Google เริ่มนำเทคนิค seamless updates หรือ A/B updates มาใช้งานครั้งแรกบนมือถือ Pixel ตอนปี 2016 และพยายามผลักดันให้ผู้ผลิตมือถือ Android ค่ายอื่นทำตาม ซึ่งก็มีหลายแบรนด์ที่ตอบรับ เช่น ASUS, Motorola, Nokia, OnePlus, Sony และ Xiaomi ยกเว้นอยู่รายหนึ่งคือ Samsung ที่ยังยึดมั่นในวิธีการอัปเดตแบบดั้งเดิม แต่ในท้ายที่สุด Samsung ก็อาจต้องยอมทำตาม เพราะ Google มีแนวโน้มจะเปลี่ยนแนวทางการอัปเดต Android ใหม่ในเร็ว ๆ นี้

Seamless Updates คืออะไร ดียังไง

วิธีการทำงานของ seamless updates คือ การดำเนินการอัปเดต Android ในพาร์ทิชัน A หรือ B สลอตใดสลอตหนึ่งในเบื้องหลังที่ระบบไม่ได้ใช้งานอยู่ ทำให้ผู้ใช้งานยังสามารถใช้งานมือถือต่อไปได้ตามปกติขณะกำลังติดตั้งการอัปเดตโดยไม่ต้องรอหรือปิดเครื่อง จึงเป็นที่มาของชื่อ ‘seamless updates’ และ ‘A/B updates’ ที่ต่างสื่อความหมายในตัวมันเอง

ข้อดีอีกประการของ seamless updates คือ เทคนิคนี้จะช่วยรับประกันได้ว่าหากไฟล์อิมเมจมีปัญหา หรือเกิดเหตุขัดข้องขณะติดตั้งการอัปเดตระบบ เครื่องจะไม่ brick จนใช้งานไม่ได้ เนื่องจากยังมีอีกพาร์ทิชันที่เป็นเฟิร์มแวร์เดิมก่อนทำการอัปเดตเป็นหลักประกันให้สลับกลับไปบูตได้ตลอดเวลา

แต่ seamless updates ก็ไม่ดีในขนาดที่จะเรียกได้ว่าเฟอร์เฟกต์ เทคนิคนี้ยังมีข้อด้อยในแง่ของระยะเวลาการอัปเดตแต่ละครั้งที่กินเวลานาน แม้แต่กับอัปเดตย่อยหรือแพตช์ความปลอดภัยขนาดเพียงไม่กี่ MB ยังอาจต้องใช้เวลาติดตั้งนานกว่าครึ่งชั่วโมง กับอีกข้อคือ seamless updates ต้องใช้พื้นที่สำรองไฟล์อิมเมจเยอะกว่าการอัปเดตปกติพอสมควร จากการที่แบ่งพาร์ทิชันเป็นสองสลอต (ได้พื้นที่คืนหลังอัปเดตเสร็จ)

ทำไม Samsung ไม่รองรับ Seamless Updates

ทาง Samsung ไม่เคยเปิดเผยสาเหตุว่าทำไมไม่ยอมนำเทคนิค seamless updates ไปใช้งานในมือถือ Galaxy แต่ก็มีการเดากันว่าเป็นเพราะ seamless updates ใช้เวลาติดตั้งอัปเดตนาน ซึ่ง Google พึ่งแก้ปัญหานี้ไปเมื่อตอน Android 14 QPR2 Beta 1 โดยใช้กระบวนการบีบอัดข้อมูลแบบใหม่ที่ทำให้ย่นเวลาไปได้มากโข

ภาพจาก Android

ส่วนปัญหาเรื่องการกินพื้นที่ คงไม่ใช่สาเหตุที่เป็นสาระสำคัญอะไรต่อการตัดสินใจของ Samsung ขนาดนั้น เพราะถึงจะบอกว่า seamless updates กินพื้นที่ (ชั่วคราว) กว่าการอัปเดตแบบดั้งเดิมหรือ non-A/B updates แต่ก็ไม่ได้ต่างกันมากมายอะไรนัก เช่น ไฟล์อิมเมจขนาด 3.8GB การอัปเดตแบบปกติจะต้องการพื้นที่สำรอง 5.9GB ในขณะที่ seamless updates ต้องการ 9 GB ซึ่งก็ห่างกันแค่ 3.1GB เท่านั้นเอง ในขณะที่มือถือส่วนใหญ่ในปัจจุบัน หากไม่ใช่รุ่นระดับ entry ที่ราคาย่อมเยามาก ๆ ก็จะได้สตอเรจเริ่มต้นที่ 128GB ขึ้นไปกันหมดแล้ว มีความจุให้ใช้งานกันเหลือเฟือ

Google เตรียมเลิกรองรับ non-A/B updates

สถานการณ์ล่าสุดคือ 9to5Google ไปเจอว่ามีโค้ด ‘rm -rf non-AB code’ โผล่มาใน Android Open Source Project (AOSP) โดย rm หมายถึง remove หรือก็คือการที่ Google จะเลิกรองรับการอัปเดต OTA แบบ non-A/B updates แล้วเหลือไว้เฉพาะ A/B updates อย่างเดียว

หากอ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนคงพาลคิดในใจไปแล้วว่า แบบนี้ Android ทุกค่ายก็ต้องหันมาใช้ seamless updates เหมือนกันหมดแล้วสินะ โดยเฉพาะ Samsung ที่พยายามเลี่ยงมานาน

แต่ทำตอบคือ ‘ไม่ใช่’ เพราะถึงแม้ Google จะเลิกซัปพอร์ต non-A/B updates แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าค่ายอื่นต้องเลิกซัปพอร์ตตาม โดยผู้ผลิตมือถือ Android ยังสามารถใช้วิธีการอัปเดตตามแบบฉบับตัวเองได้อยู่ เพียงแค่คืนค่าการเปลี่ยนแปลงที่ว่ากลับ

ทางเดียวที่ Google จะบังคับค่ายอื่นได้คือ ใส่เงื่อนไขบังคับใช้ seamless updates ลงใน Android Compatibility Definition Document (CDD) หรือไม่ก็ Google Mobile Services (GMS) แต่ถ้าคิดตามหลักแล้ว Google คงไม่หักดิบขนาดนั้น หรือถ้าจะเกิดขึ้นจริงก็คงไม่ใช่เร็ว ๆ นี้

ไม่ว่าสุดท้ายแล้ว Samsung จะยอมใจอ่อน หันมารองรับ seamless updates หรือไม่ แต่อย่างน้อย ๆ ความเคลื่อนไหวในช่วงนี้ของ Google ก็แสดงให้เห็นว่าเริ่มเอาจริงเอาจังกับ seamless updates มากขึ้น โดยเฉพาะการแก้ปัญหาการอัปเดตกินเวลานานที่สร้างความหงุดหงิดใจให้กับผู้ใช้งานมานานหลายปี อัปเดต Android ข้ามเวอร์ชันหรือแพตช์ใหญ่ ๆ แต่ละที รอกันเป็นชั่วโมง แต่เดี๋ยวนี้ใช้เวลาแค่แป๊บเดียวแล้ว

ที่มา : 9to5Google | Android Open Source Project