ถ้าใครที่ติดตามเครื่องเสียงหรือพอจะรู้จักสินค้าด้านนี้มาบ้างคงรู้จักชื่อ Onkyo อย่างแน่นอน เพราะเป็นเจ้าที่มีเครื่องเสียงคุณภาพและมีชื่อเสียง เมื่อต้นปีที่ผ่านมาทาง Onkyo ลงมาเล่นตลาดมือถือกับเค้าด้วย โดยเป็นมือถือที่เน้นเรื่องเสียงเพื่อการฟังเพลงโดยเฉพาะ นั่นก็คือ Onkyo GRANBEAT ตัวนี้นี่เองครับ โดยเป็นมือถือระบบ Android ที่ใส่ DAC มาแบบแพ็คคู่ เป็น Twin SABRE (ES9018C2M ) DAC ครับ และเนื่องจากผมได้ลองจับลองฟังเสียงจาก Onkyo GRANBEAT มานิดๆ หน่อยๆ จึงเอามาพรีวิว หรืออาจจะเป็นมินิรีวิว ให้อ่านกันดูครับ

ก่อนอื่นต้องบอกไว้ก่อนว่าผมเองก็ไม่ใช่คนเล่นเครื่องเสียงรู้ลึกอะไรขนาดนั้น ประมาณว่าก้าวขาเข้ามาในฝั่ง Hi-Res นิดหน่อย เท่านั้นครับ ถ้ามีตรงไหนผมอธิบายไม่ชัดเจนก็ขออภัยไว้ล่วงหน้า

 

การออกแบบและงานประกอบ

มาเริ่มกันที่หน้าตาและรูปลักษณ์ภายนอกของ Onkyo GRANBEAT กันก่อนเลยครับ ถ้ามองด้านหน้าเครืองก็จะดูเหมือนสมาร์ทโฟนธรรมดาตัวนึงที่มีไซส์ใหญ่ขึ้นแค่นั้นครับ ยกเว้นขอบซ้ายล่างจะมีตัวหนังสือยิงเลเซอร์สลักไว้ว่า High-Resolution Audio เพื่อเน้นย้ำว่ามือถือรุ่นนี้มีระบบเสียงในระดับ Hi-Res ด้านบนก็จะมีช่องลำโพงสำหรับคุยโทรศัพท์ แล้วก็มีกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซลครับ

ฝั่งซ้ายเป็นด้านล่างของเครื่อง

ความหนาของปุ่ม

ข้างขวาของเครื่องนั้นไล่จากบนลงมาก็จะมีสวิตช์ Hold สำหรับให้สับไว้ เพื่อปิดรับการสัมผัสบนหน้าจอ เอาไว้กันไปแตะโดนโดยไม่ตั้งใจได้ครับ ถัดลงมาก็คือปุ่ม Power กลมๆ และสามปุ่มล่างลงมาก็คือปุ่ม Next/Forward, Play/Stop และ Previous/Rewind ตามลำดับครับ ช่วยให้สามารถคอนโทรลการฟังเพลงได้สะดวกขึ้นอีกเยอะเลย แต่ผมรู้สึกว่าปุ่มพวกนี้ประกอบมาไม่แน่นเท่าไร ดันๆ แล้วโยกได้

ถัดลงมาอีกก็จะเป็นช่องใส่ SIM และ Micro SD Card แบบเข็มจิ้ม โดย Onkyo GRANBEAT นั้นรองรับ 2 SIM และมีช่อง Micro SD Card แยกให้ต่างหากครับ ตอบโจทย์คนโหลดเพลง Hi-Res ใส่ Micro SD Card มากๆ

พลิกกลับมาที่ด้านซ้าย ก็จะพบกับ Volume Knob ที่หมุนปรับระดับเสียง โดยจังหวะหมุนจะมีสเตปที่ค่อนข้างชัด ฟีลดีเลยทีเดียวครับ จะถือเครื่องมือซ้ายหรือมือขวาก็หมุนปรับได้ค่อนข้างพอดีมือเลยทีเดียว

ด้านบนเครื่อง จากซ้ายไปขวาก็จะมีช่องเสียบหูฟังแบบ Balanced 2.5 mm, ช่องหูฟังมาตรฐาน 3.5 mm, ไฟ LED แสดงสถานะ แล้วก็รูไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนเวลาใช้คุยโทรศัพท์

สำหรับด้านล่าง ก็จะมีลำโพงที่ดูใหญ่เอาเรื่องอยู่ทางซ้าย ตรงกลางมีช่อง Micro USB ที่นอกจากจะไว้ใช้ชาร์จ, โอนไฟล์หรือต่อ OTG แล้ว ก็ยังสามารถใช้ส่งข้อมูลเป็น USB DAC ไปยังหูฟังหรือเครื่องเสียงต่อภายนอกได้เช่นกัน ส่วนรูเล็กๆ ทางขวาก็คือไมโครโฟนสนทนาครับ

