ตอนนี้ค่ายดังๆทั้งหลายอย่าง Samsung, HTC และ LG ก็ได้ทำการปล่อยสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงออกมากันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งใครที่เป็นติ่งของค่ายใดค่ายหนึ่งก็อาจจะตัดสินใจได้แล้วว่าจะซื้อรุ่นไหน แต่สำหรับคนที่ยังคิดไม่ออกก็ไม่เป็นไรครับ เพราะว่าวันนี้ ทางเราจะมาเปรียบเทียบสเปครุ่นท็อปของแต่ละค่ายให้ดูกันชัดๆไปเลย ว่ารุ่นไหนมีจุดเด่น จุดด้อยตรงไหนบ้าง โดยจะจับ Samsung Galaxy S6, HTC One M9+, LG G4 และ iPhone 6 มาเปรียบเทียบจุดต่อจุดกันไปเลย

เรามาดูสเปคของแต่ละรุ่นกันเลยดีกว่า ว่ารุ่นไหนมีจุดเด่น จุดด้อยอะไรบ้าง

ตารางเปรียบเทียบ Samsung Galaxy S6, HTC One M9+, LG G4 และ iPhone 6

จุดเด่น  จุดด้อย

 Samsung Galaxy S6HTC One M9+LG G4iPhone 6
ราคา23,900 บาท24,990 บาท20,990(พลาสติก) / 21,990(หนัง) บาท24,900/28,900/32,900 บาท
OSAndroid 5.0.2 (Lollipop)Android 5.0.2 (Lollipop)Android 5.1 (Lollipop)iOS 8
CPUExynos 7420 Quad-core 2.1GHz (64-bit)MediaTek MT6795T Octa-core 2.2GHz (64-bit)Qualcomm Snapdragon 808 Hexa-core 1.82GHz (64-bit)Apple A8 Dual-core 1.4GHz Cyclone
GPUMali-T760MP8PowerVR G6200Adreno 418PowerVR GX6450
หน่วยความจำRAM 3GB + ROM 32GB (ไม่รองรับ microSD)RAM 3GB + ROM 32GB + microSD สูงสุด 128GBRAM 3GB + ROM 32GB + microSD สูงสุด 128GBRAM 1GB + ROM 16/64/128 GB (ไม่รองรับ microSD)
หน้าจอSuper AMOLED 5.1 นิ้ว 1440 x 2560 พิกเซล (~577 ppi)Super LCD3 5.2 นิ้ว 1440 x 2560 พิกเซล (~565 ppi)IPS Quantum Display 5.5 นิ้ว 1440 x 2560 พิกเซล (~538 ppi)IPS LCD 4.7 นิ้ว 750 x 1334 พิกเซล (~326 ppi)
SIMNano-SIM (ซิมเดียว)Nano-SIM (ซิมเดียว)2 ซิม (Micro-SIM)Nano-SIM (ซิมเดียว)
เครือข่ายที่รองรับ2G / 3G / 4G ทุกเครือข่าย2G / 3G / 4G ทุกเครือข่าย2G / 3G / 4G ทุกเครือข่าย2G / 3G / 4G ทุกเครือข่าย
Wi-FiWi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, Wi-Fi direct, Wi-Fi hotspotWi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, Wi-Fi direct, Wi-Fi hotspot, DLNAWi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, Wi-Fi direct, Wi-Fi hotspot, DLNAWi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, Wi-Fi hotspot
การเชื่อมต่อBluetooth v4.1, A2DP, LE, apt-X // รองรับ NFC // microUSB 2.0, USB HostBluetooth v4.1, A2DP, apt-X // รองรับ NFC // microUSB 2.0, USB HostBluetooth v4.1, A2DP, LE, apt-X // รองรับ NFC // microUSB 2.0, USB HostBluetooth v4.0, A2DP, LE // รองรับ NFC(Apple Pay) // Lightning v2.0
กล้องหลัง16 ล้านพิกเซล + Autofocus + LED flashDual-camera 20 + 2.1 ล้านพิกเซล + Autofocus + Dual-LED flash16 ล้านพิกเซล + Autofocus + LED flash8 ล้านพิกเซล + Autofocus + Dual-LED flash
 บันทึกวิดีโอ 2160p@30fpsบันทึกวิดีโอ 2160p@30fpsบันทึกวิดีโอ 2160p@30fpsบันทึกวิดีโอ 1080p@30fps
กล้องหน้า5 ล้านพิกเซล, 1440p@30fps4 ล้านพิกเซล UltraPixel, 1080p@30fps8 ล้านพิกเซล, 1080p@30fps1.2 ล้านพิกเซล, 720p@30fps
เสียงลำโพงและช่องหูฟัง 3.5 มม. + ฟังวิทยุไม่ได้ลำโพงคู่หน้าและช่องหูฟัง 3.5 มม. + ฟังวิทยุได้ด้วย RDSลำโพงและช่องหูฟัง 3.5 มม. + ฟังวิทยุได้ด้วย RDSลำโพงและช่องหูฟัง 3.5 มม. + ฟังวิทยุไม่ได้
SensorsAccelerometer, Gyro, Proximity, Compass, Barometer, Heart Rate, SpO2, FingerprintAccelerometer, Gyro, Proximity, Compass, FingerprintAccelerometer, Gyro, Proximity, Compass, Barometer, Color SpectrumAccelerometer, Gyro, Proximity, Compass, Barometer, Fingerprint
GPSA-GPS, GLONASS, BeidouA-GPS, GLONASS, BeidouA-GPS, GLONASSA-GPS, GLONASS
แบตเตอรี2,550 mAh ถอดเปลี่ยนแบตไม่ได้2,840 mAh ถอดเปลี่ยนแบตไม่ได้3,000 mAh ถอดเปลี่ยนแบตได้1,810 mAh ถอดเปลี่ยนแบตไม่ได้
ขนาดและน้ำหนัก143.4 x 70.5 x 6.8 มม. 138 กรัม151 x 72 x 9.6 มม., 168 กรัม148.9 x 76.1 x 6.3-9.8 มม., 155 กรัม138.1 x 67 x 6.9 มม., 129 กรัม

