Xiaomi ปล่อยทีเด็ดมากันเป็นชุดทั้งสมาร์ทแบนด์รุ่นเล็กอย่าง Mi Band 4 และรุ่นใหญ่ อย่าง Amazfit Health Watch กับ Amazfit Verge 2 ที่มาพร้อมดีไซน์สวยขึ้น เน้นสุขภาพมากขึ้น และรองรับฟีเจอร์ ECG (electrocardiogram sensor) เหมือนที่มีใน Apple Watch 4 อีกด้วย
Amazfit Verge 2
Amazfit Verge 2 มีดีไซน์ตัวเรือนทรงกลมเหมือนรุ่นก่อนหน้านี้ แต่มีขนาดค่อนข้างใหญ่กว่าเดิมเล็กน้อย หน้าจอแสดงผลเป็นแบบ OLED ขนาด 1.39 นิ้ว ความละเอียด 454 x 454 พิกเซล , 326ppi ตัวเรือนครอบทับด้วยกระจกนิรภัย Gorilla Glass 3 และใช้ชิปเซ็ต Snapdragon Wear 2500 พร้อม RAM 512MB และหน่วยความจำในตัวเครื่องขนาด 4GB (eMMC) ใช้ชิป Qualcomm Snapdragon Wear 2500 (1.1GHz) และรันบนระบบปฏิบัติการ Amazfit OS ซึ่งสามารถใช้งานร่วมกับมือถือ Android 4.4+ และ iOS 10 ขึ้นไป
ตัวเรือนของ Amazfit Verge 2 ทำมาจาก Microcrystalline zirconium ceramic ที่แข็งแรงและมีความสวยงามพร้อมมาตรฐานกันน้ำ กันฝุ่น IP68 ,มีไมโครโฟนและไมค์ในตัว ส่วนด้านการเชื่อมต่อสามารถรองรับ 4G, eSIM ,VoLTE, Alipay offline payment support, NFC, Bluetooth 4.2+BLE, WiFi รวมถึง GPS+GLONASS+BeiDou ที่รองรับกิจกรรมต่างๆ ได้ถึง 10 รูปแบบ อาทิเช่น การวิ่ง, การเดิน, วิ่งในร่ม, ปั่นจักรยานในที่ร่ม, ปั่นจักรยานกลางแจ้ง,ใช้งานลู่วิ่ง, ปีนเขา, ฟุตบอล,กระโดดเชือก และวิ่งเทรล
นอกจากนี้ Amazfit Verge 2 ยังมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกเปลี่ยนธีมบนหน้าปัดได้ถึง 4 แบบคือ simple, dashboard, classic และ caterpillar มีแบตเตอรี่ขนาด 420 mAhที่สามารถใช้งานได้นานถึง 28 ชั่วโมงในโหมด 4G และจุดเด่นของรุ่นนี้คือมาพร้อมฟีเจอร์วัตอัตราการเต้นของหัวใจ ECG (electrocardiogram sensor) ที่แม่นยำ พร้อมทั้งตรวจจับอัตรการเต้นของหัวใจแบบ real-time อีกด้วย (มีเฉพาะในรุ่น ECG Edition)
สำหรับสนนราคาของ Amazfit Verge 2 แบ่งออกเป็น 3 รุ่นย่อย คือ
- รุ่นสแตนดาร์ด CNY 999 หรือประมาณ 4,500 บาท
- รุ่น ECG Edition ราคา CNY 1,299 หรือประมาณ 5,900 บาท
- รุ่น Avengers Limited Edition (มีจำหน่ายเพียง 5,000 เรือนเท่านั้น) ราคา CNY 1,499 หรือประมาณ 6,800 บาท
โดยสามารถสั่งซื้อได้ตั้งแต่วันนี้ผ่านช่องทางออนไลน์ JD.com, T-mall และร้านตัวแทนจำหน่ายในประเทศจีน
Amazfit Health Watch
สำหรับรุ่นนี้มีตัวเรือนสี่เหลี่ยมเหมือนรุ่น BIP มาพร้อมจอสีขนาด 1.28″ ความละเอียด 176 x176 พิกเซล ตัวเรือนมาพร้อมกรอบโลหะและใช้กระจกครอบหน้าปัดแบบนิรภัย นอกจากนี้ยังมีน้ำหนักเบาเพียง 25g (ไม่รวมสาย) กันน้ำได้ระดับ 3ATM
จุดเด่นของ Amazfit Health Watch นอกจากจะมาพร้อมกับฟีเจอร์ ECG ที่วัดอัตราการเต้นของหัวใจแบบเรียลไทม์อย่างมีประสิทภาพแล้ว ยังมาพร้อม NB-IoT ที่สามารถส่ง SMS รายงานอุบัติเหตุฉุกเฉินโดยได้ รวมถึงสามารถมอนิเตอร์และจัดเก็บข้อมูลเกี่ยวกับอัตราการเต้นของหัวใจต่ำกว่าปกติ, ตรวจค่า PPG, ตรวจจับภาวะการเต้นผิดปกติของหัวใจ และการหกล้ม นอกจากนี้ยังสามารถบันทึกข้อมูล ECG ได้ต่อเนื่อง 60 นาที และเก็บข้อมูลได้นานสูงสุด 7 วัน
และที่เป็นไฮไลท์ของรุ่นนี้คือใช้ชิปเซ็ต Huangshan No. 1 (MHS001) ซึ่งเป็น wearable processor ตัวแรกของโลกที่มาพร้อมกับเครือข่าย AI ที่ประกอบไปด้วย Cardiac Biometrics Engine, ECG, ECG Pro, และ Hearth Rhythm Abnormality Monitoring Engine ที่คาดว่าเราจะได้เห็นกันมากขึ้นบนผลิตภัณฑ์สมาร์ทวอซของ Xiaomi
สนนราคาเปิดตัว ของ Amazfit Health Watch อยู่ที่ประมาณ CNY700 หรือราวๆ 3,200 บาท โดยจะวางจำหน่ายในประเทศจีนราวปลายเดือนมิถุนายยนี้
ที่มา gsmarena, gizmochina , gizmochina
ยังคงเฝ้ารอตัวแทน Statos ที่มี ECG เพราะ Amazfit Verge 2 มันใส่ว่ายน้ำไม่ได้!!
ส่วน Amazfit Health น่าซื้อแจกคนชราในบ้าน
Apple watch สำหรับแอนดรอยราคา 3 พัน
เทียบตัวนั้นคงยากครับราคาห่างไป เพราะ apple รองรับ 5ATM ว่ายน้ำได้ ไม่ได้ว่า mi ไม่ดีนะก็ดีครับคุ้มดีแต่คงเทียบกับ apple ไม่ได้
ราคาน่าจะย่อยเยากว่านี้นะ 🙂 🙂
วะวะวะวะวะวะว้าวววววววว ECG
แบตใช้ได้ 28 ชม. อย่างนี้ก็ต้องชาร์จทุกวันอีกแล้ว
ในโหมด 4G