ก่อนอื่นต้องบอกว่าเกมนี้เปิดตัวระยะหนึ่งแล้วครับ แต่ผมเพิ่งมีโอกาสได้เล่น เนื่องจากตัวเกมลดราคาจาก 2.99 หรือราวๆ 82 บาท เหลือเพียง 0.99 เหรียญ คิดเป็นเงินไทยราว 32 บาท เลยสอยมาลองตอนนั้น ^ ^
สิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกสนใจในเกม Framed ด้วยเหตุผลเดียวเลย คือ มันเป็นเกมที่แปลกมาก
แปลกยังไง?
ลองดูที่ภาพสิครับ จะเห็นได้ว่าตัวเกมมีภาพลักษณะเหมือนคอมมิคของฝรั่ง ตั้งแต่การเน้นแสง สี เงา ในแนวดาร์กโทนทำให้ตัวเกมแลดูมีความลึกลับ ถูกต้องเหมาะสมกับเนื้อหาของเกมที่กล่าวถึงบทบาทของการโจรกรรมข้อมูล ซึ่งจากองค์ประกอบของเกมที่มีคุณลักษณะแบบคอมมิคหน้าที่ของเราในเกม Framed นี้ ก็คือว่า เราจะต้องจัดการลำดับภาพให้ตัวละครที่เราบังคับสามารถเล็ดลอดหนีจากการตามล่าของตำรวจอย่างปลอดภัย
แน่นอนว่า ยิ่งเราเล่นเกมนี้มากด่านเข้า ตัวเกมจะทวีความยากมากขึ้น สังเกตจากด่านแรกๆ ผมแทบไม่จำเป็นต้องใช้ความคิดในการลำดับภาพอะไรมากมายนัก แต่หลังจากนั้น ระดับความยากจะสูงขึ้น ต้องใช้จินตนาการ มโนภาพในอากาศ วิเคราะห์ความน่าจะเป็นว่าควรจะลำดับภาพอย่างไร
ถ้าความทรงจำของผมไม่ผิดเพี้ยน ผมคิดว่ารูปแบบการเล่น (Game Play) ในลักษณะนี้ ยังไม่เคยมีใครทำมาก่อนในตลาดเกมบนสมาร์ทโฟน มันจึงเป็นสิ่งที่แปลกใหม่ ชวนติดตาม น่าค้นหา และต้องลองเล่นมันดูสักครั้ง
มีรางวัลการันตี?
ใช่ครับ! เกมนี้มีรางวัลการันตีเพียบ ซึ่งถือเป็นเครื่องยืนยันความสนุกได้ในระดับหนึ่ง (ผมใช้คำว่าระดับหนึ่งนะครับ เพราะถึงที่สุดแล้วการตัดสินใจขึ้นอยู่กับรสนิยมของผู้เล่น) ถ้าหากเราเข้าไปใน Description ของเกม จะมีลงเอาไว้ยาวเหยียดเลยครับว่าได้รางวัลจากสาขาไหนบ้าง เท่าที่กวาดสายตามา Framed ได้รางวัลในสาขาใหญ่ทั้งนั้นเลยครับ ตั้งแต่งานดีไซน์ยอดเยี่ยม เกมยอดเยี่ยม และเกมพัซเซิลยอดเยี่ยม
ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น แม้แต่นักพัฒนาเกมคนดังอย่างฮิเดโอะ โคจิมะ ยังหล่นวาทะทางทวิตเตอร์ด้วยว่า Framed เป็นเกมยอดเยี่ยมของปีนี้อย่างไร้ข้อกังขา ขณะเดียวกันเว็บเกมรีวิวชื่อดังอย่าง IGN และ Kotaku ต่างยกนิ้วโป้งในความยอดเยี่ยมของเกมนี้เช่นกัน
Note: ฮิเดโอะ โคจิมะ คนนี้คือตำนานแห่งวงการเกมเลยล่ะครับ ซึ่งเขาได้ฝากผลงานระดับมาสเตอร์พีซเอาไว้หลายชิ้น โดยเฉพาะซีรีส์เกม Metal Gear Solid ที่เพิ่งออกภาคใหม่ Metal Gear Solid V: The Phantom Pain ได้คะแนนรีวิวเต็มจากทั้ง Gamespot และ Metacritic
ไม่มี In-App Purchase
สิ่งที่ผมชอบอีกอย่างหนึ่งของเกมนี้นอกจากตัว Game Play และ Interface แล้ว ก็คือ ตัวเกมไม่มีระบบ In-App Purchase ที่จะช่วยเรา skip ข้ามด่าน ซึ่งตรงนี้ดีครับ ทำให้เราต้องเค้นสมองผ่านด่านแต่ละด่านด้วยตัวเอง ถ้าไม่ผ่านก็ต้องลองผิด ลองถูกไปเรื่อย ถ้ามองลึกๆ ดูแล้ว อาจถือเป็นแง่คิดที่นำไปใช้ในชีวิตจริงได้เหมือนกันครับ
อยากเล่นต้องทำยังไง?
ตอนนี้ Framed มีให้ดาวน์โหลดแล้วครับ ทั้งในระบบปฏิบัติการ iOS และ Android สนนราคา 0.99 เหรียญ ซึ่งถือว่าไม่แพงครับ 🙂
ด่านหลังๆยากมาก แต่สนุกสุดๆ ไม่เสียชื่อโคจิม่าเลย
จู่ๆ ก็มีให้หมุน Framed ด้วย ฮา
โคจิมะไม่ได้ทำนะครับ แค่ชมเฉย – -'
เจ๋งอะ แค่ดู รีวิว ก็อยากซื้อเล่นละ 555
แนวแปลกดีครับ น่าลอง
อ่านเสร็จอยากซื้อเลย แต่จะมีเวลาเล่นแค่ไหนยังไม่ได้คิด
ง่ายไปอ่ะ ด่านน้อยไป เพิ่งซื้อมา เล่นไม่เท่าไหร่ เฮ้ย จบแล้ว
นึกว่าหลัง ๆ จะค่อย ๆ ยากขึ้นกว่านี้
แต่ราคานี้ กับงานกราฟิกแบบนี้ โอเคนะ
ไหงผมเห็น 80 บาท T_T
ใช่ครับ
มะวานผมยังกดซื้อที่ 32 บาทใน Google Play อยู่เลยครับ
ขึ้นราคาแล้วเหรอมั้ง?
แต่งงว่า
ของ ios ราคา 4.99$ ขนาดของ game app อยู่ที่ 235MB
ของ android ราคา 81.1บาท ขนาดของ game app อยู่ที่ 107MB
ใครซื้อของ ios มาก่อนหน้านี่ รบกวนสอบถามว่าด้านอะไรเท่ากันไหมครับ คือแบบว่าเล่นจบแล้ว ชอบงะ อยากเล่นอีกไรเงี่ย
ผมเล่นใน cm12.1 เล่นไปจนถึงที่ไขกุญแจออกจากรถไฟ แล้วเกมมันก็ crash ไปด่านต่อไปไม่ได้ -_-
เป็นเหมือนกันเลย galaxy s5 official rom
เก๊ามาช้าไป ไม่ลดราคาแหล่ว 4.99