ในที่สุดวันนี้ก็มาถึงซักที…จากที่ลงทะเบียนรอเล่นเกม RPG ในตำนานอย่าง Diablo Immortal ไว้เมื่อเกือบ 4 ปีที่แล้ว และเมื่อเช้านี้พอตื่นมา Google Play ก็แจ้งเตือนว่าดาวน์โหลดพร้อมติดตั้งเกมนี้ให้เรียบร้อยแล้ว (ถึงกับน้ำตาไหลรินด้วยความปลื้มปริ่มว่ารอมานานขนาดนี้เลยเหรอ T-T) และได้เปิดเกมเล่นทันทีโดยไม่สนอาบน้ำหรือกินข้าวเช้าก่อนเลย ซึ่งเกมนี้จะสนุกแค่ไหน ภาพสวยรึเปล่า แตกต่างจาก Diablo 3 มั้ย ฯลฯ หลังจากที่เราได้ลองเล่นมาซักพักแล้ว ก็ขอมาพรีวิวสั้น ๆ ให้ดูกันครับ ว่ามันคุ้มค่าที่จะโหลดมาเล่นรึเปล่า

กราฟิกจัดเต็มกินสเปคเอาเรื่อง แต่เครื่องระดับกลางก็เล่นไหว

Diablo Immortal เป็นเกมที่มีกราฟิก 3D แบบจัดเต็ม แน่นอนว่าหากปรับไปจนถึงขั้นสุด รับรองว่าเครื่องร้อนในเวลาไม่นานและซดแบตเตอรี่เป็นน้ำเลยล่ะ โดยเครื่องที่ใช้เล่นเป็นหลักคือ vivo X80 5G ที่ใช้ชิป Dimensity 9000 สามารถปรับกราฟิกขึ้นได้เกือบสุดทั้งหมด ยกเว้นตรง Resolution ที่ปรับได้ถึงแค่ High เท่านั้น (ปรับ Ultra แล้วบอกว่าเครื่องไม่รองรับ) ซึ่งปรับขึ้นมาสุดแบบนี้ พบว่ากินทรัพยากรเครื่องจนเกือบเต็มเอี้ยดเลยทีเดียว

Dimensity 9000

พอทดสอบด้วย Galaxy S22 Ultra ที่ใช้ Snapdragon 8 Gen 1 หน้าจอ 2K แล้วก็พบว่ายังไม่สามารถปรับ Resolution เป็น Ultra ได้เหมือนกัน นอกจากนี้พอปรับสเปคขั้นสุดแล้วดูจะกินทรัพยากรเครื่องมากกว่าชิป Dimensity 9000 ด้วย

Snapdragon 8 Gen 1

สำหรับมือถือสเปคกลาง ๆ อย่าง POCO M3 ที่ใช้ชิป Snapdragon 662 ก็สามารถเล่นได้นะครับ โดยระบบจะปรับกราฟิกมาให้ที่ระดับ Low และจำกัดเฟรมเรทเอาไว้ที่ 30fps ซึ่งก็สามารถเล่นได้สบายแบบไม่หงุดหงิดอะไร แต่ภาพอาจจะไม่ลื่นเพราะเฟรมเรทที่ถูกจำกัดเท่านั้น

Snapdragon 662

เกมขนาดใหญ่กว่า 10GB+

ใน Google Play Store จะระบุเอาไว้ว่า Diablo Immortal มีขนาดอยู่ที่ 1.8GB แต่พอโหลด+ติดตั้งเสร็จเข้าเกมไปแล้วจะมีการดาวน์โหลดเพิ่มเติมอีก ไม่ว่าจะเป็นพวกเสียง FX เพิ่มเติม, แผนที่ต่าง ๆ, แพ็คกราฟิกอื่น ๆ ฯลฯ รวมแล้วน่าจะประมาณ 10 – 12GB ได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าต้องดาวน์โหลดให้หมดก่อนถึงจะเล่นได้นะครับ เพราะเราสามารถเล่นไปดาวน์โหลดไปด้วยก็ได้

