ไม่แน่ใจว่าการที่สหรัฐอเมริกาออกมากดดันประเทศพันธมิตรต่างๆ ว่าไม่แนะนำให้ใช้อุปกรณ์เครือข่ายจาก Huawei จะมีผลกระทบขนาดไหน และใครจะเอาด้วยบ้าง แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้ทั้งออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ได้ปฏิเสธการใช้อุปกรณ์จาก Huawei ในการติดตั้งระบบ 5G ของประเทศแล้ว
ถ้าจะว่ากันตามเนื้อผ้า การประกาศของสหรัฐอเมริกานั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจของออสเตรเลียซักเท่าไหร่นัก เพราะรัฐบาลออสเตรเลียเองนั้นได้ออกมาล้มดีลที่จะใช้อุปกรณ์ของ Huawei มาวางระบบ 5G ตั้งแต่เมื่อช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาแล้ว ซึ่งเป็นการตัดสินใจจากหน่วยความมั่นคงของประเทศ ซึ่งตอนนั้นก็ทำเอารัฐบาลจีนหัวเสียหนักมาก
ล่าสุดเครือข่ายอันดับ 1 ของนิวซีแลนด์อย่าง Spark ที่กำลังจะวางระบบ 5G นั้นได้ประกาศว่าทางบริษัทจะไม่มีการใช้อุปกรณ์ของ Huawei หลังจากได้รับคำเตือนจากรัฐบาลและหน่วยความมั่นคง
แผนการพัฒนาเครือข่าย 5G ของ Spark นั้นถูก Government Communications Security Bureau (GCSB) หน่วยงานด้านความปลอดภัยเตือนเรื่องการใช้ Huawei’s Radio Access Network (RAN) ในแผนการ ซึ่งหากมีการใช้จริงจะมีความเสี่ยงต่อความปลอดภัยและความมั่นคง จึงไม่สามารถอนุญาตให้ทางเครือข่ายพัฒนาระบบ 5G ต่อไปได้
รอบนี้รัฐบาลจีนก็แสดงความกังวลออกมา เพราะทั้งจีนและนิวซีแลนด์ก็เป็นพันธมิตรทั้งการทูตและการค้าด้วยดีตลอดมา และมองว่าควรจะให้โอกาสบริษัทจากจีนบ้าง
source : ft , straittime
แผนสกัดดาวรุ่ง
ดีแล้วติดตั้งไปจะโดนส่องเอา
แต่ยินยอมให้อเมริกาส่องโดนไม่ขัดขืนใช้มั้ย
ของเราโดนจีนยึดเรียบร้อยแล้ว ส่องได้ดังใจ ทางยุโรป กับ อเมริกา เค้ายังไม่ยอม
อเมริกาส่องไปทั่วแทรกแซงทุกอย่างกลับไม่ผิดแผนการชั่วร้ายจริงๆใครยกย่องเอาเหอะ พฤติกรรมน่ารังเกลียดสุดๆ
อุปกรณ์เครือข่ายในบ้านเรา เท่าที่ทราบใช้ของ huawei เกือบทุกเจ้า
ต้องไรดีappleหรอ ชื่อคุ้นๆนะสลับหน้าหลังอันเก่าโดนบล็อคหรอ555
พูดถึงเรื่องอะไรหรอครับ งงจัง
น่าสงสารประเทศที่กำลังพัฒนาเนอะมีประเทศมหาอำนาจใดจริงใจบ้าง
อย่าว่าแต่ประเทศเลย . . มีคนใดรอบตัวท่าน จริงใจบ้าง คนใกล้ตัวยังไม่จริงใจ ประเทศ ก็ยิ่งหาแต่อำนาจ
ถ้าไม่ใช่ก็บอกไม่ใช่ แอพบอกว่าใครเหรองงจัง
.