พลิกมาข้างหลังกันบ้าง ด้านหลังนั้นก็จะมีกล้องความละเอียด 13 ล้านพิกเซลอยู่ตรงกลางด้านบนครับ แล้วก็มีแฟลชแบบ Dual LED มาให้ด้วย แต่ที่ผมว่าเจ๋งสุดก็คือ Volume Knob ที่กินที่เข้ามาด้านหลัง โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เลยทีเดียว ถือแล้วเหมือนกับโชว์ว่ามือถือเครื่องนี้ออกแบบมาเพื่อการฟังเพลงโดยเฉพาะ

ด้านล่างก็มีสลักย้ำไว้ด้วยว่าใช้ twin DAC หรือ DAC คู่นั่นเอง

สำหรับของในกล่องก็จะมีตัวเครื่อง, อแดปเตอร์ Quick Charge 3.0, สาย Micro USB, เข็มจิ้มช่องใส่ซิม แล้วก็คู่มือการใช้งานครับ

 

รายละเอียดสเปค

ส่วนของสมาร์ทโฟน

  • จอ 5.0 นิ้ว IPS ความละเอียด Full-HD มาพร้อมกระจก Gorilla Glass 3
  • CPU Snapdragon 650 hexa-core
  • GPU Adreno 510
  • RAM 3GB, ROM 128GB, ใส่ Micro SD Card ได้สูงสุด 256GB
  • กล้องหลัง 16 ล้าน เซนเซอร์โซนี่ IMX298, F/2.0, มี LED Flash, รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K
  • กล้องหน้า 8 ล้าน f/2.2, ถ่ายวิดีโอได้ Full-HD
  • Dual nano SIM เกาะ 4G/3G พร้อมกันได้, แยกช่องกับ Micro SD Card (ไม่ใช่ Hybrid)
  • แบต 3,000 mAh, รองรับ Quick Charge 3.0 (อแดปเตอร์แถมมาให้เลย)
  • การเชื่อมต่อ: Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, Bluetooth 4.1, aptX-HD, Micro USB
  • สัดส่วน 142.3 x 72 x 11.9 ม.ม.
  • น้ำหนัก 234 กรัม
  • Android 6.0

 

ระบบเสียง

  • DAC: ESS SABRE ES9018C2M x 2
  • AMP: ESS 9601K x 2
  • ช่วงความถี่ที่ส่งออก 20Hz – 80kHz
  • กำลังขับ 75 mW + 75 mW (Unbalanced), 150 mW + 150 mW (Balanced)
  • Impedance สำหรับหูฟังแบบ Unbalanced 16 – 300 โอห์ม
  • Impedance สำหรับหูฟังแบบ Balanced 32 – 600 โอห์ม
  • ระดับเสียง 61 ระดับ (0 ถึง 60)
  • รูแจ็ค 2.5 ม.ม. สำหรับหูฟัง Balanced
  • รูแจ็ค 3.5 ม.ม. สำหรับหูฟังทั่วไป
  • ช่อง Micro USB รองรับ USB DAC สำหรับต่อหูฟังได้
  • ประเภทไฟล์เพลงที่รองรับ DSD/ DSF/ DSD-IFF/ MQA/ FLAC/ ALAC/ WAV/ AIFF/ Ogg-Vorbis/ MP3/ AAC
  • Sampling Rate
    • 11.2MHz/ 5.6MHz/ 2.8MHz / 1bit
    • 44.1k/ 48k/ 88.2k/ 96k/ 176.4k/ 192k/ 352.8k/ 384k
  • Bit Depth 16bit, 24bit (32 bit จะถูก)
  • ไฟล์ Playlist M3U, PLS, WPL

 

ซอฟต์แวร์

ในส่วนของซฮฟต์แวร์นั้น Onkyo GRANBEAT จะมาพร้อมกับ Android เวอร์ชัน 6.0 Marshmallow ครับ ไม่ได้มาพร้อมกับ Nougat แต่อย่างใด สำหรับแอปที่ติดตั้งมาในเครื่องก็จะมีแอปในตระกูลของ Google ทั้งหลายที่เหมือนๆ กับมือถือ Android ทั่วไปนี่แหละครับ แต่ก็จะมีแอปของทาง Onkyo ทำมาให้ คือ แอป Music สำหรับเล่นเพลงที่จัดเต็มมาก กับแอป Useful Apps ที่มีแนะนำรายการเพลงใหม่, แนะนำแอปอื่น (ส่วน Apple Music, JOOX ที่เห็นคือลงเองครับ)

 