ตัวละคร

ถ้าหากใครที่เคยเล่นเกมซีรีส์ Diablo มาก่อนแล้ว ก็น่าจะคุ้นเคยดีกับเหล่าตัวละคร Class ต่าง ๆ กันดี ซึ่งในภาค Immortal ก็จะรวบรวมเอาตัวละครจากภาคก่อน ๆ มาไว้ให้เลือกกันเพียบ (ไม่แน่ใจว่าหลังจากนี้จะมี Class อื่นเพิ่มเติมมาอีกมั้ย) โดยคราวนี้จะพิเศษกว่าภาคอื่น ๆ เพราะนอกจากจะเลือก Class ได้แล้ว ยังสามารถเลือกเพศ และเลือกตกแต่งหน้าตาได้แบบละเอียดยิบเลย ส่วน Class ต่าง ๆ ก็มีทั้ง…

Barbarian

Class ขาประจำของเกมนี้เลย เพราะมีให้เล่นทุกภาคตั้งแต่ภาค 1 เลย สายนี้เหมาะสุด ๆ สำหรับคนชอบบู๊ดุเดือดรบระยะประชิด เอาขวานสับก่อนแล้วค่อยคุยกันทีหลัง เน้นความอึดถึกและพุ่งเข้าใส่ฝูงศัตรูแบบไม่กลัวตาย ใครมี Barbarian เลเวลสูงอยู่ในทีมจะอุ่นใจขึ้นเยอะ

Wizard

สายเวทย์โจมตีระยะไกล แม้จะบอบบางแต่โจมตีด้วยพลงเวทย์ที่รุนแรงมีทั้งโจมตีแบบเดี่ยว ๆ หรือเป็นวงกว้าง

Demon Hunter

สายโจมตีระยะไกลแบบกายภาพ ใช้อาวุธหน้าไม้อันใหญ่เน้นยิงแรงแต่ช้า หรือจะใช้หน้าไม้คู่เน้นยิงรัวแต่ไม่แรงก็ได้ นอกจากนี้ยังมีท่าวางกับดักต่าง ๆ ให้ใช้ด้วย

Monk

พระเส้าหลินโจมตีระยะใกล้แบบกายภาพ เน้นความว่องไวในการโจมตีและหลบหลีก แถมยังมีท่า Ward ช่วยเพิ่มพลังป้องกัน หรือรักษาเพื่อนในทีมได้ด้วย

Crusader

นักรบครูเสดสุดอึดที่ใช้การโจมตีระยะประชิด ผสมกันทั้งพลังเวทย์และพลังทางกายภาพ พร้อมกับออร่าต่าง ๆ เพื่อช่วยสนับสนุนเพื่อร่วมทีม

Necromancer

หมอผีที่ใช้การโจมตีระยะไกลด้วยพลังเวทย์และสามารถเรียกกองทัพโครงกระดูกกับยักษ์ Golem มาช่วยซัดกับศัตรูด้วย

รูปแบบการเล่น

รูปแบบการเล่นของ Diablo Immortal ยังคงเหมือนกับภาคที่ผ่าน ๆ มา เป็นมุมมองเยื้องจากด้านบนหน้าจอด้านซ้ายเป็นการบังคับทิศทางและด้านขวาสำหรับปล่อยท่าต่าง ๆ ซึ่งจากที่ลองเล่นแล้วก็ไม่มีอะไรให้หงุดหงิด ปล่อยท่าใช้ท่าได้สะดวกดี

จุดประสงค์ของเกมนอกจากจะต้องดำเนินไปตามเนื้องเรื่องแล้ว หลัก ๆ ก็คือการไล่ถล่มปิศาจเพื่อเก็บค่าประสบการณ์และทองมาอัปเกรดตัวละครให้เก่งขึ้นเรื่อย ๆ และไล่ฆ่าปิศาจเลเวลสูง ๆ เพื่อให้มันดรอปไอเท็มโหด ๆ มาใช้ต่อ นอกจากนี้ยังสามารถเอาอาวุธ หรือชุดเกราะต่าง ๆ มารื้อเพื่อแยกเป็นส่วนประกอบอื่น ๆ ไว้ใช้สำหรับอัปเกรดไอเทมได้อีก  และยังมีพวกไอเทมอย่างเช่น Platinum และ Eternal Orbs สำหรับใช้ในการซื้อสกินหรือไอเทมพิเศษที่ต้องใช้เงินจริงซื้อเท่านั้นด้วย

เล่น Multiplayers

หากใครต้องการเล่นกับคนอื่น ๆ ในเซิฟเวอร์จะต้องผ่าน Tutorial ด้วยการฆ่า Ifriss the Destroyer ซะก่อน ซึ่งใช้เวลาไม่นานนักประมาณ 10 – 15 นาทีก็จบแล้ว โดยตัวละครของเราจะอยู่ที่เลเวล 10 หลังจบ Tutorial ดังกล่าว และหลังจากนั้นก็จะเห็นผู้เล่นอื่น ๆ เดินกันเต็มเมืองไปหมด ทีนี้ก๋จะสามารถ Add friend เพื่อเล่นกันได้เลย