เอาผ้าถุงแม่ไหม จะได้สมกับความเกรียน
แล้วคิดว่า ios ,android ,factbook มันไม่ส่งข้อมูลเรากลับ usa รึ ประสาท……
มันไม่ได้เกี่ยวกับส่งกลับหรือไม่ครับ
มันเกี่ยวกับว่า ถ้ารัฐบาลจีนขอให้ Huawei เปิดช่องเพื่อให้รัฐบาลจีนเอาข้อมูลไป ทาง Huawei จะทำมั้ย
ที่สหรัฐเค้าขออความร่วมมือจากประเทศพันธมิตร เพราะจะได้ไม่โดนประเทศนอกกลุ่มมาล้วงข้อมูลไงครับ
เรื่อง HW เอาข้อมูล หรือส่งกลับจีน มันเป็นเรื่องความกลัว ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งไม่รู้ว่าวันไหน หรือจะเกิดขึ้นจริงไหม
แต่ที่แน่ๆ Facebook กรณีข้อมูลผู้ใช้รั่วไหล นั้น เกิดขึ้นแล้ว
https://thaipublica.org/2018/04/facebook-data-privacy-mark-zuckerberg-cambridge-analytica-1/
ลองนึกภาพหาก AIS(หรือ True/DTAC) ใช้อุปกรณ์เครือข่าย Huawei แล้วมีการส่งข้อมูลต่างๆไปที่จีน
1. ส่งทางไหน อากาศ/น้ำ ถ้าไม่ผ่านเครือข่ายของ AIS
2. วิศวกร AIS ไม่มีทางรู้เลยหรอว่าข้อมูลมหาศาลถูกส่งออกโดยไม่รู้ตัว(เอาง่ายๆ แค่ITของบริษัทเล็กๆ มีอะไรแปลกๆข้อมูลแปลกๆ มีรายงานหมด)
เวลาลงแอฟที่แอบส่งข้อมูลมันส่งจากคนที่ลงแอปนั้นหลายๆเครื่อง แต่เครือข่ายที่ว่ามันส่งจากOperator เจ้าที่ใช้ Huawei นะแตกต่างกัน
สมมุติว่าเรื่องการขโมยข้อมูลเป็นเรื่องจริง เค้าจับได้แค่operatorเดียวในประเทศเดียว(คิดว่าไม่ยากเกินไปที่จะตรวจสอบ) คิดว่าทั่วโลกจะมาใช้แบรนด์นี้มั้ย ความเสี่ยงล้มละลายสูงมากเลย แล้วHuaweiจะทำเพิ่อ?
คือวิธีการหลบมันหลบได้อยู่แล้วอ่ะครับ
คิดเล่นๆในฐานะคนธรรมดาก็ได้ ถ้าผมเป็นพี่จีนผมก็คงรู้ว่าข้อมูลมหาศาลจะถูกส่งไปจีน
ผมก็ส่งไปที่ไทยก่อนสิ หรือกระจายๆข้อมูลแล้วค่อยส่งกลับจีน มันไม่ยากเกินความสามารถหรอกครับ
มีเงินซะอย่างทำได้หมดแหละ วิธีการที่คุณคิดเค้าคงคิดนำหน้าคุณไปหมดแล้วล่ะครับถ้าจะทำจริงๆ
หรือไม่อาจจะยังไม่ล้วงตอนนี้ก็จริง แต่แอบใส่ช่องโหว่ไว้
แต่พอเกิดยามจำเป็น เช่นสงคราม สามารถล้วงได้หมดก็อาจเป็นได้
ก็ไม่แปลกว่าคุณ daisuki จะคิดแบบนี้เพราะคุณเป็นคนธรรมดาที่ไม่ได้รู้เรื่องเทคนิคอะไร ส่วนใหญ่ก็คือมโนไปเองว่าทำได้งั้นงี ผมก็ด้วยที่ไม่ได้มีความรู้เชิงเทคนิคอะไร แต่ว่าการจะกล่าวหาอะไรมันต้องมีหลักฐานเหมือนกรณี NSA อะ
ผมก็เห็นด้วยกับคุณ hearnfar นะ คือพอมาทำแบบนี้คนที่ไม่รู้เรื่องระบบจริงๆก็คิดกันไปไกลถึงไหนๆ บอกว่าไม่ได้ทำได้ง่ายๆ ก็คงไม่เชื่อกัน เพราะเชื่อไปแล้วว่าทำได้ ผมว่าแบบที่ บ.อเมริกาทำ ที่ให้อ่านเงื่อนไขยาวๆแล้วให้กดว่ายอมรับให้ส่งหรือไม่ส่งข้อมูล ถึงจะถามแต่เอาเข้าจริง ทุกคนได้อ่านและเข้าใจตามนั้นรึเปล่า ผมก็ยังสงสัยนะ
"…แอพต่างๆในเครื่อง ผมก็ลบทิ้งหมดนะ พวกแอพจีน…"
ใช้เครื่อง ไอฟง(เมดอินไชน่า) หรือครับ.
เคยได้อ่านบทความคลื่นโทรศัพทืมือถือมันสามารถประยุกตืใช้ในการหาตำแหน่งเครื่องิบนสเตลธ์ได้
ปัจจุบันจีนเป็นชาติมหาอำนาจทางทหารของโลก มีเทคโนโลยีสงครามอิเลคโทรนิคส์ที่ตอนนี้น่าจะแซง
รัสเซียไปแล้ว ผมเชื่อว่าข่าวนี้มีมูลครับ น่าจะมีอะไรลึกกว่าแค่เรื่องการกีดกันทางการค้าแน่นอน
เพราะเทียบมูลค่าทางเศรษฐกิจจริงๆ ไอ้อุปกรณ์พวกนี้เทียบกับการนำเข้าส่งออกสินค้าอื่นๆ
มันมีนัยสำคัญทางเศรษฐกิจน้อยมาก ถ้าจะเล่นกันเรื่องเกมทางเศรษฐกิจหันไปเล่นเรื่องสินค้าอุปโภคบริโภค
มันไม่ได้อะไรเป็นกอบเป็นกำกว่าหรือ