เมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมาบางคนอาจจะเคยเห็นข่าวอาชญากรในประเทศจีนโดนจับกุมตัวท่ามกลางผู้คนที่เข้าร่วมชมคอนเสิร์ตกว่า 60,000 คน สิ่งที่ทำให้ข่าวนี้สนใจกันไปทั่วคือตำรวจจีนสามารถหาตัวคนร้ายเจอท่ามกลางคนจำนวนมากได้ผ่านระบบจดจำใบหน้า ซึ่งมีการเปิดเผยว่าทาง Huawei เป็นหนึ่งในบริษัทที่สร้างเทคโนโลยีนี้ขึ้นมาให้ทางรัฐบาลใช้ด้วย

มาดูตัวอย่างกันว่าหน้าจอที่ทางตำรวจเห็นนั้นเป็นประมาณไหน อย่างไรครับ โดยทาง Washington Post ได้ทำสกู๊ปเรื่องนี้เอาไว้ตั้งเแต่เมื่อเหตุการณ์จับคนร้ายในคอนเสิร์ต

จะเห็นได้ว่าเพียงแค่เราเดินทางไปตามสถานที่ต่างๆที่มีกล้องวงจรปิด (ก็แทบจะทั่วทั้งเมืองอะนะ) ทางตำรวจก็สามารถที่จะทราบได้ทันทีว่าเราเป็นใคร มีสถานะอย่างไร รถขับไปขับมาทะเบียนอะไร เหมือนกับในหนังสายลับ ที่เห็นหน่วยงานต่างๆใช้กันเลยทีเดียว

ตัวอย่างที่ทาง Washington Post เอามานำเสนอนี้ไม่ได้มีการเปิดเผยนะครับว่าเป็นของเจ้าไหนอย่างไร เพราะทางหัวเว่ยให้ข้อมูลกับเราว่าระบบตรวจจับใบหน้าที่ใช้กันอยู่ทั้งประเทศนี้ไม่ได้เป็นของทาง Huawei เจ้าเดียวนะครับ เป็นของทาง Huawei ราว 40% และที่เหลือเป็นของบริษัทอื่นๆ รวมถึงบริษัทต่างชาติอย่าง IBM ก็มีเช่นกัน

แต่เฉพาะของหัวเว่ยเองเนี่ยก็มีความล้ำอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน และไม่ได้มีเพียงแค่ระบบ Facial Recognition เท่านั้น แต่ยังสามารถเปลี่ยนให้ทั้งเมืองเป็น Smart City เลยก็ยังได้ โดยภาพด้านล่างนี้ได้มาเมื่อคราวที่ไปเยี่ยมชมสำนักงานของทาง Huawei มา มีการจัดแสดงถึงเทคโนโลยีต่างๆให้ดูกับเพียบ ซึ่งตัว Facial Recognition ก็เป็นหนึ่งในความเจ๋งที่หยิบเอามาฝากกันก่อน ยังมีอีกเพียบที่จะมาเล่าให้ฟังกันครับ รอติดตามอ่านกันได้เร็วๆนี้นะ

ตัวอย่างห้องควบคุมที่ทาง Huawei นำมาจัดแสดง ลักษณะให้อารมณ์เป็นตำรวจในหนังมากเลยล่ะ

ภาพประกอบก็มาจากที่เค้าจัดแสดงให้ดูเนี่ยแหละ ซึ่งเดโมให้เห็นว่าคนมาร่วมงานจำนวนมากแค่ไหนก็ตรวจจับได้หมดเลยนะ

นอกจากนี้ยังสามารถลงระบบ Smart City ก็ได้ด้วยเช่นกัน ตรวจสอบระบบโดยรวมของทั้งเมืองได้ทันที

เมื่อนำเอาไปต่อกับฐานข้อมูลของหน่วยงานรัฐแล้ว สามารถบอกข้อมูลของผู้คนในบริเวณนั้นๆได้อีกต่างหาก

มีทำกราฟบอกได้เลยว่าพื้นที่นั้นๆมีความปลอดภัยแค่ไหน  เรตการเกิดอาชญากรรมมีมากน้อยเท่าใด

นอกจากนี้ภายในสำนักงานใหญ่ที่เสิ่นเจิ้นก็มีการลงระบบ Facial Recognition นี้เอาไว้จนทำให้พนักงานไม่จำเป็นต้องตอกบัตรอีกต่อไป แค่เสนอหน้าผ่านประตูเข้ามาก็บันทึกได้แล้ว

ก็เรียกว่าเป็นความเทพอย่างนึงของการใช้เทคโนโลยีตรวจจับใบหน้าซึ่งต้องบอกว่ามีการพัฒนาไปไกลจริงๆ แต่อย่างไรก็ดีเทคโนโลยีนี้ยังค่อนข้างจะเป็นที่ถกเถียงกันในวงกว้างถึงการนำมาใช้งานจริง แม้ว่าจะมีประโยชน์มากในด้านการตามจับคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว แต่ในบางชาติก็มีความวิตกกังวลถึงการนำไปใช้ที่ผิด และเป็นที่มาของการละเมิดสิทธิมนุษยชนนั่นเองครับ

เห็นเทคโนโลยี Face Recognition นี้แล้ว เพื่อนๆคิดว่ายังไงกันเอ่ย ชอบใจ สยอง หรือเฉยๆ มาคุยกันได้ใน comment นะครับ 🙂