หลังจากที่ก่อนหน้านี้ Netflix ได้ออกมายืนยันยอมทำตามข้อตกลงจากสหภาพยุโรปแล้วว่าจะยอมลดความละเอียดวิดีโอ Streaming หรือแค่ระดับ SD หรือ 480p ในประเทศโซนยุโรป ระหว่างช่วงการระบาดของไวรัส COVID-19 ล่าสุดทาง Facebook, YouTubeและ Disney+ ก็ขอออกมาประกาศเช่นกันว่าจะยอมลดความละเอียดวิดีโอเหลือแค่ 480p ด้วย เพื่อป้องกันการใช้ปริมาณเน็ตมากเกินไปเพราะการกักตัวอยู่บ้าน

การใช้เน็ตเพื่อดูวิดีโอสตรีมมิ่งนั้น ถือเป็นการรับส่งข้อมูลที่สูงกว่าเกือบ 60% บนการใช้งานจากเครือข่ายโทรศัพท์ทั้งหมด ทางการของยุโรปเกรงว่าในช่วงที่ประชาชนต้องเก็บตัวอยู่แต่ในบ้านอาจจะทำให้ประชาชนไม่มีอะไรทำ จนต้องนั่งดูแต่หนังจากบริการสตรีมมิ่งดังกล่าว ซึ่งจะมีการใช้งาน Data ที่สูงมากจนอาจเกิดผลกระทบกับการใช้งานอินเทอร์เน็ตของทางการ รวมไปถึงกระทบกับหน่วยงานสาธารณสุขต่างๆ ด้วยนั่นเอง

นาย Thierry Breton หัวหน้าฝ่ายอุตสาหกรรมสหภาพยุโรป ได้ออกมาพูดคุยกับ Sundar Pichai ซึ่งเป็น CEO ของบริษัท Alphabet และ Susan Wojcicki ซึ่งเป็น CEO ของบริษัท YouTube โดยตรง ว่าในตอนนี้ประเทศในแถบยุโรปเริ่มมีการใช้งานอินเทอร์เน็ตเพิ่มสูงขึ้นในบางจุด แต่เพื่อความปลอดภัยเราจึงจำเป็นต้องลดปริมาณการใช้งานเน็ตในระบบด้วย

เรามุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนการรับส่งข้อมูลทั้งหมดในสหภาพยุโรปเป็นระดับ SD ชั่วคราว, นาย Thierry Breton กล่าว

นอกจากนี้ทั้ง Amazon Prime และ Prime Video ก็เตรียมออกมาตรการสนับสนุน ลดบิตเรทของวิดีโอลง เพื่อรองรับความต้องการใช้อินเทอร์เน็ตที่เพิ่มสูง จากการที่ผู้คนกักตัวอยู่ในบ้านจากเหตุการระบาดของ COVID-19 เช่นกัน

โดยล่าสุดบริการสตรีมมิ่ง Disney+ ที่เตรียมจะเปิดตัวในประเทศอังกฤษ, ไอร์แลนด์, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, อิตาลี, สเปน, ออสเตรีย และสวิตเซอร์แลนด์ ที่กำลังจะเปิดตัวในวันที่ 24 มีนาคมก็จะเปิดให้ใช้บริการวิดีโอความละเอียด SD ซึ่งจะช่วยลดการใช้ DATA ได้ถึง 25% เลยทีเดียว

อย่างไรก็ตามผู้ให้บริการโทรคมนาคมของยุโรปทั้ง Vodafone (VOD.L) และ Deutsche Telekom (DTEGn.DE) ก็มีรายงานข้อมูลออกมาสอดคล้องกัน คือตลอดระยะเวลาที่ประชาชนต้องเริ่มเก็บตัวอยู่ในบ้านจากการระบาดของไวรัส COVID-19 พบว่ามีการใช้ปริมาณเน็ตเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล โดยเฉพาะอิตาลีและสเปนซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบ 75 % โดยเปลี่ยนเวลาพีคสุดจากเดิม 18.00-20.00 น. เป็น 12.00-21.00 น. แทน

โดยในประเทศแถบเอเชียแปซิฟิคเอง คนส่วนใหญ่จะดู Streaming วิดีโอผ่านเว็บไซต์มากกว่าดูบนแอปทั้ง YouTube และ Netflix ซึ่งประเทศไทยเรา ตอนนี้ยังไม่มีรายงานมาว่าจะมีปัญหาการใช้ปริมาณเน็ตให้มากเกินไปแต่อย่างใดครับ

 

ที่มา : reuters, techspot, gsmarena