งานนี้เรียกว่าดราม่าส่งท้ายปีกันอีกแล้ว สำหรับ Tech Giants ระดับโลกอย่าง Apple – Google – Microsoft – Tesla – Dell ที่ล่าสุดถูกองค์กรด้านสิทธิมนุษยชน กล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงต่อการสนับสนุนให้เกิดการละเมิดสิทธิเยาวชนด้วยการใช้แรงงานและทารุณกรรมเด็กภายในเหมืองแร่ Cobalt ที่นำมาใช้ผลิตแบตเตอรี่ จากประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก
เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาทางกลุ่ม IRA (International Rights Advocates หรือ กลุ่มสนับสนุนด้านสิทธินานาชาติ) ได้ทำการรวบรวมเอกสารสำคัญในฐานะตัวแทนของกลุ่มผู้เสียหาย ยื่นเรื่องดำเนินคดีแบบกลุ่มต่อ Tech Giants ชั้นนำ 5 รายด้วยกันได้แก่ Apple – Google – Microsoft – Tesla – Dell โดยกล่าวอ้างในคำแถลงการณ์ว่า “บริษัทเหล่านี้รับรู้และแสดงเจตนาสนับสนุนให้มีการใช้แรงงานเเด็ก ซึ่งเป็นการทำงานในสภาพที่มีลักษณะเป็นการทารุณกรรมและอันตรายต่อชีวิตอย่างเหมืองแร่โคบอลต์”
Tech Giants กับข้อหาหนัก รู้ปัญหาละเมิดสิทธิเด็ก แต่ไม่แก้ไข
สำหรับมูลเหตุในการฟ้องร้องนั้น มีการเปิดเผยว่าเป็นเพราะจำเลย (Tech Giants ทั้ง 5 ราย) รับรู้ถึงปัญหาการละเมิดสิทธิเยาวชนภายใน Supply Chain ดังกล่าวมาเป็นระยะเวลานานแล้ว แต่กลับไม่มีการแสดงถึงเจตนาที่จะจัดการปัญหานี้อย่างเด็ดขาด มีเพียงการตรวจสอบเป็นครั้งคราวเพื่อให้มั่นใจว่าพวกเขาจะไม่มีความผิดโดยตรงเท่านั้น ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่า ธุรกิจของพวกเขาสนับสนุนโดยทางอ้อมให้มีการละเมิดสิทธิของเยาวชนอยู่ดีนั่นเอง
ปัญหาเรื่องการละเมิดสิทธิของเยาวชนภายในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกนั้น เป็นปัญหาที่นับว่าเป็นที่รับรู้กันดีมาระยะหนึ่งแล้ว ตั้งแต่ช่วงปี 2016 เป็นต้นมาที่บรรดาสำนักข่าวชั้นนำของโลกไม่ว่าจะเป็น CNN | The Guardian | The Washington Post ล้วนแล้วแต่เคยทำข่าวประเด็นการทารุณกรรม บังคับใช้แรงงานเด็ก และสภาพแวดล้อมการทำงานที่เป็นอันตรายต่อชีวิตของเยาวชนชาวคองโกเป็นอย่างมาก สำหรับการใช้แรงงานในธุรกิจเหมืองแร่ประเภท Cobalt ในคองโก ซึ่งกรมแรงงานกลางของสหรัฐ ฯ ก็เคยขึ้นบัญชีดำประเด็นปัญหาเรื่องนี้เอาไว้เป็นการสั่งให้ธุรกิจสัญชาติอเมริกันต้องมีการตรวจสอบ Supply Chain ของพวกเขาว่ามีการละเมิดสิทธิหรือไม่