Music App

มาดูที่ตัว Music กันดีกว่า เพราะเรียกว่าเป็นแอปที่ทำมาเป็นจุดขายคู่กับตัวฮาร์ดแวร์ด้านเสียงเลยทีเดียว เปิดแอปเข้ามาก็จะเป็นแท็บต่างๆ ที่ให้เราเลือกว่าจะเลือกไฟล์จากไหน, แบ่งตามนักร้อง, อัลบัม, เพลย์ลิสต์ หรือประเภทฟอร์แมตของเพลง ที่หน้าเล่นเพลงก็จะเลือกได้ครับว่าชอบการแสดงผลแบบไหนระหว่างปกอัลบัม เป็นพื้นหลัง แล้วมีวงกลมสำหรับบอกเวลาของเพลง และเลื่อนปรับช่วงเวลาได้ กับแบบคลาสสิคที่แสดงปกอัลบัม แล้วมีปุ่ม Play/Pause, Rewind, Forward ให้กดต่างหาก นอกจากนี้ก็ยังมีออปชันปรับ Equalizer ขวาล่าง และแสดงความละเอียดไฟล์เพลงที่ซ้ายล่างจอด้วย อ้อ แล้วด้านบนก็จะมีให้กดดูเนื้อเพลงได้ด้วยครับ โดยทางแอปจะค้นเนื้อเพลงผ่านระบบของมาแสดงให้ ซึ่งจากที่ทดสอบก็ถือว่ามีข้อมูลเนื้อเพลงเยอะพอสมควร เพลงใหม่ เพลงเก่าก็มีเยอะ

ถ้าปัดเมนูด้านขวาออกมาดูก็จะพบกับออปชันมหาศาล ที่ผมก็ไม่รู้จักอยู่หลายตัว คงต้องให้สายเครื่องเสียงทั้งหลายช่วยขยายความเพิ่มเติม ไล่จากบนลงล่างก็จะมี

  • DSP Function
  • Lock Range Adjust
  • Digital Filter
  • Upsampling Mode
  • Upsampling upper limit
  • Select playback device สำหรับเลือกอุปกรณ์ output เช่น หูฟังช่อง 3.5 ม.ม. หรือ ผ่านสาย USB
  • Settings เพื่อเข้าไปดูการปรับค่าเพิ่มเติม
  • Peeping prevention ผมไม่ชัวร์ แต่เหมือนตั้งแล้วจะปรับแสงหน้าจอทำให้มองด้านข้างยากขึ้น
  • Change playback screen mode คือปรับหน้าแสดงผลตอนเล่นเพลง
  • edit tab สำหรับเพิ่ม-ลด แท็บเลือกเพลง

พอเข้ามาที่ Settings ก็จะมีให้เลือกทั้ง

  • HD Library Sync
    • Auto sync ที่จะอัพเดตรายการเพลงในเครื่องโดยอ่านจากโฟลเดอร์ที่ตั้งค่าไว้
    • Music Folders เลือกโฟลเดอร์สำหรับให้แอปอ่านไฟล์เพลงมาแสดง
    • Sync Now
    • FAQ
  • Playback
    • Crossfade
    • DSD -> PCM Gain Setting
    • Always keep screen on
  • USB Audio
    • Enable volume control in the background
    • DSD Output Format
      • Direct transfer output frequency maximum
    • DoP Pause Operation
    • Output DSD 3/6 MHz via DoP
    • Real-time DSD Conversion
  • Others
    • Headphone Type สำหรับคนใช้หูฟัง Onkyo ก็จะมี Preset Profile ที่ปรับเสียงให้เหมาะกับหูฟังนั้นๆ ครับ

นอกจากนี้แล้วตัวเลือกการตั้งค่าระบบเสียงของตัวเครื่องเองก็จะมีให้เลือกอีก ได้แก่

  • การส่งแบบเสียงแบบ Balanced หรือ ACG
  • การส่งเสียงออกแบบ Line out mode
  • Stand-alone mode ที่ตัดการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต Wi-Fi เพื่อเน้นแต่การฟังเพลง ช่วยเรื่องแบต และ Onkyo เคลมว่าได้คุณภาพเสียงที่ดีขึ้นด้วย

ทั้ง 3 ตัวเลือกนี้นอกจากเข้าไปที่การตั้งค่าของเครื่องแล้ว สามารถเลือกปรับได้จาก Quick Settings และ Widget ได้ด้วยครับ

 

Useful Apps

อีกหนึ่งแอปแถมที่ทาง Onkyo ใส่มาให้ก็คือ Useful Apps ที่เป็นแอปแสดงรายการเพลงใหม่จากเว็บไซต์ e-onkyo เว็บขายเพลงออนไลน์ของทาง Onkyo ที่มีเพลง High-Resolution ขายอยู่ค่อนข้างเยอะครับ โดยใน Useful Apps ก็มีแสดงแบ่งหมวดหมู่เพลงต่างๆ กันออกไป พอเลื่อนลงมาอีกหน่อยก็จะมีแนะนำแอปต่างๆ โดยรวมก็จะเป็นแอปสำหรับด้านการฟังเพลงหรือควบคุมเครื่องเสียงนี่แหละครับ

