พลังกล้องเซลฟี่เรื่องความสวยงามหน้าเนียนเด้งนั้น OPPO จัดเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ไว้ใจได้ และตั้งแต่การนำเอา A.I. Beauty มาใช้ก่อนใครใสในรุ่น F5 มาจนเป็นเวอร์ชั่น 2.0 ในรุ่น F7 ที่เน้นความสวยงามแบบเป็นธรรมชาติ ดูเนียนตา ไม่เหลาคางจนกลายเป็นเอเลี่ยน หรือตาโตเป็นไข่ห่าน ด้วยการสแกนใบหน้าเป็นหลายๆ ส่วนแล้วเลือกปรับแต่งตามนั้น วันนี้ได้โอกาสเอา OPPO R15 Pro มาเดินงาน Mobile Expo ก็เลยขอหยิบเอาไปให้สาวๆ ในงานได้ลองกล้องกันดูบ้าง จะได้รู้ว่ารุ่นพี่มีดีเหมือนรุ่นน้องๆ หรือเปล่า
รอบนี้ขอเริ่มกันที่กล้องหลังก่อน เพราะ OPPO R15 Pro จัดกล้องหลังคู่มาให้ เพื่อการถ่ายภาพแบบ Portait หน้าชัดหลังเบลอได้เนียนตามากขึ้นค่ะ ซึ่งนอกจากชิป Snapdragon 660AIE จะมีการเสริมเอา AI มาช่วยในการปรับตั้งค่าซีนต่างๆ เวลาถ่ายภาพ
นอกจากนั้นยังช่วยในการประมวลผลภาพจากกล้องทั้ง 2 ตัวให้สามารถเบลอพื้นหลังได้เป็นธรรมชาติ ตัดขอบวัตถุได้ดีขึ้น
ในกรณีที่แสงไม่เป็นใจ หรืออยากจะปรับอารมณ์ของภาพให้เปลี่ยนไป ในโหมดถ่ายภาพบุคคลเราก็สามารถปรับแสงธรรมชาติ แสงภาพยนตร์ แสงเน้นรูปร่าง หรือแสงแบบอื่นๆ เข้ามาใช้งานได้ โดยพลังของ AI ก็จะจัดการให้มุมแสงที่ตกนั้นพอดีกับแบบ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง OPPO R15 Pro
มาต่อกันที่กล้องหน้าเลยดีกว่า เพราะ R15 Pro ก็มี A.I. Beauty มาให้ใช้งานด้วย ซึ่งเป็นโหมดถ่ายภาพที่ไม่ต้องปรับตั้งค่าอะไรอีกแล้ว ไม่ต้องมาเลื่อนปรับระดับหน้าผอม ตาโต ปากเล็ก ปากแดง ที่บางค่ายต้องให้มาจิ้มๆ เลือก 5-6 อย่าง กว่าจะได้ถ่ายก็เสียเวลาไปอีก
นอกจากนั้นยังมีเซนเซอร์ HDR ที่ช่วยควบคุมความสว่าง จะแสงน้อย หรือย้อนแสง ก็ยังเก็บรายละเอียดได้ดี
นอกจากนั้นยังมี AR Sticker หลากหลายแบบ สามารถเลือกมาใข้งานได้เลย โดยที่เรายังสามารถเปิดโหมดบิวตี้ควบคู่ไปด้วยกันได้
ซึ่งหากเรากดปุ่มชัดตเตอร์ค้างเอาไว้ ก็จะเป็นการอัดวิดีโอไปพร้อมกับสติ๊กเกอร์ดุ๊กดิ๊กๆ น่ารักๆ เอาไว้อัพขึ้นโซเชียลก็ได้
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง OPPO R15 Pro
นอกจากกล้องของ OPPO R15 Pro จะได้พลัง AI จากชิป Snapdragon 660AIE มาเสริมในการเกลี่ยผิวคนให้เนียนสวยเป็นธรรมชาติได้รวดเร็วและแม่นยำขึ้นแแล้ว ยังช่วยในเรื่องของการควบคุมประสิทธิภาพและแบตเตอรี่ในตัวเครื่องได้ดียิ่งขึ้น หากไม่มีการใช้งานหนักๆ ก็จะปรับลดความเร็วลงเพื่อถนอมแบตเตอรี่ ส่วนใครที่กลัวว่าเอาไปถ่ายรูปเยอะๆ แล้วแบตเตอรี่จะลดเร็วก็ไม่ต้องกังวล และถ้าหากวันไหนใช้งานหนักจริงๆ R15 Pro ก็ยังรองรับ VOOC Flash Charge ปรื้ดเดียวอยู๋ เสียบแค่ 15 นาที ก็ได้พลังไฟกลับมา 2500 มิลลิแอมป์แล้ว
ตอนนี้ OPPO R15 Pro นั้นเปิดให้สั่งจองได้แล้ว ตั้งแต่วันที่ 24 พ.ค. – 1 มิ.ย.ในราคา 19,990 บาทค่ะ ใครสนใจไปกันได้เลยที่ OPPO Brand Shop ทุกสาขา หรือจะจองในงาน Mobile Expo และร้านค้าที่ร่วมรายการก็ได้เหมือนกัน โดยจะได้รับ VIP card ซึ่งประกันหน้าจอแตกนาน 1 ปี + Gift Box ซึ่งเป็นสายชาร์จ VOOC พร้อมหัวชาร์จความเร็วสูงสำหรับรถรวมมูลค่ากว่า 3,000 บาท ทีสำคัญยังมีบริการ Premium Service หากเครื่องมีปัญหาที่เกิดจากการผลิต ไม่ต้องรอซ่อม เปลี่ยนเครื่องทันที (ภายใต้เงื่อนไขการประกัน)
สมัยนี้ จะมองหารูปสวยๆจากตัวจริงจากรูปถ่ายยากเหลือเกิน ปรุงแต่งด้วยโปรแกรมทั้งนั้น
iphone ครับ สดมาก
ราคานี้ p20 ดีกว่า ทุกด้าน
ดีงามจริงๆ
ถ้าวัดเฉพาะกล้องหน้าอย่างเดียว ตัว p20 สู้ได้ไหมครับ
สู้ไม่ได้ครับ กล้องหน้าตระกูล p20 ห่างไกลมาก
ทำไมแพงจังครับ สมัยก่อนผมซื้อเรือธง (Find7A) ราคา 16900 ได้ snapdragon ตัว top
แบบนี้หันไปมอง Mi mix2s หรือไม่ก็ nubia z17s ดีกว่า หรือเปล่าครับ
กล้องดูแปลกๆ ถ่ายสาวๆมา มีเส้นร่องตรงอกทุกรูป เซ็นเซอร์เสียหรือเปล่าครับ 555
ตัวทอปแต่ ทำไมใช้ชิประดับกลาง ราคาแตะสองหมื่น แล้ว