โดยแร่ Cobalt ที่ว่านี้เป็นสารประกอบสำคัญที่สุด ถูกใช้อยู่ในเทคโนโลยีแบตเตอรี่ประเภท Lithium-ion ในปัจจุบัน และคองโกประเทศเดียวนั้นควบคุมซัพพลายของแร่ Cobalt สูงถึง 2 ใน 3 ของทั้งโลกเลยทีเดียว จึงอาจเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยากมาก ๆ สำหรับธุรกิจกลุ่ม Electronics อย่างผู้ผลิตสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ชั้นนำทั้งหลาย ส่วนในรายของ Tesla คือผู้บุกเบิกยายยนต์ไฟฟ้าซึ่งส่วนประกอบหลักของรถก็คือ “แบตเตอรี่” และแน่นอนว่าต้นทุนราคาของแร่ Cobalt ที่มีล้นเหลืออย่างคองโกนั้น “ถูกที่สุด” ซึ่งอาจเป็นสาเหตุหลักที่ธุรกิจเหล่านี้ไม่กล้าหนีขาดไปจากซัพพลายของคองโกได้นั่นเอง
Apple – Google – Dell พร้อมใจกันบอกปัด ส่วน Microsoft – Tesla ยังเงียบ
งานนี้ฝั่ง Apple | Google | Dell ต่างพากันรีบออกแถลงการณ์ถึงข้อกล่าวตามคดีดังกล่าวโดยมีการแถลงไปในทางเดียวกันว่าพวกเขามีการจัดทำ Code of Conduct หรือระเบียบและกระบวนการตรวจสอบระบบ Supply Chain อยู่เป็นระยะ ๆ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าสิทธิมนุษยชนในรูปแบบใด ๆ ซึ่งรวมไปถึงสิทธิของเยาวชนจะต้องไม่ถูกละเมิดโดยซัพพลายเออร์ที่ทำธุรกิจกับพวกเขา โดยเฉพาะฝั่ง Apple ที่แอบเคลมแรงว่าตั้งแต่ปี 2017 พวกเขาได้ทำการตัดสินใจแบนธุรกิจเหมืองแร่โคบอลต์ในคองโกไปทั้งหมดถึง 6 รายแล้ว เพราะมีปัญหาพัวพันกับการใช้แรงงานเด็ก รวมถึงสภาพการทำงานเหมืองที่ไม่ได้มาตรฐานเรื่องสุขภาพและความปลอดภัย
เช่นเดียวกับทาง Google ที่รีบออกแถลงถึงเรื่องนี้ว่าทาง Google พร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับภาครัฐและองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนอย่างเต็มที่เพื่อจัดการปัญหาเกี่ยวกับสิทธิของเยาวชนในคองโก แต่ก็ยืนยันเช่นกันว่า “Google ยืนหยัดว่าการใช้แรงงานเด็กและมาตรฐานความปลอดภัยของเหมืองแร่โคบอลต์ที่ต่ำนั้น เป็นสิ่งที่รับไม่ได้อย่างยิ่ง แต่ก็มั่นใจว่าพวกเขาไม่ได้ทำอะไรผิดตามข้อกล่าวหาดังกล่าว”
อย่างไรก็ดีงานนี้ฝั่ง Microsoft กับ Tesla ยังไม่ได้ออกมาให้ความเห็นใด ๆ ต่อข้อกล่าวหานี้ แต่ทั้ง 2 บริษัทเคยมีการให้ความเห็นในเรื่องนี้เอาไว้อยู่บ้าง ตั้งแต่ช่วงที่เคยตกเป็นข่าวดังเรื่องการละเมิดสิทธิเยาวชนในคองโก โดยเฉพาะ Tesla ที่เคยออกมายอมรับตรง ๆ เลยว่า การจะตรวจสอบซัพพลายเออร์ให้ครบถ้วนทุกรายชนิดที่ดูแลไปถึงรูปแบบวิธีการจ้างงานและจัดหาแรงงานนั้น นับว่าเป็นสิ่งที่ทำได้จริงยากแถมธุรกิจที่ต้องใช้พลังงานจากแบตเตอรี่นั้นไม่สามารถหลีกเลี่ยงการค้าขายกับคองโกได้เลย งานนี้ต้องติดตามกันต่อยาว ๆ ว่าข้อกล่าวหาเหล่านี้มีมูลหรือไม่ และจะจบลงได้ในรูปแบบใดตราบเท่าที่ธุรกิจเหล่านี้ยังต้องพึ่งพาธุรกิจเหมืองแร่โคบอลต์ของคองโกอยู่ต่อไปอย่างแน่นอน
อ้างอิง: CNN Tech | The Washington Post
พี่จีนบอก แค่นี่เด็กๆ 555
แล้วเกี่ยวไรกับจีน ??
