Android Jelly Bean เปิดตัวครั้งแรกเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2555 นับจนถึงตอนนี้เป็นเวลา 9 ปีพอดีเป๊ะ ผ่านการอัปเดตมาแล้วหลายหนจนเดินทางมาถึง Android 12 Beta ณ ปัจจุบันในที่สุด และเหลือผู้ใช้งานระบบปฏิบัติการในเวอร์ชันดังกล่าวอยู่ในสัดส่วนไม่ถึง 1% ซึ่ง Google มองว่า ถึงเวลาอันสมควรแล้วที่จะยุติการสนับสนุน ไม่อัปเดต Play services ให้อีกหลังจากเดือนสิงหาคม 2564 เป็นต้นไป

Play services คือไลบรารีเบื้องหลังที่รวมเอาบริการหลาย ๆ อย่างมาไว้ในที่เดียวกัน มีอยู่ในมือถือ Android ทุกเครื่องที่ผ่านการรับรองจาก Google ซึ่งแอปส่วนใหญ่ต้องอาศัยเจ้านี่ในการทำงานหรือเรียกใช้งานฟีเจอร์บางอย่าง บางครั้งยังเป็นช่องทางในการปล่อยคุณสมบัติใหม่ ๆ จาก Google ให้แก่มือถือรุ่นเก่า ๆ ที่ไม่ได้รับการสนับสนุนด้านซอฟต์แวร์จากผู้ผลิตไปแล้ว เช่น Nearby share ที่เป็นตัวอย่างล่าสุด โดยมีการอัปเดตย้อนหลังให้ถึงอุปกรณ์ที่ทำงานบน Android 6 Marshmallow เลย

Google กล่าวว่า อุปกรณ์ที่ทำงานบน Android Jelly Bean ครอบคลุมตั้งแต่เวอร์ชัน 4.1 จนถึง 4.3 หรือ API ระดับ 16 จนถึง 18 การอัปเดต Play services จะสิ้นสุดแค่เวอร์ชัน 21.30.99 ที่จะปล่อยออกมาในช่วงปลายเดือนสิงหาคมนี้ ส่วนเวอร์ชันปัจจุบันคือ 21.24.18

พร้อมกันนี้ Google ได้แนะนำให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์กำหนด API ขั้นต่ำที่รองรับเป็นระดับ 19 หรือ Android 4.4 Kitkat เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น และอย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า เหลือสัดส่วนอุปกรณ์ที่ใช้งานน้อยมากแล้ว แถมตัวเลข 1% นี่ถ้าระบุเป็นผู้ใช้งานระดับจริงจังคงจะน้อยลงไปอีก แต่บริษัทฯ ไม่ได้บังคับนะครับ ผู้พัฒนายังคงกำหนด API ขั้นต่ำที่ระดับ 18 หรือต่ำกว่าได้อยู่หากต้องการ โดยการสร้าง APK ขึ้นมาหลาย ๆ ตัวที่มี API ขั้นต่ำแตกต่างกันไป

ส่วนในมุมของผู้ใช้งาน อธิบายสั้น ๆ คือ การประกาศนี้อาจส่งผลให้ Android Jelly Bean ใช้งานแอปบางตัวไม่ได้ในอนาคต ซึ่งเอาจริง ๆ ไม่ต้องในอนาคตหรอก เพราะเท่าที่ผมเปิดดูไม่กี่วันก่อนก็มีแอปหลายตัวที่ไม่สามารถใช้งานหรือดาวน์โหลดได้ไปแล้ว และถึงอย่างไรมันก็ล้าสมัยมาก หากใครยังใช้งานอยู่ ถ้าเป็นไปได้อยากให้เปลี่ยนเป็นอุปกรณ์ที่ทำงานบนระบบปฏิบัติการที่ใหม่สักหน่อยดีกว่า เพราะมีเรื่องความปลอดภัยมาเกี่ยวข้องด้วยนั่นเอง

 

ดูเพิ่มเติม : Google