Apple ดูเหมือนจะเป็นบริษัทในแวดวงไอทีที่ได้รับผลกระทบกับวิกฤตชิปขาดตลาดน้อยที่สุด เนื่องจากการวางแผนจากหัวกะทิภายในบริษัทฯ ที่ช่วยไตร่ตรองกันเป็นอย่างดี สั่ง TSMC ผลิตชิปก่อนใครเพื่อน ทำให้มีชิปในมือเยอะกว่าเจ้าอื่น ๆ แต่แล้วล่าสุดตอนนี้สำนักข่าวต่างประเทศได้รายงานว่า Apple ในที่สุดก็ได้รับแรงกระแทกนี้แล้วเหมือนกัน อาจจะต้องลดจำนวนการผลิต iPhone 13 ทั้ง 4 รุ่นไปถึงหลักสิบล้านเครื่องเลยทีเดียว

Broadcom และ Taxas Instruments ผู้ผลิตชิ้นส่วนหลักให้กับ iPhone 13 ได้ออกมายอมรับกับ Apple ว่าตอนนี้ปัญหาชิปเซ็ตขาดแคลนระบาดส่งผลกระทบถึงพวกเขาอย่างหนัก จนทำให้ไม่สามารถส่งชิ้นส่วนสำคัญในการผลิต iPhone 13 ได้ จนเป็นเหตุให้ Apple ไม่มีทางเลือก นอกจากประกาศลดจำนวนการผลิตสมาร์ทโฟนรุ่นดังกล่าวลงไปมากถึง 10 ล้านเครื่อง 

ปัญหาชิปขาดแคลนนี้ระบาดมาทั่วโลกมาเกินกว่าปีนึงแล้ว ส่งผลไปทั่วทุกวงการ หนักสุดก็แวดวงสมาร์ทโฟนของเราที่เวลามีมือถือเปิดตัวออกมาแต่ละที มักจะวางขายในจำนวนจำกัด แถมราคาก็สูงกว่าปกติเมื่อเทียบกับปีก่อน ๆ ช่วงที่ยังไม่มีวิกฤตนี้เข้ามา มิหนำซ้ำ แร่ซิลิคอนที่จำเป็นต่อการผลิตอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์ ยังมาขาดแคลน ราคาสูงถึง 300% ทำให้ปัญหาชิปขาดแคลนอาจแง่ลงไปอีกขั้น

ข่าวร้าย….แร่ซิลิคอนขาดตลาด อาจทำให้วิกฤตชิปแย่ลง ราคาสมาร์ทโฟนอาจแพงขึ้นกว่าเดิม

Apple มีคิวจะประกาศผลประกอบการของไตรมาสล่าสุดในวันที่ 28 ตุลาคมที่จะถึงนี้ โดยเนื่องในโอกาสนี้เอง พวกเขาก็จะอัปเดตสถานการณ์ภายในบริษัทฯ กับนักลงทุนทั้งหลายว่าข่าวนี้จะส่งผลกระทบกับ iPhone 13 แค่ไหน รวมถึงปัญหาชิปขาดแคลนจะมีแรงกระเพื่อมกับตัว Apple มากน้อยแค่ไหน

 

ที่มา: 9to5mac