เพราะส่วนแบ่ง 2 ใน 3 ของแร่มาจากคองโก นั้นหมายถึงอุปกรณ์จากจีนเองก็ไม่รอดที่จะใช้จากแร่จาก คองโกเหมือนกันไงครับ
แต่จีนไม่ได้มีนโนบายอะไรแบบนี้ ประมาณว่าข้าไม่สนหรอกว่าเอ็งจะทำอย่างไร ขอแค่ข้าได้สิ่งที่ข้าต้องการ
จากแบบเส้นทางสายไหมใหม่นั้นแหละครับ นี่คือความน่ากลัวน่ากลัวของจีนในอีกมุม ที่เค้าไม่สนเรื่องมนุยธรรมเท่าไหร่ เพราะมันเป็นสิ่งที่จีนไม่คุ้นเคย
ถ้าใช้หัวคิดนิดนึง ไม่เอาแต่อคติบังตา คำถามนี้จะไม่เกิด
หรือถ้าไม่ได้อดติ แต่มองไม่ออกจริงๆ ก็ขออภัยที่ผมประเมินคุณสูงเกินไป
ข้อมูลนี้มาจาก IRA (International Rights Advocates ซึ่งเป็นหน่วยงานนานาชาติ ถ้าบริษัทจีนเกี่ยวเนื่อง ต้องมีข่าว
จึงมีที่มาของคำถาม
Isara Thepyuha
คำตอบควรยกบริษัทจีนที่เกี่ยวข้องมาครับ ถ้าบริษัทจีนไม่รอด ก็ต้องมีอ้างอิงครับ
และ
PUREBLACKHEART
ก่อนพิมทำไม ไม่ใช้หัวคิดบ้างครับ หรือ อคติทำให้มืดบอด เลยไม่คิดจะลงข้อมูลที่มีประโยชน์อะไรบ้างหรือครับ ที่จะอธิบายว่ามีบริษัทจีนเกี่ยวข้อง การตอบแบบนี้ ไร้คุณภาพมากครับ ขออภัยที่ผม คิดว่าคุณจะมีประโยชน์ครับ
ถ้าทำกาารค้นหาข้อมูลจะไม่ถามหาข้อมูลเพิ่มในประเด็นนี้เลยครับ เบสิคสุดๆเลยนะครับ รู้ไหมครับว่าเหมืองแร่โคบอลที่คองโก(ทั้งที่เป็นข่าวและไม่เป็นข่าว) ชื่ออะไร??? ติ๊กต๊อก… ติ๊กต๊อก… ติ๊กต๊อก…
คำตอบคือ
Congo DongFang International Mining ชื่อ ตงฟาง นั้นเองจ้าาาาาา !!! (คงไม่คิดว่ามันเป็นภาษา คองโกนะ ***บ.จีนจ๋า) โอ๊ะเดี่ยวจะว่าไม่หาข้อมูล ความรู้ไม่แน่น DongFang เป็นซับให้ Huayou Cobalt (อันนี้ไม่เล่าเยอะเป็นเทคนิคกาาสัปทานผูกขาดที่จีนทำไว้กับกลุ่มประเทศ แอฟริกา)
ส่วนคำถามที่ถามว่า "ถ้าบริษัทจีนไม่รอด ก็ต้องมีอ้างอิงครับ"
คำตอบง่ายนิดเดี่ยวด้วยโลจิคแบบซิมเปิ้ลๆเลยนะ คือ บ.จีนเค้าเคยสนใจส่งแวดล้อม, มนุษยธรรม, คุณภาพแรงงาน, หลักการค้าสากล, ฯลฯ คำตอบคือ ไม่ อาจจะมีบ้างเรื่องสิ่งแวดล้อมในจีน และเรื่องแรงงานในจีนสักนิดสักหน่อย คลั่นจะมาจัดต้อง องค์กรไม่แสวงหาผลประโยชน์ หรือ องค์กรส่วนกลางที่จะคอยมากำหนดควบคุม มาตราฐานสิ่งต่างๆ ทั้งในรูปธรรมและนามธรรมนั้น ก็คงเร็วไปกับจีน ที่ผมบอกแล้วว่า "เพราะมันเป็นสิ่งที่จีนไม่คุ้นเคย"