Diablo Immortal vs Diablo 3

แฟน ๆ เกม Diablo ภาคก่อน ๆ เมื่อได้เล่นแล้วก็น่าจะคุ้นเคยกันดีอยู่ แต่สิ่งที่ต่างไปเท่าที่เล่นมาซักพักก็คือเรื่องของ Skill ต่าง ๆ ที่ไม่ได้มีให้เลือกใช้มากมายเหมือนเกมต้นฉบับ โดยแต่ละ Class จะมีแค่ประมาณ 13-14 Skill เท่านั้น แต่จะได้รับการอัปเกรดให้ทรงพลังขึ้นเมื่อเรามีเลเวลที่สูงขึ้นนั่นเอง ไม่ได้มีระบบ Rune ให้พลิกแพลงท่าได้เหมือนในภาค 3

และแน่นอนว่ามันเป็นเกมแบบเล่นฟรี เพราะฉะนั้นพวก Microtransaction ที่ต้องใช้เงินจริงซื้อก็จะมีเพียบไปหมดเลย ถ้าหากใครขี้เกียจนั่งเก็บเลเวลหรือฟาร์มอาวุธนาน ๆ ก็สามารถแก้ปัญหาได้ด้วยเงินนั่นเองจ้า…

รองรับ Controller ด้วย

Diablo Immortal นอกจากจะรองรับการเล่นจากหน้าจอสัมผัสแล้ว หากใครอยากเล่นด้วยคอนโรลเลอร์เพื่อความถนัดที่มากขึ้น หรืออยากจะต่อออกจอทีวีใหญ่ ๆ ก็ทำได้เลย โดยการบังคับก็จะเหมือนกับ Diablo 2 – 3 บนเครื่องเกมคอนโซล ซึ่งเราสามารถปรับปุ่มต่าง ๆ ได้ตามใจว่าจะให้ปล่อยท่าไหนบ้าง

แต่การใช้คอนโทรลเลอร์จะมีข้อเสียกว่าการใช้หน้าจอสัมผัสก็คือ มันไม่สามารถเล็งเป้าหมายแบบเฉพาะเจาะจงได้นั่นเอง ในกรณีที่ศัตรูมาเป็นกลุ่มหากเราต้องการเลือกโจมตีศัตรูตัวไหนเป็นพิเศษ การบังคับบนหน้าจอจะสามารถเลือกจิ้มเอาได้เลย ในขณะที่คอนโทรลเลอร์จะเลือกได้แค่มิศทางที่ต้องการเท่านั้น

ถ้าใช้คอนโทรลเลอร์จะเล็งแบบนี้ไม่ได้นะ

สรุปแล้วน่าเล่นมั้ย?

ในฐานะที่เคยเล่น Diablo มาตั้งแต่ภาค 2 (ภาคแรกไม่ทัน) จนภาค 3 ทุกวันนี้ก็ยังเล่นอยู่ทั้งบน PC และ Switch ได้มาลองเล่น Diablo Immortal แล้วก็ยังได้ความรู้สึกที่คล้ายกัน และยังเล่นสนุกได้อยู่ในตอนนี้…แต่ไม่รู้ว่าพอเล่นไปเรื่อย ๆ แล้วตัวเกมจะกดดันให้เราต้องใช้เงินจริงในการอัปเกรดตัวละครมากแค่ไหน ถ้าถึงขนาดว่าเล่นฟรีแล้วฆ่าบอสไม่ได้เลย ตอนนั้นก็คงต้องขอบาย เพราะส่วนตัวไม่ชอบเสียเงินให้กับเกมแบบ Freemium เท่าไหร่…เอาเป็นว่าใครเป็นแฟน Diablo หรือพึ่งเคยเข้าวงการก็ไปดาวน์โหลดมาได้เลย อย่างน้อยก็ได้สัมผัสเกมมือถือภาพงาม ๆ กันล่ะ ถ้าเล่นไปนาน ๆ แล้วต้องเสียเงินอัปเกรดตัวละครค่อยเลิกเล่นกันก็ได้…เพราะเกมมันโหลดฟรีอยู่แล้วนี่นา

Diablo Immortal
Diablo Immortal