นับตั้งแต่โดนรัฐบาลสหรัฐฯ ใส่ชื่อเข้าไปไว้ในบัญชีดำ (Entity List) ไปเมื่อช่วงเดือนพฤษภาคมของปีที่แล้ว Huawei ก็ถือว่าตกอยู่ในสถานการณ์ที่ค่อนข้างลำบากเลยทีเดียว เพราะไม่สามารถเจรจาธุรกิจค้าขายกับบริษัทสัญชาติอเมริกัน หรือเข้าถึงเทคโนโลยีของอเมริกันได้ (ซึ่งก็เกือบทั่วโลก) แต่ว่าล่าสุดมีข่าวดี TSMC ได้รับใบอนุญาต สามารถกลับมาผลิตชิปเซ็ตให้กับ Huawei ได้เหมือนเดิมแล้ว ทว่า…ครั้งนี้มีข้อจำกัดอยู่เล็กน้อย

ในช่วงแรกๆ ของการโดนใส่ชื่อเข้าไปไว้ในบัญชีดำ ทาง Huawei ยังสามารถติดต่อธุรกิจกับบริษัทอื่นๆ ที่ไม่ได้ถือสัญชาติอเมริกันได้ตามปกติ ยกตัวอย่างเช่น TSMC (ไต้หวัน), Sony (ญี่ปุ่น) หรือ Samsung (เกาหลีใต้) นะครับ ทว่า…เป็นที่ทราบกันดีกว่าหลังจากวันที่ 15 กันยายนเป็นต้นไป บริษัทไหนที่ยังต้องพึ่งพาเทคโนโลยีสิทธิบัตร หรือทรัพย์สินทางปัญญาของสหรัฐฯ อยู่ จะถูกบังคับ ห้ามไม่ให้ดีลงานกับ Huawei ไปโดยปริยาย

 

ซึ่งทั้ง TSMC, Sony หรือ Samsung ต่างเข้าข่ายตรงนี้ไปแบบเต็มๆ ทำให้หากบริษัทเหล่านี้ต้องการจะทำธุรกิจกับ Huawei ต่อ พวกเขาจะต้องขออนุญาตกับรัฐบาลสหรัฐฯ ก่อน ห้ามทำอะไรโดยพลการ

Huawei เฮ หลังรัฐบาลสหรัฐฯ อนุญาตให้ดีลงานกับ TSMC แต่มีข้อจำกัด

ล่าสุดก็มีรายงานว่า TSMC ได้รับไฟเขียวจากรัฐบาลสหรัฐฯ ให้กลับไปทำธุรกิจผลิตชิปเซ็ตให้กับ Huawei ได้เหมือนเดิมแล้ว แต่ก็มีข้อจำกัดบางอย่างก็คือ TSMC จะสามารถผลิตชิปเซ็ตให้กับ Huawei ได้ไม่ทั้งหมดเหมือนแต่ก่อน

โดยชิปเซ็ตที่ Huawei สามารถออเดอร์ให้ TSMC ผลิตนั้น จะต้องมีพื้นฐานการผลิตบนสถาปัตยกรรม 28 นาโนเมตรขึ้นไปเท่านั้น หรือเรียกง่ายๆ ว่า “Mature Technology” นั่นเอง ซึ่งเทคโนโลยีดังกล่าวนี้ สามารถนำไปใช้ผลิตชิปเซ็ตสำหรับใช้บนบางอุปกรณ์ได้

แต่ถ้ามองย้อนกลับมาในเรื่องของสมาร์ทโฟน ตรงนี้ Huawei ก็อาจจะต้องเอาขาขึ้นมาก่ายหน้าผากระหว่างที่หาทางออกกันต่อไป เพราะปัจจุบัน ชิปเซ็ตบนมือถือต่างผลิตบนสถาปัตยกรรมขนาด 14 นาโนเมตรลงไปแล้วทั้งสิ้น โดยอย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าใบอนุญาตที่ TSMC ได้รับมานั้น กลับอนุญาตให้พวกเขาผลิตชิปให้ Huawei ที่สถาปัตยกรรม 28 นาโนเมตรขึ้นไปแทน ทำให้สรุปแล้ว TSMC ก็ยังไม่สามารถผลิตชิป Kirin (ที่ใช้บนมือถือ) ให้ Huawei ได้ เพราะปัจจุบัน Kirin ต่างผลิตบนสถาปัตยกรรมขนาด 14 นาโมเมตรลงไปแล้วทั้งสิ้น

อย่างไรก็ดี TSMC ถือเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่รายที่สามที่ประสบความสำเร็จในการขอใบอนุญาตกับรัฐบาลสหรัฐฯ สามารถกลับมาทำธุรกิจกับ Huawei ได้ตามเดิม ต่อจาก AMD และ Intel นั่นเองครับ

 

ที่มา: gizchina