แบร์นจีน เคยแบบอ้างเรื่องสิ่งแวดล้อมแบบ Apple ไหมครับ แบบว่าเราใช้วัศดุรีไซเคิ้ลนะ หรือแบบ Sony ที่เราให้กระบวนผลิดบางชิ้นส่วนเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมนะ เอาตรงๆนะอย่าว่ากระนั้นเลย Fair Trade อะไรจีนไม่รู้จัก (จีนเคยพูกด้วยซ้ำว่า องค์กรพวกนี้ไร้สามารถขวางทางก้าวหน้า) พวก CE หรือ มาตราฐานทั้งหลายถ้าแบร์นเค้าข้ามได้ เค้าข้ามมาแบบ ระเบิดมาก็ว่ากันไหม เค้าไปเน้นนู้น DxOAMARK เงินมาผ้าหลุด
จีนตอนนี้เข้าไปในทวีฟแอฟริกา เพื่อทรัพยากร จนกินรวม ทั้งทวีฟแล้วครับ ในมุมผู้นำแอฟริกา(อันนี้คงไม่พูดเยอะ)ดีกว่าดีลกับ บ.ฝรั่งหัวทองเยอะ เพราะ G2G กันเลย แถมจีนไม่เคยยุ่งว่าแร่จะขุดมาแบบไหน ฉันต้องทำอะไรบ้างให้ได้แร่มา ไม่ต้องมาเหนื่อยใจ แบ่งเงินทำตาม กฏเกณฑ์บ้าบอที่ฝรั่งทำมาให้ปวดประสาท (ส่วงนนี้คงไม่ต้องพูดเยอะ ถ้าหาข้อมูลดีๆ กรองๆ น่าจะเจอเยอะเรื่อง สงครามกลางมืองแอฟริกานั้น ก็มาจากผลประโยชน์ทางทรัพยากร ที่โดนแร้งทึ้งมาตั้งแต่สมัยยุโรปเข้าล่าอนานิคมแล้ว บางประเทศยังต้องถวายบรรณาการในรูปแบบสัปฐานเอาเปรียบอยู่เลย)
เรื่องมืดๆของจีนมีอีกเยอะ เล่าไป 100เพจ ก็ไม่หมด ไหนจะเรื่องพม่าโรงฮิงยาเอย, เรื่องเหมืองทาศเอย, เรื่องแทรกแสรงประเทศอื่นเอย และเรื่องการจะกลืนแอฟริกาเอย บลาๆ ๆ ๆ
โพสติดยากมาก
ถามอย่างตอบอย่าง ทำเพื่อ???
จากบทความนี้
พูดถึง IRA (International Rights Advocates) ฟ้องบริษัท TECH GIANTS
แล้ว เลยถามว่า "ถ้าบริษัทจีนไม่รอด ก็ต้องมีอ้างอิงครับ" หรือ แปลว่า
.
IRA ฟ้อง TECH GIANTS จีนหรือไม่ ขออ้างอิง…..????
.
หรือว่า "Congo DongFang International Mining" คือ TECH GIANTS จีน ที่โดน IRA ฟ้อง????………จะมั่วเอาแบบนี้เลยหรือ….ทำเหมือง เป็นTECH GIANTS ได้ด้วยหรือ??