จากตารางด้านบน เราจะเห็นได้ว่า ทางฝั่ง Android นั้นจะมีสเปคที่เหนือกว่าของ iPhone อยู่หลายช่วงตัวเลยทีเดียว แต่เวลาใช้งานจริงก็ถือว่า ทั้ง 4 รุ่นนั้นทำงานได้อย่างไหลลื่น ไม่ติดขัด ในส่วนวัสดุที่ใช้และรูปร่างหน้าตาก็เรียกได้ว่าเป็นตัวของตัวเอง(หรือเปล่า)กันหมด

สรุป:

  • Samsung Galaxy S6: จุดเด่นของ Galaxy S6 ก็แน่นอนว่าอยู่ที่หน้าจอ Super AMOLED 2K สุดคมบาดตา และกล้องที่สำนักรีวิวหลายๆ เจ้ายกให้เป็นหนึ่งในสุดยอดกล้องบนสมาร์ทโฟน ณ เวลานี้ แถมยังเปิดใช้งานได้รวดเร็วสมคำร่ำลือ พร้อมถ่ายภาพทันทีหลังกดปุ่ม Home 2 ครั้ง และกล้องหน้า 5 ล้านพิกเซลที่ถ่ายสวย(ซะที) มากู้หน้ากล้องหน้าสุดห่วยของ Galaxy S5 ได้แบบเหมือนมาจากคนละยี่ห้อ พร้อมทั้งยังมีฟีเจอร์อย่างการวัดการเต้นของหัวใจ และการประยุกต์ใช้ Heart rate เป็นปุ่มชัตเตอร์ แต่สิ่งที่เคยเป็นเอกลักษณ์ของ Samsung ที่ขาดหายไปก็คือ การถอดเปลี่ยนแบต และ การเพิ่ม microSD การ์ด แต่ก็มาแทนที่ดีไซน์ตัวเครื่องที่สวยหรูกับการผสมผสานของโลหะและกระจก พ่วงมาด้วยระบบชาร์จไร้สาย wireless charging และหน่วยความจำภายในชนิดใหม่ที่เร็วกว่าใครทั้งหมดในตลาดตอนนี้ แต่ก็รู้ๆกันอยู่ว่า ROM ของ Samsung นั้นค่อนข้างจะกินพื้นที่ ส่วน TouchWiz ที่เคยว่าอืดและไม่สวยคราวนี้ถูกปรับใหม่ก็ดูดีขึ้นเยอะและลื่นไหลกว่าเดิมมาก ตัวเครื่องมีขนาดที่บางเบากว่าเดิม การเปลี่ยนวัสดุจากพลาสติกมาเป็นกระจกและโลหะ ทำให้รู้สึกพรีเมี่ยมขึ้นเยอะ แต่เชื่อว่าหลายๆคนก็คงใส่เคสกันอยู่ดี 
  • HTC One M9+: ทาง HTC ก็ยังยึดความเป็นเอกลักษณ์ในเรื่องของลำโพงคู่หน้าไว้อย่างเหนียวแน่น ซึ่งถือว่าเป็นจุดขายของ HTC เวลาเล่นเกม ฟังเพลง บอกเลยว่ามันเต็มอารมณ์กว่าพวกลำโพงเดี่ยวมากๆ แต่ว่ารุ่นนี้ดันไม่เข้าตาประชาชนซักเท่าไรตรงที่มันดูไม่ต่างจาก One M8 เรือธงรุ่นก่อนหน้า แถมยังเปิดตัวมาราคาแรงใช้ได้เลยที่ 24,990 บาท ส่วนวัสดุของ One M9+ ถือว่าทำออกมาได้แข็งแรงทนทานตามาตรฐาน HTC เพิมความสวยงามในการเก็บรายละเอียดและขัดขอบให้ขึ้นเงาวาววับมากขึ้น แต่ก็ต้องแลกกับน้ำหนักที่ค่อนข้างเยอะ และการใช้ชิป MediaTek ก็อาจจะทำให้หลายคนหวั่นๆ ส่วนจุดด้อยนอกจากเรื่องของหน้าตาที่ดูเดิมๆ ไปนิดแล้วก็คงไม่พ้นเรื่องของ กล้อง ซึ่งถึงแม้ว่าทาง HTC จะเพิ่มความละเอียดเป็น 20 ล้านพิกเซล พร้อมออกแบบมาเป็น dual-camera ที่สามารถถ่ายภาพชัดลึกชัดตื้นได้ในแชะเดียว แต่ก็เหมือนจะประสบปัญหาในเรื่องของภาพถ่ายในเรื่องของสีและรายละเอียด ซึ่งผู้ทดสอบหลายๆ คนก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “กล้องมันยังไม่แจ่มพอสำหรับระดับเรือธง” แต่ในส่วนกล้องหน้า Selfie ที่ใช้ Ultrapixel ความละเอียด 4 ล้านพิกเซลมาประยุกต์ใช้นั้นภาพสว่างและใสมาก กลายเป็นกล้องหน้าดูเด่นกว่ากล้องหลังไปซะยังงั้น
