเลยไม่ต้องซื้อเพิ่ม

สเปค Redmi Note 10

  • หน้าจอ : Super AMOLED ขนาด 6.43 นิ้ว แบบ DotDisplay (รูเล็กเพียง 3.54 มม.), ความละเอียด FHD+
  • ชิป : Qualcomm Snapdragon 678
  • RAM : 4GB / 6GB (LPDDR4X)
  • หน่วยความจำภายใน : 64 GB / 128GB (UFS 2.2), รองรับการเพิ่ม microSD Card (Triple Slot)
  • กล้องหลัง : 4 ตัว
    • Wide – 48MP (f/1.79)
    • Ultra-wide – 8MP (f/2.2)
    • Macro – 2MP (f/2.4)
    • Depth – 2MP (f/2.4)
  • กล้องหน้า : 13MP
  • เซนเซอร์ : สแกนลายนิ้วมือ (ด้านข้างตัวเครื่อง)
  • ระบบเสียง : ลำโพงคู่สเตอริโอ
  • กันน้ำกันฝุ่นมาตรฐาน IP53
  • แบตเตอรี่ : 5,000mAh, รองรับระบบชาร์จไว 33W
  • OS : Android 11 ครอบทับด้วย MIUI 12
  • สี : Frost White, Shadow Black, Aqua Green

Redmi Note 10 5G

Redmi Note 10 5G ใช้หน้าจอ LCD ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด FHD+ แบบ DotDisplay ที่มีการเจาะรูฝังกล้องหน้าความละเอียด 8MP ไว้ ตัวหน้าจอใช้รีเฟรชเรท 90Hz แบบ AdaptiveSync ที่จะมีการปรับรีเฟรชเรทให้เข้ากับการใช้งานเพื่อรักษาแบตเตอรี่นั่นเอง ส่วนฝั่งหน่วยประมวลผลจะใช้เป็นชิป MediaTek Dimensity 700 เร็วแรงพร้อมรองรับ 5G ทั้งสองซิม 

และในส่วนของกล้องนั้นจะใช้เป็นกล้องหลัง 3 ตัว ประมวลผลด้วยระบบ AI ความละเอียด 48MP บวกกับเลนส์มาโครสำหรับถ่ายวัตถุระยะใกล้และเลนส์จับความลึกตัวละ 2MP 

นอกจากนั้นรุ่นนี้ยังมาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,000 mAh ที่สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 2 วันเต็ม รองรับระบบชาร์จเร็ว 18W อีกด้วย

สเปค Redmi Note 10 5G

  • หน้าจอ : LCD ขนาด 6.5 นิ้ว แบบ DotDisplay, ความละเอียด FHD+, รีเฟรชเรท 90 Hz แบบ AdaptiveSync
  • ชิป : MediaTek Dimensity 700 5G (7 nm)
  • RAM : 4GB (LPDDR4X)
  • หน่วยความจำภายใน : 64 GB / 128GB (UFS 2.2), รองรับการเพิ่ม microSD Card (Triple Slot)
  • กล้องหลัง : 3 ตัว
    • Wide – 48MP 
    • Macro – 2MP
    • Depth – 2MP
  • กล้องหน้า : 8MP 
  • เซนเซอร์ : สแกนลายนิ้วมือ (ด้านข้างตัวเครื่อง)
  • แบตเตอรี่ : 5,000mAh, รองรับระบบชาร์จไว 18W
  • OS : Android 11 ครอบทับด้วย MIUI 12
  • สี : Aurora Green, Chrome Silver, Graphite Gray และ Nighttime Blue

Redmi Note 10S

Redmi Note 10S มากับหน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6.43 นิ้ว ความละเอียด FHD+ แบบ DotDisplay ที่มีการเจาะรูฝังกล้องหน้าความละเอียด 13MP ไว้ ส่วนของหน่วยประมวลผลจะใช้เป็นชิปเกมมิ่งสุดแรงอย่าง MediaTek Helio G95 

ในส่วนของกล้องนั้นจะใช้เป็นกล้องหลัง 4 ตัว ประมวลผลด้วนระบบ AI ความละเอียด 64MP บวกกับเลนส์อัลตราไวด์มุมกว้างความละเอียด 8MP พร้อมเลนส์มาโครสำหรับถ่ายวัตถุระยะใกล้และเลนส์จับความลึกตัวละ 2MP 

นอกจากนั้นรุ่นนี้ยังมาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,000 mAh ที่สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 2 วันเต็ม รองรับระบบชาร์จเร็ว 33W แถมมาให้ในกล่องแบบไม่ต้องซื้อแยกอีกด้วย

