ตลาดเกมมือถือในปัจจุบันนั้นเติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงมูลคาที่เพิ่มขึ้นในทุกๆ ปี พร้อมกับนักพัฒนาเกมหน้าใหม่ๆ ก็เริ่มมีมากขึ้น ซึ่งเราได้เห็นเกมดีๆ มีคุณภาพ หลายเกมสนุกเล่นแล้วติดงอมแงม บางเกมก็หัวร้อนเลิกไม่ได้ ซึ่ง Google เองก็มองเห็นศักยภาพของเกมและนักพัฒนาเหล่านี้ จึงได้เปิดโครงการ Indie Game Accelerator ขึ้นมา

เราได้เห็นเกมจากค่ายพัฒนาเล็กๆ แต่โด่งดังมากมาย อย่าง Mine Craft, Flappy Bird และจริงๆ ยังมีอีกมากมาย แต่หลายๆ ครั้งค่ายเหล่านั้นกลับไม่สามารถรักษามาตรฐานได้ และกลายเป็นดังเกมเดียวหรือ One hit wonder ซึ่ง Google ไม่ต้องการแรากฏการณ์แบบนั้น จึงอยากจะเข้ามาช่วยนักพัฒนาเกมให้สามารถมีรายได้ เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง สร้างเกมดีๆ ออกมาเรื่อยๆ

Google ได้จัดส่วนของเกมอินดี้หรือ Indie Corner บน Play Store เพื่อสนับสนุนเกมดีๆ ที่น่าสนใจ ซึ่งต้องผ่านการคัดเลือกหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นเกมเพลย์ กราฟิกต่างๆ และนำมาแสดงเพื่อให้มองเห็นได้ง่ายและเปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานทั่วไปได้ลองสัมผัสเกมดีๆ เหล่านี้ได้ง่ายขึ้น

โครงการ Indie Game Accelerator นี้ถูกจัดขึ้นเป็นครั้งแรก โดยเป็นการคัดเลือกเหล่านักพัฒนาเกมจาก 30 สตูดิโอในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอินเดีย โดยผู้พัฒนานั้นจะต้องส่งตัวเกมเข้ามาให้ทาง Google คัดเลือก โดยสามารถเป็นเกมที่กำลังพัฒนาอยู่ก็ได้ (นักพัฒนาไทยที่ได้เข้าร่วมโครงการนี้ก็เป็นเกมที่กำลังพัฒนาอยู่)

หลังจากได้รับการคัดเลือกเข้ามาแล้ว ก็จะพบกับการเก็บตัวสุดโหด เรียกว่าหนักเหมือนกับเจ้านายสั่งเดดไลน์หรือลูกค้าตามงานกันเลยทีเดียว เพราะในช่วง Bootcamp ที่เก็บตัว 5 วันนั้นต้องตื่นตั้งแต่ 7 โมงเช้าเพื่อมาพูดคุยกับทีมงานของ Google และเหล่า Mentor ที่มาช่วยดูแล สำหรับเกมที่กำลังพัฒนาอยู่ก็จะโดนสั่งไล่เก็บบั๊ก

ส่วนเกมที่พัฒนามาได้สักระยะแล้วก็จะมีการทดสอบ ทดลองเล่น แนะนำเรื่อง UI UX เกมเพลย์ การมองหากลุ่มเป้าหมาย สอนการใช้งาน Tools ต่างๆ ใน Play Store ที่จะช่วยในการแก้ไขปัญหา และการทำตลาด ซึ่งหลายๆ ครั้งนักพัฒนาจะลืมคิดถึงในจุดนี้ รวมถึงวิธีการทำเงินจากเกม จะเปิดเป็น Freemium, Premium ก็ต้องดูตลาดและกลุ่มลูกค้าให้ดี ซึ่งข้อมูลเหล่านี้สามารถวิเคราะห์ได้

หลังจากจบคอร์สแรก ก็จะมีเวลาให้ไปพัฒนาเกมต่ออีก 2 เดือน เพื่อจะกลับมาเข้า Bootcamp รอบสอง เพื่อเช็ค OKR (Objectives and Key Results) หรือเป้าที่ตั้งไว้จากการเก็บตัวรอบแรกว่าทำได้สำเร็จไหม และมีอะไรให้ต้องทำต่อบ้าง

และโครงการ Indie Game Accelerator ครั้งแรกก็ได้จบลงไปเรียบร้อย โดยทั้ง 30 สตูดิโอเกมก็สามารถจบหลักสูตรเร่งรัด แต่เนื้อหาแน่นปึ้กออกมาได้เป็นที่เรียบร้อย โดยมี 3 สตูดิโอเกมจากไทยที่ได้ถูกคัดเลือกมาร่วมงานนี้ด้วย อย่าง URNIQUE ที่เคยทำเกม Timelie ได้รางวัล Imagine Cup ในปี 2016 ที่ตอนนี้มีการปรับรูปแบบและการเล่นให้เหมาะกับมือถือ Android มากขึ้น กำหนดการเปิดตัวของเกมนี้คือปี 2019

Play video

Bit Egg สตูดิโอเกมจากเชียงใหม่แน้นเแนวเกมสดใสน่ารัก กับเกมใหม่ Neko Samurai เหมียวนักดาบในสไตล์ Casual ซึ่งเห็นว่าจะมี beta เปิดให้ทดลองเล่นกันเร็วๆ นี้

Play video

EXTEND Interactive กับเกมมือถือสไตล์ board game อย่าง Pandora Hunter ที่รูปแบบจะคล้ายๆ กับ Dokapon (ใครเกิดทันบ้างเนี่ย) ซึ่งเกมนี้ก็มีกำหนดเปิดตัวในปี 2019 เช่นกัน

Play video