  • LG G4: เป็นรุ่นเรือธงที่ถือว่าราคาน่าโดนมากๆ โดยเฉพาะฝาหลังแบบหนังที่มาในราคาแค่ 21,990 บาท เท่านั้น โดยรอบนี้ LG เน้นหนักเรื่องกล้อง อย่างกล้องหลังที่มาพร้อมกับเซนเซอร์ตัวใหม่ f/1.8 ที่รับแสงได้มากขึ้น ทำให้สามารถถ่ายรูปตอนกลางคืนได้ดีขึ้น และ Manual Mode ที่ปรับตั้งค่าได้โหดสุดๆ รวมทั้งยังมีโหมดถ่ายภาพเป็นไฟล์ RAW ได้ ซึ่งทั้งหมดนี้บวกกับการประมวลผลภาพของ LG ที่ปรับใหม่ ทำให้ภาพที่ถ่ายออกมาดูดีขึ้นมาก สีไม่ตุ่น ซูมแล้วไม่วุ้นเหมือนรุ่นก่อนๆ ส่วนกล้องหน้าก็มีความละเอียดเยอะที่สุดที่ 8 ล้านพิกเซล แต่เวลาถ่ายออกมาจริงๆ นับว่ายังสู้ Galaxy S6 และ One M9+ ไม่ได้ในเรื่องของความกว้างของภาพและความใส นอกจากนี้ยังสามารถ ถอดเปลี่ยนแบตได้ ซึ่งเรียกได้ว่าจะกลายเป็นฟีเจอร์ที่เกือบสูญพันธ์ไปแล้วในรุ่นเรือธงสมัยนี้ อีกอย่างหนึ่งคือ รองรับ 2 ซิม จุดด้อยของ G4 ก็คงเป็นรุ่นเดียวที่ไม่มีตัวสแกนลายนิ้วมือ และยังใช้วัสดุเป็นพลาสติกอยู่ ซึ่งรุ่นอาจะไม่พรีเมี่ยมเท่ารุ่นอื่นๆ แต่ฝาหลังแบบหนังก็ให้ความรู้สึกที่ดีไปอีกแบบ
  • iPhone 6: จากสเปคอย่างเดียวก็ถือว่า iPhone 6 โดนเจ้าอื่นทิ้งห่างอย่างไม่เห็นฝุ่นเลยทีเดียว ด้วย RAM แค่ 1GB ชิป Dual-core กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 1.2 ล้านพิกเซล และ หน้าจอที่มีความละเอียดน้อยกว่าเจ้าอื่น แต่ก็แน่นอนว่าเพราะมันเป็น Apple คนเลยไม่สนใจเท่าไร จุดเด่นของ iPhone ก็ยังคงเป็นในส่วนของแอปที่มีคุณภาพยังเยอะกว่าทางฝั่ง Android และอีกอย่างหนึ่งก็คือ accessories ที่มีเยอะมากๆ ส่วนสายชาร์จก็เป็น lightning port ที่สามารถใส่กลับหัวได้ แต่ใช้กับเครื่องอื่นๆไม่ได้ ต้องใช้กับอุปกรณ์ของ Apple ที่รองรับ lightning port เท่านั้น นอกจากนี้ยังใช้วัสดุที่เป็นโลหะแบบเบาและบาง และมีตัวสแกนลายนิ้วมือที่เหนือกว่า Galaxy S6 และ One M9+ นิดหน่อย ส่วนหน่วยความจำภายในเริ่มต้นที่ 16GB และไม่สามารถเพิ่มได้ด้วย microSD แถมยังมาในราคาที่แพงกว่าใครทั้งหมดแม้ในรุ่นเล็กควาจุน้อยที่สุด แต่ก็ยังมีตัวเลือกไปเป็น 64GB หรือ 128GB ได้อยู่ แต่ก็ต้องเพิ่มเงินกันไปตามระเบียบ