สเปค Redmi Note 10S

  • หน้าจอ : Super AMOLED ขนาด 6.43 นิ้ว แบบ DotDisplay, ความละเอียด FHD+
  • ชิป : MediaTek Helio G95
  • RAM : 6GB / 8GB (LPDDR4X)
  • หน่วยความจำภายใน : 64 GB / 128GB (UFS 2.2), รองรับการเพิ่ม microSD Card (Triple Slot)
  • กล้องหลัง : 4 ตัว
    • Wide – 64MP (f/1.9)
    • Ultra-wide – 8MP
    • Macro – 2MP
    • Depth – 2MP
  • กล้องหน้า : 13MP (f/2.5)
  • เซนเซอร์ : สแกนลายนิ้วมือ (ด้านข้างตัวเครื่อง)
  • แบตเตอรี่ : 5,020mAh, รองรับระบบชาร์จไว 33W
  • ระบบเสียง : ลำโพงคู่สเตอริโอ
  • กันน้ำกันฝุ่นมาตรฐาน IP53
  • OS : Android 11 ครอบทับด้วย MIUI 12
  • สี : Onyx Gray, Pebble White และ Ocean Blue

Redmi Note 10 Pro

ต่อมากับ Redmi Note 10 Pro ที่ใช้หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รีเฟรชเรท 120 Hz แบบ Dot Display ที่มีการเจาะรูฝังกล้องหน้าความละเอียด 16MP ไว้ ขนาดเล็กเพียง 2.96 มม. เท่านั้น ตัวหน้าจอครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass 5 พร้อมรองรับการรับชมคอนเท้นต์แบบ HDR10 และสามารถเร่งความสว่างจอได้สูงสุดถึง 1,200 nits ตัวชิปเซ็ตก็ขยับขึ้นมาใช้เป็น Snapdragon 732G

ในส่วนของกล้องหลังนั้นก็ยังคงใช้ 4 ตัวเหมือนเดิม แต่มีการอัปเกรดขึ้นมาใช้เซนเซอร์ Samsung GW3 ความละเอียด 64MP บวกกับกล้องอัลตราไวด์มุมกว้าง 118 องศาความละเอียด 8MP รวมถึงมีกล้อง Telemacro สำหรับการซูม 2 เท่าและถ่ายวัตถุระยะใกล้ความละเอียด 5MP และปิดท้ายด้วยกล้องจับความลึกความละเอียด 2MP

นอกจากนั้นยังมาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 5,020 mAh รองรับระบบชาร์จไว 33W แถมมาให้ในกล่องเลยไม่ต้องซื้อเพิ่ม

สเปค Redmi Note 10 Pro

  • หน้าจอ : Super AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว แบบ DotDisplay (รูเล็กเพียง 2.96 มม.), ความละเอียด FHD+, รีเฟรชเรท 120 Hz, รองรับ HDR10
  • ชิป : Qualcomm Snapdragon 732G
  • RAM : 6GB / 8GB (LPDDR4X)
  • หน่วยความจำภายใน : 64 GB / 128GB (UFS 2.2), รองรับการเพิ่ม microSD Card (Triple Slot)
  • กล้องหลัง : 4 ตัว
    • Wide – 64MP (f/1.9)
    • Ultra-wide – 8MP
    • Tele-Macro – 5MP
    • Depth – 2MP
  • กล้องหน้า : 16MP (f/2.45)
  • เซนเซอร์ : สแกนลายนิ้วมือ (ด้านข้างตัวเครื่อง)
  • แบตเตอรี่ : 5,020mAh, รองรับระบบชาร์จไว 33W
  • ระบบเสียง : ลำโพงคู่สเตอริโอ
  • กันน้ำกันฝุ่นมาตรฐาน IP53
  • OS : Android 11 ครอบทับด้วย MIUI 12
  • สี : VIntage Bronze, Glacial Blue, Dark Night

Redmi Note 10 Pro Max

ปิดท้ายด้วย Redmi Note 10 Pro Max ที่ใช้หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รีเฟรชเรท 120 Hz แบบ DotDisplay ที่มีการเจาะรูฝังกล้องหน้าความละเอียด 16MP ไว้ ขนาดเล็กเพียง 2.96 มม. เท่านั้น ตัวหน้าจอครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass 5 พร้อมรองรับการรับชมคอนเท้นต์แบบ HDR10 และสามารถเร่งความสว่างจอได้สูงสุดถึง 1,200 nits ตัวชิปเซ็ตก็ขยับขึ้นมาใช้เป็น Snapdragon 732G เหมือนกับรุ่น Pro

ในส่วนของกล้องหลังนั้นก็ยังคงใช้ 4 ตัวเหมือนเดิม แต่มีการอัปเกรดครั้งใหญ่ขึ้นมาใช้เซนเซอร์ Samsung HM2 ความละเอียด 108MP เลยทีเดียว บวกกับกล้องอัลตราไวด์มุมกว้าง 118 องศาความละเอียด 8MP รวมถึงมีกล้อง Telemacro สำหรับการซูม 2 เท่าและถ่ายวัตถุระยะใกล้ความละเอียด 5MP และปิดท้ายด้วยกล้องจับความลึกความละเอียด 2MP

