Financial Times ได้รายงานว่า Google ออกมาเรียกร้องกับรัฐบาลของ ปธน. โดนัลด์ ทรัมป์ เกี่ยวกับการแบน Huawei ว่าทางบริษัทเองควรจะสามารถที่จะทำธุรกิจกับ Huawei ต่อไปเพื่อที่จะคงไว้ซึ่งความปลอดภัยของความมั่นคงของประเทศสหรัฐฯ เอง ซึ่งจากแหล่งข่าวของทาง Financial Times เองก็กล่าวว่าการแบนครั้งนี้อาจทำให้ Huawei ไม่มีทางเลือก นอกจากไปสร้างระบบปฏิบัติการเป็นของตัวเองที่มีเค้าโครงมาจากตัว Android เอง และประเด็นก็คือ.. มันอาจจะไม่มีความปลอดภัยที่รัดกุมพอ และอาจจะเสี่ยงต่อการถูกแฮกได้สูง
ถึงแม้ว่า Google เองจะไม่ได้ออกมาให้เหตุผลว่าทำไม แต่ทาง Financial Times เองก็ได้ทำการคาดเดาเอาไว้สั้นๆ 4 ข้อกับสิ่งที่น่าจะเกิดขึ้นหาก Huawei สร้างระบบปฏิบัติการที่มีพื้นฐานมาจาก Android ขึ้นมาเอง
- Huawei สร้างระบบปฏิบัติการเป็นของตัวเองโดยที่ไม่มี Google Services ฟีเจอร์ที่สำคัญที่สุดในพวก Google Services เนี่ยก็คือ Google Play Protect ซึ่งเป็นซอต์ฟแวร์ที่จะคอยสแกนหามัลแวร์, ไวรัส และสิ่งต่างๆ ที่อาจจะมาส่งผลเสียให้กับโทรศัพท์อยู่ตลอดเวลา ทำให้คนที่ซื้อสมาร์ทโฟนที่มี Google Play Protect ติดมาด้วย มีความปลอดภัยมากขึ้น และหากไม่มีการตรวจสอบหรือฟีเจอร์นี้ขึ้นมา ก็จะมีความเสี่ยงในการถูกขโมยข้อมูลหรือโดนแฮกได้ง่ายกว่าเดิม
- หาก Huawei นับสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการที่ตัวเองพัฒนาขึ้น (ที่มีเค้าโครงมาจาก Android เองนะ) มาขายทั่วโลก ก็เท่ากับว่าโอกาสที่สมาร์ทโฟนของทางค่ายจะถูกแฮกก็มีเพิ่มมากขึ้น เพราะว่าอย่างที่บอกไปแล้วข้างบน ไม่มีซอตฟ์แวร์ Google Play Protect มาช่วยสแกนและกำจัดพวกมัลแวร์ต่างๆ ทำให้มีโอกาสสูงที่โทรศัพท์ Huawei ที่ว่านั้นจะมีมัลแวร์หรือไวรัสติดเครื่องมา
- บุคคลธรรมดาทั่วไปในสหรัฐฯ อาจเสี่ยงเปิดเผยความลับในบทสนทนาให้กับบุคคลที่ใช้ Huawei ที่ใช้ Android เวอร์ชั่นที่ทำขึ้นมาเอง เรียกว่ามีความเสี่ยง ต่อให้ end-to-end encryption นั้นมีความปลอดภัยมากแค่ไหน แต่ถ้าในโทรศัพท์ของคุณมีมัลแวร์แล้วล่ะก็ ข้อมูลต่างๆ ที่อยู่ในโทรศัพท์ที่ติดไวรัส แฮกเกอร์ต่างๆ ก็สามารถเข้าถึงข้อมูลเหล่านั้นได้อย่างง่ายดาย เท่านั้นยังไม่พอ เวลาคุยกับใครสักคน เราคงไม่มานั่งถามหรอกเนอะว่าอีกฝ่ายใช้โทรศัพท์อะไร
- หากข้อ 3 นั้นเกิดขึ้นจริง หากบุคคลคนนั้นกุมความลับอะไรสักอย่างของสหรัฐฯ ไว้ (อาจจะเป็นบุคคลสำคัญ) แล้วดันเผลอไปคุยเรื่องความลับระดับประเทศกับเพื่อน หรือจะใครก็ตามที่ใช้โทรศัพท์ Huawei ที่ติดมัลแวร์ เท่ากับว่าความมั่นคงของประเทศสหรัฐคือเกมทันที..
การเจรจาระหว่าง Google และรัฐบาลของสหรัฐอเมริกาน่าจะเข้มขึ้นขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งใกล้ครบกำหนด 90 วันของการผ่อนผันเมื่อไหร่ (ราวๆ เดือนสิงหาคม) เราน่าจะได้เห็นข่าวออกมารัวๆ แน่นอน
ที่มา: TheVerge
หนุกพอๆกับการเมืองไทย
ระบบแอนดรอยความเสี่ยงมันเยอะกว่าเพราะมันยอมให้ติดตั้งแอพจากข้างนอกได้โดยไม่ต้องผ่านเพลย์สโตร์ถ้าจะกันได้100%ต้องทำเหมือนค่ายแอปเปิ้ลอะหนะ
งงว่ามันจะเกี่ยวอะไรกับสหรัฐฯ ก็ในเมื่อสหรัฐฯแบน Huawei ไม่ให้ขายอุปกรณ์เกี่ยวกับมือถือและเครือข่ายมือถือทั้งหมดในอเมริกา แล้วคนอเมริกันจะใช้มือถือ Huawei ได้ไง
อ่านไม่จบ หรือ อ่านไม่เข้าใจ หรือ ไม่ได้อ่านครับ
โดยเฉพาะข้อ 4
ถ้าสมมุตินายทุ้มอยู่เมกา โทรคุยกะลุงตู๊ด เรื่องเรือดำน้ำบังคับวิทยุ ลุงตู๊ดใช้ huawei ที่อาจมี malware
นายทุ้มก็ไม่รู้ว่าลุงตู๊ดใช้หัวเหว่ย
ส่วนนายสีจันเพ็ญ ที่แอบลง malware ก็ได้ยินหมดว่าคุยไรกันบ้าง
ปล. ชื่อทั้งหมด เป็นชื่อที่สมมุติขึ้น ไม่เกี่ยวกับใครทั้งนั้น
ทำเป็นเตือนสหรัฐฯ แต่จริงๆแล้วกำลังจะบอกว่า "ถ้าพวกคุณไปใช้หัวเว่ย โทรศัพท์ของพวกคุณจะไม่ปลอดภัย" ว่างั้น
ถ้าหัวเหว่ยมันจะมีความสามารถในการสร้าง OS เองได้ กับอีแค่ตัวสแกนมัลแวร์หรือไวรัส คิดว่าเค้าจะทำไม่ได้เหรอ ??? บางทีคนของกูเกิลก็คิดเข้าข้างตัวเองเกินไปนา
ใช่ครับ แสดงให้เห็นว่า google กำลังออกอาการกลัว หัวหเหว่ย
ไม่ได้กลัวว่าจะทำไม่ได้ แต่จากข้อกล่าวหาที่มีกับ Huawei
เค้ากลัวว่าจะใส่การดักข้อมูลไว้ตั้งแต่แรกต่างหาก