 

คุณภาพเสียงเพลง

ต้องบอกล่วงหน้ากันไว้ก่อนครับว่าเนื้อหาต่อไปนี้เป็นความคิดเห็นของผมล้วนๆ ครับ เรื่องรสนิยมการฟังเพลงแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไป แต่ผมจะขอพูดตามความรู้สึกของผมจากที่ได้ลองฟังมาครับ

Onkyo GRANBEAT นั้นถือว่าให้เสียงที่ชัดเจนในทุกย่านครับ ไม่ว่าจะเป็นเบส กลาง แหลม ได้ยินชัดเจน ถือว่ามาครบมาก ส่วนของเบสนั้น เสียงกลองเคาะจังหวะจะค่อนข้างกระชับ ฟังแล้วสนุก มีอิมแพ็ค แต่ถ้าเพลงไหนเบสหนักๆ ผมแอบรู้สึกว่า GRANBEAT จะเล่นออกมาหนักหน่วงไปนิดนึง ไม่แน่ว่าขาเน้นเบสอาจจะถูกใจครับ แต่บางทีก็เยอะจนกลบเสียงร้องไปเหมือนกัน

สำหรับเสียงกลาง เสียงร้อง GRANBEAT ทำได้ดีทีเดียวครับ เสียงร้องคมชัด ใส ฟังง่าย ในเพลงที่เน้นเสียงร้องนี่ฟังแล้วเคลิ้มใช้ได้เลยครับ และเสียงโทนแหลมนั้นก็ถูกใจผมทีเดียว เพราะแหลมกำลังดี ไม่บาดหู ฟังสบาย เสียงพวกเครื่องทองเหลือง หรือเครื่องสายต่างๆ จะชัดมาก

เสียงที่ได้จาก GRANBEAT นั้นมีสเตจที่กว้างกว่ามือถือทั่วๆ ไปอย่างรู้สึกได้ ฟังแล้วโปร่งสบาย และเก็บรายละเอียดเสียงเครื่องดนตรีกับพวกเสียงเอฟเฟกต์เล็กๆ น้อยๆ ได้เยอะดีครับ ผมฟังแล้วได้ยินเสียงที่ไม่เคยได้ยินจากการฟังกับมือถือหลายเพลงเลย คนเล่นหูฟังหรือเครื่องเสียงน่าจะเคยมีประสบการณ์แบบนี้บ่อยเวลาไปลองเล่นของสเปคสูงกว่าเดิม

สำหรับความเห็นผมคือ Onkyo GRANBEAT นั้นออกแบบลักษณะของเสียงมาให้ฟังง่าย เหมาะกับเพลงหลากหลายแนว แต่ที่ผมชอบเป็นพิเศษคือเพลงแนว Pop, Acoustic, Jazz แล้วก็ Vocal ส่วนแนว Rock นั้นก็ถือว่าฟังสนุกครับ แต่ขึ้นกับเพลงด้วย แล้วก็น่าจะขึ้นกับความชอบของคนฟังด้วยครับว่าเสียงที่ Onkyo จูนมาจะถูกใจหรือเปล่า

 

น่าเสียดายที่ผมไม่มีหูฟัง Balanced มาใช้เพื่อทดสอบเปรียบเทียบเสียงระหว่างแบบ Balanced กับ ACG เลยได้เล่นฟีเจอร์ของเจ้า Onkyo GRANBEAT ไม่ครบเลยซะอย่างนั้น

อย่างไรก็ตาม ผมมองว่า Onkyo GRANBEAT น่าจะตอบโจทย์คนใช้สมาร์ทโฟนที่ไม่ได้เน้นสเปคมากและนิยมพก DAC/AMP มัดคู่กับมือถือเพื่อใช้ฟังเพลงนอกบ้าน เพราะ GRANBEAT ตัวนี้มันรวมร่างทั้งมือถือและ DAC/AMP เข้ามาเป็นไซส์กะทัดรัดกว่าเดิมให้แล้วครับ และด้วยสเปคของมันเองที่เป็น Snapdragon 650 ก็เป็นชิปที่ประสิทธิภาพไม่ขี่เหร่เลยทีเดียว  สำหรับราคาตอนนี้เช็คกับราคาญี่ปุ่นแล้วอยู่ประมาณ 2 หมื่นบาทปลายๆ ครับ (91,854 เยน) ถือว่าเป็นอีกรุ่นที่น่าสนใจสำหรับคอเพลงครับ  🙂

 

สำหรับรายละเอียด เพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวเครื่องสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของ Onkyo ได้เลยครับ