Canalys ได้เผยผลการสำรวจตลาดสมาร์ทโฟนทั่วโลกในรอบไตรมาสที่ 4 ของปี 2024 และพบว่าตลาดสมาร์ทโฟนทั่วโลกโตขึ้น 7% หลังจากที่ลดลงต่อเนื่องมาสองปี โดยมีผู้ผลิตจากจีน เช่น Xiaomi และ Vivo ช่วยให้ตลาดโตขึ้นกว่าเดิม แม้ Apple และ Samsung ยังคงครองตำแหน่งผู้นำตลาด 2 อันดับแรกอยู่
โดยในรายงานกล่าวว่า สมาร์ทโฟนทั่วโลก มียอดจัดส่งรวม 1.22 พันล้านเครื่อง โดย Apple และ Samsung ยังคงอยู่ในอันดับท็อป 2 ด้วยส่วนแบ่ง 18% เท่ากัน (แต่ Apple เยอะกว่าประมาณ 3 ล้านเครื่อง) รองลงมาคือ Xiaomi 14%, Transsion 9%, OPPO และ vivo 8% เท่ากัน ขณะที่ Honor และ Lenovo มีส่วนแบ่งตลาด 5% ส่วน Huawei และ Realme อยู่ที่ 4%
แม้ว่ายอดจัดส่งของ Apple และ Samsung จะลดลง 1% แต่ Xiaomi และ Transsion (Infinix, Tecno, Itel) กลับมียอดขายเพิ่มขึ้น 15% ขณะที่ OPPO (รวม OnePlus) เติบโตขึ้น 3% โดย Apple ได้รับแรงหนุนจากตลาดเกิดใหม่และยอดขายที่มั่นคงในอเมริกาเหนือและยุโรป ขณะที่ Xiaomi เติบโตจากตลาดจีนแผ่นดินใหญ่และการขยายตลาดในกลุ่มประเทศเกิดใหม่
ที่น่าสนใจก็คือ สมาร์ทโฟนที่มียอดจัดส่งมากที่สุดในปี 2024 ตกเป็นของ iPhone 15 รุ่นธรรมดา คือ 3% ของสมาร์ทโฟนทั้งหมด ไม่ใช่รุ่น Pro อย่าง iPhone 14 Pro Max ในปี 2023 แต่ iPhone 16 Pro Max กลับเป็นที่นี่ยมอย่างรวดเร็ว เมื่อมองว่า iPhone 16 Pro Max เพิ่งเริ่มวางขายในช่วงปลายปี 2024 เท่านั้น ในขณะที่ Samsung Galaxy A Series ยังเป็นสมาร์ทโฟนที่มียอดจัดส่งมากที่สุดของฝั่ง Android อยู่ โดยรุ่นเด่นสุดยังคงเป็น Galaxy A15 และ ได้มีรุ่นท็อปสุดของ S Series อย่าง Galaxy S24 Ultra ที่มียอดจัดส่งมากที่สุดเป็นอันดับที่ 9 ของสมาร์ทโฟนทั่วโลกอีกด้วย
สำหรับยอดจัดส่งในไตรมาสที่สี่ของปี 2024 นั้น Apple มียอดจัดส่ง 77.1 ล้านเครื่อง ครองส่วนแบ่งตลาด 23% ลดลงจาก 24% ในปีก่อน ส่วน Samsung ขายได้ 51.9 ล้านเครื่อง มีส่วนแบ่ง 16% ลดลงจาก 17% ขณะที่ Xiaomi จำหน่าย 42.7 ล้านเครื่อง คิดเป็น 13% ของตลาด เพิ่มขึ้น 5% ในด้านปริมาณ
โดยถ้าแบ่งตามประเทศแล้ว ตลาดสมาร์ทโฟนในจีนแผ่นดินใหญ่เติบโตขึ้น 4% ในปี 2024 ขณะที่อเมริกาเหนือและยุโรปเติบโตขึ้น 1% และ 3% ตามลำดับ สะท้อนถึงการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนหลังจากภาวะซบเซาในช่วงก่อนหน้า
นอกจากนั้น รายงานของ Canalys ยังกล่าวว่า แม้ตลาดสมาร์ทโฟนจะฟื้นตัวในปี 2024 แต่ผู้ผลิตยังคงต้องเจอกับความท้าทายหลายอย่างในปี 2025 รวมถึงการแข่งขันที่รุนแรงและความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วอีกด้วย
Comment