–
–
***ขอข้อเท็จจริงที่อ้างอิงได้ ถ้อยคำเชิงพรรณาแบบบ่นๆ ที่มาจากอคติส่วนตัวไม่ต้องครับ….
***แนะ ตอบให้เกี่ยวกับบทความ และเรื่องที่ถาม และต้องมีอ้างอิง อย่าใช้อคติ…
—-โพสติดยากมาก—
สตินะพี่นะ ค่อยคิดตาม พี่ถามว่าจีนเกี่ยวไร ผมไม่รู้หรอกว่าพี่ต้องการอะไร ผมก็อธิบายให้ว่า จีนเกี่ยวไรไง
จีนเป็นเจ้าของเหมือง หมายถึงจีนรู้เห็นการใช้เด็กเป็นแรงงานไงครับ แต่ IRA ฟ้องจีนตรงๆไม่ได้
ผมว่าผมไม่มีอคติอะไรเลยในข้อความผมล้วนเป็นเชิงอรรถ ถึงกลเศรษฐศาสตร์จีน เท่านั้นเอง ซึ้งมันก็มีให้อ่านกันทั่วโลก
IRA จะไปฟ้องจีนได้ไงครับ คือผมงง กับตรรกพี่มากเลยครับ International Rights Advocates เค้ามีหน้าที่คอยส่องดูว่าใครใช้งานของที่มาจากความถูกต้องในสิทธิของมนูษย์ที่พึ่งมี มันจะยาว ถ้าจีนบอกว่า 12ขวบทำงานได้แล้วในเหมืองแร่ นั้นหมายความว่ามันถูกต้องสำหรับจีน แต่มันอาจจะไม่ถูกต้องสำหรับฝรั่ง (อันนี้ไม่งงนะ) IRA จะเข้าไปแทรกแซงกระบวนการสิทธิของจีนไม่ได้ เพราะอะไรเพราะ IRA ไม่ได้เป็นเจ้าของโลกนี้
จากประเด็นทั้งหมดผมแสดงไปหมดแล้วว่าทำไม IRA ไม่ฟ้องจีน เพราะฟ้องไม่ได้ไงครับ ไม่กรอบกฏหมาย บ. ที่โดน ล้วนเป็น บ.จากเมกา หรือกลุ่มประเทศนอกจีน จีนเค้าไปสนใจอยู่แล้วต่อ IRA ฟ้องไป อนุยาโต จะทำไรจีนได้ครับ ศาลจีนปัดจบบอกไม่มีข้อบังคับนี้กับ บ. จีน ก็จบ เค้าก็บีบจากทางที่เค้าบีบได้ งง
กลเศรษฐศาสตร์เบื่องต้นเลย
***ขอข้อเท็จจริงที่อ้างอิงได้ ถ้อยคำเชิงพรรณาแบบบ่นๆ ที่มาจากอคติส่วนตัวไม่ต้องครับ….
ข้อความที่ผมพูดเป็นแบบการวิจารณ์จากเชิงอรรถ คุณสามารถ สังเคาระห์จะตามรอยคำพูดไปหาข้อมูลเองครับ
***แนะ ตอบให้เกี่ยวกับบทความ และเรื่องที่ถาม และต้องมีอ้างอิง อย่าใช้อคติ…
ไม่มีหลักเกณฑ์บอกว่าจะตอบขยายความได้นิครับ (ตรรกอะไรหว่าาาา)
หรือว่า "Congo DongFang International Mining" คือ TECH GIANTS จีน ที่โดน IRA ฟ้อง????………จะมั่วเอาแบบนี้เลยหรือ….ทำเหมือง เป็นTECH GIANTS ได้ด้วยหรือ??
ผมว่าคูรหลงประเด็น จมสู่จีนไปหมดแล้วครับ ขอให้เพลิดเพลินกับ Huawei Media Pad และ Lenovo K900 สายจีนจัดชัดจ๋า บางทีก็มองอีกมุมของจีนบ้างนะ ไม่ใช้เค้าทำของดีของถูกออกมาก็พาลจะหลงคารมจนหมดซึ้งการรู้ข้อมูลที่รอบด้าน
ก็ฮาดี มีคนแบบนี้ด้วย???
จากบทความนี้
"พูดถึง IRA (International Rights Advocates) ฟ้องบริษัท TECH GIANTS "
และ
พอถามถึง fact
"ว่า "ถ้าบริษัทจีนไม่รอด ก็ต้องมีอ้างอิงครับ" หรือ แปลว่าเป็นไทยว่า
.
IRA ฟ้อง TECH GIANTS จีนหรือไม่ ขออ้างอิง…..???? "
–
–
——กลับ ตอบไม่ได้ ใบ้กิน …………แล่วบ่น อะไรไม่รู้
.
ที่เกี่ยวกับบความ กับคำถาม ไม่ยอมตอบ เพราะตอบไม่ได้ เลย บ่น พร่ำ ๆๆๆๆ บลาๆๆๆๆๆ
ง่ายๆ ก็แค่ยกชื่อบริษัทTECH GIANTS จีน มา ว่าถูก IRA ฟ้อง มีที่ไหนบ้าง? พร้อมอ้างอิง?
**ตอบไม่ได้ ก็ยอมรับ ว่าตนพลาด ก็แค่นั้น แบบนี้ดูดีกว่า มาพร่ำเพ้อ อะไรที่ไร้ประโยชน บราๆๆๆๆ ………
แสดงว่าเข้าใจ พฤติกรรม จีน ได้บรรลุครับ เขาเป็นแบบที่ท่านว่าน่ะแหละ ไม่แคร์ ซะอย่าง ใครจะทำไม