หากใครอยากดูข้อมูลเพิ่มเติมของสมาร์ทโฟนแต่ละรุ่นก็เข้าไปดูได้ตามลิ้งค์ด้านล่างเลยครับ

[mini-Review] Samsung Galaxy S6 ของดีที่หลายคนมองข้าม เพราะหน้าจอไม่โค้ง

Preview: พรีวิว HTC One M9+ เรือธง Special Edition จาก HTC

Unbox : แกะกล่อง LG G4

iPhone 6 : แม้ผิดหวัง แต่เราก็จะซื้อ

แล้วจะซื้อตัวไหนดี Samsung Galaxy S6, HTC One M9+, LG G4 หรือ iPhone 6?

อย่างที่บอกข้างต้นว่าการใช้งานทั่วไปของทุกตัวมันแทบไม่ต่างกัน และแต่ละตัวก็จะมีข้อดี-ข้อเสียด้วยกันทั้งหมด สเปคและราคาที่เรารวบรวมมาให้ดูง่ายๆนี้ จะเป็นส่วนหนึ่งที่ใช้ประกอบการตัดสินใจของเพื่อนๆเท่านั้น การเลือกซื้อมือถือสักเครื่อง แต่ละคนยังมีความต้องการที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรูปลักษณ์ ดีไซน์ ฟีเจอร์พิเศษ แอปที่ต้องการ หรือสีของภาพจากกล้องที่ชอบ แนะนำว่าให้ลองไปจับที่ร้านดูทั้ง 4 ตัว เข้าใจว่าร้านขายโทรศัพท์ใหญ่แทบทุกร้านจะมีตัวอย่างให้ลองจับลองเล่นกัน และสุดท้ายคุณเองจะบอกได้ว่าคุณจะหิ้วเครื่องไหนกลับบ้านครับ

ใครที่ยังตัดสินใจเลือกซื้อสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงตัวใหม่อยู่ ก็หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นนะครับ 😀

ส่วนการทดสอบแบบละเอียดๆ ลงลึกในแต่ละจุด รออีกสักพัก เดี๋ยวมีมาให้อ่านแน่นอนครับ ระหว่างนี้กลับไปดู ทดสอบเปรียบเทียบกล้อง Smartphone ตัวเทพ LG G4 vs Galaxy S6 Edge vs HTC One M9 vs iPhone 6 Plus ไปพลางๆก่อนนะครับ