นอกจากจะมี iPad Air 4 และ iPad 8th Gen มาเปิดตัวแล้ว ในงาน #AppleEvent ก็มีสมาร์ทวอทช์สุดพรีเมียมอย่าง Apple Watch 6 และ Apple Watch SE รุ่นราคาประหยัดมาเปิดตัวอีกด้วย โดยนาฬิกาอัจฉริยะทั้งสองจะมากับดีไซน์ไหน มีฟีเจอร์อะไรบ้าง และราคาเริ่มต้นที่เท่าไหร่ ดูได้ในบทความนี้เลยครับ

Apple Watch 6

ในเรื่องของดีไซน์ Apple Watch 6 จะมากับดีไซน์ที่ไม่ได้ต่างจากสมาร์ทวอทช์รุ่นก่อนหน้าอย่าง Apple Watch 5 หรือ Apple Watch 4 ซักเท่าไหร่ เว้นก็แต่รอบนี้ที่ Apple Watch 6 จะมีสีแดง Product Red ให้เลือกซื้อแล้ว ขณะที่ขนาดหน้าปัดจะมี 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น 40 มม. และรุ่น 44 มม.

มากับฟีเจอร์ Always-On Display ที่ทาง Apple เคลมว่าจะมีความสว่างมากกว่าเดิมถึง 2.5 เท่า ทำให้การใช้งานในที่กลางแจ้งนั้นสามารถทำได้ง่าย ผู้สวมใส่ไม่ต้องเพ่งสายตามากนัก ก็มองเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นบนหน้าปัด เวลากี่โมง มีการแจ้งเตือนอะไรเข้ามา ฯลฯ

นอกจากนี้ Apple Watch 6 ยังมีสายนาฬิกาแบบใหม่ที่มีชื่อว่า Solo Loop ให้เลือกอีกด้วย โดย Solo Loop มาเป็นแบบสายรัดไม่มีห่วงที่ยืดหยุ่น ไม่รัดข้อแขนจนเกินไป แต่บอกเลยว่ามีความทนทานสูง ไม่ขาดง่ายๆ แน่นอน

Apple Watch ขับเคลื่อนด้วยชิป S6 ที่มีประสิทธิภาพแรงกว่าเดิม 20% แถมยังกินไฟน้อยกว่าเดิมอีกต่างหาก โดยสามารถใช้งานต่อเนื่องสำหรับการชาร์จเต็มหนึ่งครั้งที่ 18 ชั่วโมง รองรับระบบชาร์จไวที่เสียบทิ้งไว้ 1.5 ชั่วโมง แบตก็เต็มแล้ว

นอกจากนี้ Apple Watch 6 ยังมากับเซ็นเซอร์ใหม่ที่จะเข้ามาช่วยให้ผู้สวมใส่สามารถวัดค่าความหนาแน่นของออกซิเจนในเลือดได้แบบง่ายๆ ภายใน 15 วินาทีอีกด้วย

ครั้งนี้ Apple Watch 6 ก็รองรับฟีเจอร์ Sleep Tracking หรือการตรวจวัดคุณภาพการหลับนอนแล้วด้วย

ส่วนเรื่อง Watch Faces อันนี้ Apple Watch 6 สามารถปรับเปลี่ยนได้แบบเยอะมากๆ ตามรูปด้านล่างเลยครับ

 

ไม่มี iPhone ก็สามารถใช้ Apple Watch 6 ได้ ผ่านฟีเจอร์ Family Setup โดย iPhone เครื่องหลักที่เชื่อมกับ Watch ไว้ จะสามารถกำหนดได้ว่าผู้สวมใส่ Watch นั้นสามารถมี Contacts ใครได้บ้าง หรือว่าอยู่ตรงไหน ซึ่งเหมาะมากๆ กับการใช้งานในครอบครัว

ฟีเจอร์ Family Setup รองรับการใช้งานในประเทศไทยบ้านเราอีกด้วย ใช้ได้ทั้งบนเครือข่าย AIS, truemove H และ dtac เลย

สเปคเบื้องต้นของ Apple Watch 6

  • ขนาดหน้าปัด: 40 มม. และ 44 มม.
  • หน้าจอ Retina Display รองรับ Always-On Display
  • รองรับการวัดค่าออกซิเจนในเลือด
  • เซ็นเซอร์ ECG
  • เซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ
  • รองรับ Family Setup (เฉพาะรุ่น GPS + Cellular)
  • กันน้ำลึก 50 เมตร

โดย Apple Watch 6 จะมีราคาเริ่มต้นที่

  • 13,400 บาท สำหรับตัวเรือนอะลูมิเนียม รุ่น GPS
  • 14,400 บาท สำหรับตัวเรือนอะลูมิเนียม รุ่น GPS + Cellular

Apple Watch SE

Apple Watch SE มากับชิปเซ็ต S5 ที่ทาง Apple เคลมว่ามีประสิทธิภาพที่เหนือกว่า Apple Watch 3 อยู่มากถึง 2 เท่า ซึ่งแม้ว่าจะเป็นสมาร์ทวอทช์รุ่นราคาประหยัด แต่ตัว Apple Watch SE เอง ก็รองรับฟีเจอร์โหดๆ ที่อยู่บน Apple Watch 6 เพียบ ไม่ว่าจะเป็น Fall Detection, Altimeter แถมยังสามารถใส่ออกกำลังกายว่ายน้ำได้อีกด้วย

อีกทั้ง Apple Watch SE ยังรองรับ Family Setup, ฟีเจอร์ตรวจจับการนอน Sleep Tracking และมีสาย Solo Loop ให้เลือกใช้งานอีกด้วย

สเปคเบื้องต้นของ Apple Watch SE

  • ขนาดหน้าปัด: 40 มม. และ 44 มม.
  • หน้าจอ Retina Display ไม่รองรับ Always-On Display 
  • เซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ
  • รองรับ Family Setup (เฉพาะรุ่น GPS + Cellular)
  • กันน้ำลึก 50 เมตร

โดย Apple Watch SE จะมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่

  • 9,400 บาท สำหรับตัวเรือนอะลูมิเนียม รุ่น GPS
  • 10,900 บาท สำหรับตัวเรือนอะลูมิเนียม รุ่น GPS + Cellular

นอกจากนี้ Apple ยังประกาศอีกว่าในปีนี้ Apple Watch 6 และ Watch SE จะไม่มีหัวชาร์จแถมมาให้ในกล่อง โดยให้เหตุว่าเป็นการช่วยลดขยะอิเล็กทรอนิกส์นั่นเอง