ถ้ามองจากสเปคกล้องหลังนี้แล้วก็เหมือนจะถอดสเปคมาจาก Xiaomi Mi 11 ที่เพิ่งวางจำหน่ายในบ้านเราไปไม่นานนั่นเองครับ นอกจากนั้นยังมาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 5,020 mAh รองรับระบบชาร์จไว 33W แถมมาให้ในกล่องเลยไม่ต้องซื้อเพิ่ม

สเปค Redmi Note 10 Pro Max

  • หน้าจอ : Super AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว แบบ DotDisplay (รูเล็กเพียง 2.96 มม.), ความละเอียด FHD+, รีเฟรชเรท 120 Hz, รองรับ HDR10
  • ชิป : Qualcomm Snapdragon 732G
  • RAM : 6GB / 8GB (LPDDR4X)
  • หน่วยความจำภายใน : 64 GB / 128GB (UFS 2.2), รองรับการเพิ่ม microSD Card (Triple Slot)
  • กล้องหลัง : 4 ตัว
    • Wide – 108MP (f/1.9)
    • Ultra-wide – 8MP
    • Tele-Macro – 5MP
    • Depth – 2MP
  • กล้องหน้า : 16MP (f/2.45)
  • เซนเซอร์ : สแกนลายนิ้วมือ (ด้านข้างตัวเครื่อง)
  • แบตเตอรี่ : 5,020mAh, รองรับระบบชาร์จไว 33W
  • ระบบเสียง : ลำโพงคู่สเตอริโอ
  • กันน้ำกันฝุ่นมาตรฐาน IP53
  • OS : Android 11 ครอบทับด้วย MIUI 12
  • สี : Vintage Bronze, Glacial Blue, Dark Night

ราคาและวันวางจำหน่าย

Redmi Note 10

  • รุ่น RAM 4GB + 64GB – ราคา 11,999 รูปี หรือประมาณ 5,000 บาท
  • รุ่น RAM 6GB + 128GB – ราคา 13,999 รูปี หรือประมาณ 5,850 บาท
  • เริ่มวางจำหน่ายในอินเดียตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคม 64 เป็นต้นไป

Redmi Note 10 5G

  • รุ่น RAM 4GB + 64GB ราคา 199 เหรียญสหรัฐหรือประมาณ 6,000 บาท
  • รุ่น RAM 4GB + 128GB ราคา 229 เหรียญสหรัฐหรือประมาณ 6,990 บาท
  • เตรียมวางจำหน่ายในกลุ่มประเทศแรกในเดือนเมษายน 64

Redmi Note 10S

  • รุ่น RAM 6GB + 64GB ราคา 229 เหรียญสหรัฐหรือประมาณ 6,900 บาท
  • รุ่น RAM 6GB + 128GB ราคา 249 เหรียญสหรัฐหรือประมาณ 7,500 บาท
  • รุ่น RAM 8GB + 128GB ราคา 279 เหรียญสหรัฐหรือประมาณ 8,500 บาท
  • เตรียมวางจำหน่ายในกลุ่มประเทศแรกในเดือนเมษายน 64

Redmi Note 10 Pro

  • รุ่น RAM 6GB + 64GB – ราคา 15,999 รูปี หรือประมาณ 6,600 บาท
  • รุ่น RAM 6GB + 128GB – ราคา 16,999 รูปี หรือประมาณ 7,000 บาท
  • รุ่น RAM 8GB + 128GB – ราคา 18,999 รูปี หรือประมาณ 7,900 บาท
  • เริ่มวางจำหน่ายในอินเดียตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคม 64 เป็นต้นไป

Redmi Note 10 Pro Max

  • รุ่น RAM 6GB + 64GB – ราคา 18,999 รูปี หรือประมาณ 7,900 บาท
  • รุ่น RAM 6GB + 128GB – ราคา 19,999 รูปี หรือประมาณ 8,350 บาท
  • รุ่น RAM 8GB + 128GB – ราคา 21,999 รูปี หรือประมาณ 9,150 บาท
  • เริ่มวางจำหน่ายในอินเดียตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคม 64 เป็นต้นไป

อย่างไรก็ตาม คงต้องมาลุ้นกันว่าทาง Xiaomi ประเทศไทยจะเปิดตัวและวางจำหน่ายกันอย่างเป็นทางการเมื่อไหร่ ไว้หากทาง DroidSans มีข้อมูลและรายละเอียดเพิ่มเติมของเรื่องนี้แล้ว จะรีบมาอัปเดตให้ทราบแน่นอนครับ

ที่มา : Xiaomi, (2), (3) ผ่าน xda-developers