แม้ว่าปัจจุบัน HUAWEI จะยังคงทางออกให้กับธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ของตัวเองไม่ได้ หลังจากรัฐบาลสหรัฐฯ กีดกันไม่ให้ทำธุรกิจกับ TSMC ส่งผลให้พวกเขาสั่งผลิตชิป Kirin ไม่ได้ จะจ้างจีนเองอย่าง SMIC ก็ดันมาทำให้บริษัทดังกล่าวโดนหางเลขติดโทษแบนไปด้วย แต่ถึงอย่างนั้น HUAWEI ก็ไม่ยอมแพ้ ลั่นไม่มีแผนปิดตัว HiSilicon เตรียมพัฒนาชิปเซ็ตตระกูล Kirin ต่อ
HiSilicon ถือว่าได้รับผลกระทบเต็ม ๆ หลังจากเมื่อเดือนพฤษภาคม 2020 ที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ใส่ชื่อ HUAWEI และบริษัทลูกอีกหลายสิบแห่ง (หนึ่งในนั้นมีชื่อของ HiSilicon และ Honor) เข้าไปไว้ในบัญชีดำ (Entity List) ห้ามติดต่อซื้อขายกับบริษัทสัญชาติอเมริกันหรือบริษัทข้ามชาติที่ยังต้องพึ่งพาใช้งานเทคโนโลยีหรือทรัพย์สินทางปัญญาของสหรัฐฯ อยู่
ทำให้ TSMC ที่แม้ว่าจะเป็นบริษัทจากไต้หวัน ไม่สามารถทำธุรกิจชิปเซ็ตกับ HUAWEI ได้ไปโดยปริยาย เพราะเครื่องจักรผลิตชิปพวกเขายังต้องใช้งานสิทธิบัตรบางอย่างของสหรัฐฯ อยู่ ก่อนภายหลังรัฐบาลสหรัฐฯ จะยอมใจอ่อนให้กับมาดีลธุรกิจกับ HUAWEI ได้ตามเดิม แต่มีข้อจำกัด ผลิตให้แค่ชิปที่ใช้สถาปัตยกรรม 28 นาโนเมตรขึ้นไป
ซึ่งเทคโนโลยีการผลิตชิป 28 นาโนเมตร (หรือใหญ่กว่านั้น) เป็นเทคโนโลยีที่ล้าหลังมาก ๆ ในวงการสมาร์ทโฟน เพราะปัจจุบัน ยักษ์ใหญ่อย่าง Qualcomm, Samsung หรือ Apple ต่างลดไซส์ลงไปได้เหลือเพียงแค่ 5 นาโนเมตรเท่านั้น
โดย HiSilicon มีพนักงานอยู่ในบริษัทมากถึง 7,000 ชีวิต ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงมาก ๆ หากพิจารณาจากสถานการณ์ของบริษัท ณ ปัจจุบันที่รายได้หดหายไปเยอะมาก ๆ หลัง HUAWEI ไม่สามารถติดต่อให้ TSMC ผลิตชิปเซ็ต Kirin ให้กับ HiSilicon ได้ อย่างไรก็ดี Catherine Chen ผู้อำนวยการและรองประธานอาวุโสของ HUAWEI ได้ออกมาให้ความเห็นว่า HUAWEI ยังไม่มีความคิดที่จะละทิ้ง HiSilicon และพนักงานอีกกว่าหลายพันชีวิต
ผลประกอบการของ HiSilicon ในไตรมาสแรกของปี 2021 ที่ผ่านมา ทำยอดเงินไปได้ 385 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 1.2 หมื่นล้านบาท ซึ่งมองเผิน ๆ อาจจะเป็นตัวเลขที่ไม่ได้แย่อะไร แต่หากเทียบกับช่วงไตรมาสที่สองของปีที่แล้ว ซึ่งถือเป็นช่วงพีคของบริษัท จะเห็นว่ารายได้ของ HiSilicon หายไปราว ๆ 87% เลยทีเดียว
Catherine Chen เสริมว่า การที่หลายประเทศเล็งเห็นความสำคัญของตลาดเซมิคอนดักเตอร์ เตรียมสร้างโรงงานผลิตชิปเซ็ตในผืนแผ่นดินตัวเอง จัดว่าเป็นผลดีต่อตัว HiSilicon เอง เพราะ HiSilicon อาจได้พาร์ทเนอร์เจ้าที่ไม่ได้พึ่งพาเทคโนโลยีของสหรัฐฯ มาช่วยผลิตชิปเซ็ต Kirin ให้ แทนที่ TSMC โดย Chen เชื่อว่า ขั้นตอนนี้น่าจะใช้เวลากินเวลาหลายปีกว่าจะเกิดขึ้น
สำหรับสถานการณ์ของ HiSilicon ก็ไม่ได้มืดไปซะทีเดียว เพราะไม่นานมานี้ พวกเขาเพิ่งออกมาประกาศเข้าร่วมโปรเจกต์ทีวีความละเอียด 8K ไป
ที่มา: Nikkei Asia
Comment