มาอัพเดทตัวเลขน่าสนใจในเรื่องของสังคมไร้เงินสดกันสักหน่อย หลายๆคนน่าจะเคยได้ยินว่าที่ประเทศจีนแทบจะไม่ใช้เงินสดกันแล้ว ออกจากบ้านมาคว้าแค่กุญแจกับโทรศัพท์ก็พอ แต่อาจจะยังไม่เห็นภาพว่ามันเยอะขนาดไหนกันแน่ พอดีเมื่อวันก่อนได้ไปร่วมงานของทางวีซ่า และมีการได้เปิดเผยตัวเลขของการใช้เงินสดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งประเทศจีนเหลือใช้น้อยกว่าหลายประเทศมาก ไม่ถึง 50% เท่านั้น
โดยตัวเลขนี้ทาง Visa ได้เขียนที่มาเอาไว้ว่าเก็บรวบรวมจากหน่วยงานและสถาบันการเงินหลากหลายประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งก็บอกตัวเลขของประเทศอื่นๆในภูมิภาคนี้ด้วย โดย Australia มีตัวของการใช้เงินสดที่น้อยที่สุด เพียง 21% เท่านั้น ส่วนไทยได้ถูกจับไปรวมเป็นกลุ่มประเทศแถบ South East Asia ไป ซึ่งประเทศในกลุ่มนี้จะยังคงใช้เงินสดกันค่อนข้างสูงถึง 76% เลยทีเดียว ต้องรอติดตามว่าในช่วง 5-10 ปีนี้จะมีแนวโน้มลดลงแค่ไหน เพราะมีการผลักดันจากหลายทางที่จะเลิกใช้เงินสดกันขึ้นเรื่อยๆนั่นเอง
สถิติการใช้จ่ายสินค้าอุปโภคบริโภคส่วนบุคคล PCE
- ทั่ว Asia Pacific มีมูลค่าที่ราว 11 Trillion USD (11 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ)
- ประเทศแถบ Asia Pacific ใช้เงินสดกันราว 55% หรือ 6.1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ
- ออสเตรเลียใช้เงินสดกันน้อยที่สุดเพียง 21%
- จีน 47%
- ญี่ปุ่น 68%
- SEA 76%
- อินเดีย 86%
ตรงนี้ทาง VISA ก็มองว่าเป็นโอกาสที่ที่บริษัทจะยังสามารถเข้าไปช่วงชิงตลาดเป็นหนึ่งในช่องทางให้คนใช้จ่ายเงินกัน ในปัจจุบันหลายๆคนจะเข้าใจว่า VISA เป็นบริษัทบัตรเครดิต แต่ถ้าถามวีซ่าเองเค้าจะให้คำนิยามว่าตนเองเป็นบริษัทผู้ให้บริการด้านช่องทางการชำระเงิน ดังสโลแกนที่เขียนเอาไว้ว่า Leading Global Payment Solution ไม่ใช่ให้บริการบัตรเครดิตแต่อย่างใด
ยังมีเรื่องที่น่าสนใจสถิติน่ารู้เกี่ยวกับ VISA อีกมากมายที่ไปรู้มาจากงานนี้ที่อยากจะเอามาเล่าให้เพื่อนๆฟัง ยังไงรอติดตามอ่านกันนะ
ทำไมญี่ปุนยังสูงขนาดนั้น นึกว่าลดไปถึงไหนต่อไหนแล้ว
อาจจะเป็นเพราะนักท่องเที่ยวที่เข้าไปพกเงินสดเข้าไปหมุนเวียนในระบบ
เคยฟังวิเคราะห์มาว่า คนญี่ปุ่นไม่นิยมใช้บัตรเครดิตครับ
เป็นประเทศที่ดูเจริญและพัฒนา แต่คนยังนิยมใช้เงินสด
อีกประเทศที่ยังนิยมใช้เงินสดคือเยอรมันนี
ประเทศไทยคงอีกนาน แค่เติม BTS จะใช้บัตรได้ต้องเติมเที่ยว เฮ้อ
อินเดียว อยู่ข้างๆอินเดียรึเปล่าครับ ^^
ลั่น! 555555555
55555 คล้ายๆอันเดียวน่ะครับ
เมืองไทยรัฐสนับสนุนพร้อมเพย์ด้วยการออกกฏ "คุณใช้จ่ายถี่หรือใช้จ่ายเยอะ เค้าขอดูน๊าว่าใช้ไรมั่ง"
บางทีแค่ย้ายเงินเข้า-ออกไปบัญชีโน่นนี่ เก็บแต้มธนาคารที่ให้ใช้จ่ายผ่านระบบ แม้กระทั่งอยากจะกดเงินทีละน้อยๆแต่ถี่ๆ ก็ต้องมานั่งคิดว่าสรรพกรจะมาถามมั้ยว่ายอดเหล่านี้ทำอะไรบ้าง ขอย้อนหลังเบาๆ2ปีพอ(แต่ธนาคารให้statement ย้อนหลังแค่6เดือน T-T)
คนทั่วไปไม่มีรายได้หลบสรรพกร มันก็ต้องคิด
ปัญหามันอยู่ตัวคนนะแบบนี้ ไม่ใช่ระบบ
ต้องระดับหลายพันครั้งต่อปีเลยนะ เค้าถึงจะตรวจ
เข้าใจว่าตัวเลขนี้มาจากบัญชีส่วนตัวที่ใช้มากที่สุดในระบบ+gap อีกนิดหน่อยด้วยนะ
ถ้าเกินนี่สมควรถูกสงสัย
1. การฝากหรือรับโอนเงินทุกบัญชีรวมกันตั้งแต่ 3,000 ครั้งต่อปี และ 2. การฝากหรือรับโอนเงินทุกบัญชีรวมกันตั้งแต่ 200 ครั้ง และมียอดรวมของกันตั้งแต่ 2 ล้านบาทขึ้นไป โดยกรมสรรพากรจะเก็บข้อมูลเป็นเวลานาน 10 ปี
แต่ละคนใช้ชีวิตไม่เหมือนกัน รายได้ไม่เหมือนกัน คนรายได้ต่อปี5แสนก็โดนตรวจสอบได้ แค่โอนเงินจากบัญชีเงินเดือนไปอีกบัญชีที่เป็นบัญชีฝากดอกเบี้ยสูง จาก5แสนยอดก็จะกลายเป็น1ล้านเพราะ2บัญชี เวลาจะจ่ายบัตรเครดิตแต่ละใบ ค่าบ้าน ค่ารถ ก็โอนเงินออกจากบัญชีฝากไปบัญชีที่ต้องจ่ายแต่ละบัญชี
ย้ายเงินเกี่ยวไรกับ พร้อมเพย์