iFixit และ TechSearch International ที่เชี่ยวชาญด้านการงัดแงะแกะซ่อมอุปกรณ์ไอที และเซมิคอนดักเตอร์ ได้ร่วมมือกันตรวจสอบไส้ในของ HUAWEI Pura 70 Pro แล้ว พบว่าชิ้นส่วนเกือบทั้งหมดในเครื่องนั้น ‘made in China’ จีนทำจีนใช้ เป็นสัดส่วนที่สูงกว่าเดิมเมื่อเทียบกับ HUAWEI Mate 60 series เมื่อปีก่อน แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าในการลดการพึ่งพาเทคโนโลยีต่างชาติ ของทั้ง HUAWEI และจีน

iFixit พูดถึง Kirin 9010 ก่อนเป็นลำดับแรก เพราะน่าจะเป็นประเด็นที่คนส่วนใหญ่สนใจกันมากสุด โดยบอกว่า Kirin 9010 ไม่ได้ต่างจาก Kirin 9000s มากนักในภาพรวม ชิปตัวนี้ยังผลิตด้วยเทคโนโลยี N+2 ขนาด 7 นาโนเมตรของ SMIC ตามเดิม แต่ก็มีการปรับปรุงประสิทธิภาพขึ้นมาเล็กน้อย พูดง่าย ๆ ว่าเป็นไมเนอร์เชนจ์

ถัดมาคือชิป NAND หรือสตอเรจ ที่ปีที่แล้วกลายเป็นประเด็นให้โดนสหรัฐฯ เข้ามาตรวจสอบอย่างเข้มข้น เพราะ HUAWEI Mate 60 series ดันถูกตรวจเจอว่าใช้ชิปจาก SK Hynix ของเกาหลีใต้ ซึ่งไม่สามารถทำได้เนื่องจาก HUAWEI โดนคว่ำบาตรอยู่ และ SK Hynix เองก็งงว่า HUAWEI ไปหาชิ้นส่วนมาจากไหน เพราะ ณ ขณะนั้น ทั้งสองฝ่ายก็ไม่ได้มีการทำการค้าร่วมกันแล้ว

บางคนเลยเดากันไปว่า HUAWEI อาจใช้ชิ้นส่วนเดิมที่ค้างสต็อกอยู่ หรือเล่นแร่แปรธาตุด้วยวิธีอื่น ๆ เช่น ซื้อต่อมาจากบริษัทอื่นในประเทศ หรือแอบซื้อโดยใช้ชื่อบริษัทอื่นบังหน้า แต่สุดท้ายก็ไม่มีคำตอบออกมา ทางสหรัฐฯ ก็ไม่ได้แถลงการณ์อะไรเพิ่มเติมในประเด็นนี้จนถึงตอนนี้

ส่วน HUAWEI Pura 70 Pro ในปีนี้ ชิป NAND ถูกแพ็กเกจจิงโดย HiSilicon ที่เป็นบริษัทในเครือ HUAWEI เอง ไม่ใช่ชิปจาก SK Hynix แล้ว แม้ iFixit และ TechSearch International ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าตัวเวเฟอร์ที่อยู่ภายในชิปผลิตจากใคร และมาจากไหน แต่ก็คาดว่าจะเป็นบริษัทภายในประเทศ

นอกจากนี้ โมดูล Wi-Fi และ Bluetooth และชิปจัดการพลังงานก็ล้วนถูกออกแบบโดย HiSilicon ส่วนภาคแอมป์และไดรเวอร์แฟลช มาจาก Goodix และ Awinic ตามลำดับ

อย่างไรก็ดี ชิป DRAM ของ HUAWEI Pura 70 Pro ยังผลิตโดย SK Hynix อยู่ แต่ก็ถือเป็นชิ้นส่วนเพียงไม่กี่อย่างของมือถือรุ่นนี้ที่มาจากบริษัทต่างชาติ ร่วมกับเซนเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหวที่ผลิตโดย Bosch ของเยอรมนี และหัวชาร์จที่ผลิตโดย Richtek ของไต้หวัน

เฟสถัดไปที่น่าจับตามองคือ มีข่าวลือออกมาว่า SMIC อาจผลิตชิป 5 นาโนเมตรได้ภายในปีนี้ ซึ่งหากทำได้จริงจะนับเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญในวงการเซมิคอนดักเตอร์จีน แต่อย่างไรแล้วคงต้องติดตามดูกันต่อไป

ที่มา : Reuters