หากใครที่รู้สึกว่า OPPO A78 5G ยังไม่ตอบโจทย์ต่อการใช้งาน ทั้งในด้านจอแสดงผลที่เล็กกว่า และหน่วยความจำที่ไม่เพียงพอ แต่ยังหลงไหลในดีไซน์แบบ OPPO Glow ตอนนี้ OPPO เขาก็ได้เปิดตัวเพิ่มอีก 1 รุ่นทางเลือก ให้ได้เลือกซื้อเลือกหากันอย่าง OPPO A98 5G สมาร์ทโฟนจอใหญ่ที่มาพร้อมกับดีไซน์ซิกเนเจอร์ของปี 2023 มาพร้อมสเปคกล้อง และความจุที่เพิ่มมาอีกขั้น ในราคาที่ห่างกันไม่มาก เพียง 10,990 บาทเท่านั้น
สเปค OPPO A98 5G
- หน้าจอ LTPS LCD ขนาด 6.72 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400 x 1080) รีเฟรชเรท 120Hz
- CPU : Snapdragon 695
- RAM (LPDDR4x) : 8GB
- ความจุ (UFS 2.2) : 256GB
- กล้องหลัง 3 ตัว
– กล้องหลัก 64MP (f/1.7) + EIS
– กล้อง Mono จับความลึก 2MP (f/2.4)
– กล้อง Microscope 2MP (f/3.3), กำลังซูม 40x - กล้องหน้า : 32MP (f/2.4)
- การเชื่อมต่อ : 5G, Wi-Fi 5 (802.11ac) and 802.11a/b/g/n, BT 5.1, NFC
- ระบบเสียง: ลำโพงสเตอรีโอ, ช่องเชื่อมต่อหูฟัง 3.5 มม.
- แบตเตอรี่ : 5000 mAh รองรับชาร์จไว 67W SuperVOOC
- เซนเซอร: สแกนลายนิ้วมือข้างตัวเครื่อง, Geomagnetic induction, Slit light sensing, Slit approach, Acceleration sensor, Gyroscope
- ระบบ Android 13 ครอบด้วย ColorOS 13
- ขนาด / น้ำหนัก : 165.6 x 76.1 x 8.20 / 192 กรัม
แกะกล่อง ชมดีไซน์แบบ OPPO Glow
OPPO A98 5G มาพร้อมกล่องสีขาวอันเป็นเอกลักษณ์ของรุ่นปี 2023 ที่ด้านในยังคงบรรจุอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ไว้ให้แบบครบครับ ทั้งเคส หัวชาร์จ Super VOOC และสายชาร์จ แถมตัวเครื่องยังติดฟิลม์กันรอยหน้าจอมาให้เรียบร้อย พร้อมใช้งานทันที ไม่ต้องซื้อเพิ่ม
ในส่วนของดีไซน์ตัวเครื่อง รุ่นนี้มาพร้อมกับดีไซน์ฝาหลังแบบ OPPO Glow ที่เป็นการรวมร่างระหว่างรุ่น A78 5G และรุ่นพี่อย่าง Reno 8T 5G โดยได้จับจุดเด่นอย่างดีไซน์กล้องหลังที่ใช้โมดูลสไตล์แคปซูล มาผสมกับหน้าจอแสดงผลแบบแบน พร้อมฝาหลังวัสดุพลาสติก ที่มีลวดลายสองแบบ
มีกากเพชรระยิบระยับเล่นกับแสง ช่วงพรางลายนิ้วมือได้เป็นอย่างดี และสีที่สวยเป็นพิเศษก็หนีไม่พ้นสีฟ้า Dreamy Blue ที่เมื่อโดนแสงก็จะเปล่งประกาย Hologram สีเหลืองอมส้มออกมา รับรองว่าดีไซน์ต้องถูกใจสาว ๆ แน่นอน
ขอบตัวเครื่องในรุ่นนี้มาในสีแบบด้าน ไม่ต้องกังวัลเรื่องลายนิ้วมือติด ฝั่งซ้ายจะมีปุ่ม เพิ่ม / ลดเสียง และช่องใส่ SIM แบบ Hybid Slot จะเลือกเพิ่มเป็น microSD Card หรือใส่ซิม 2 ก็ได้ ส่วนฝั่งขวามีปุ่ม Power ที่ฝังเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้เพื่อใช้ปลดล็อกตัวเครื่อง ส่วนด้านบนตัวเครื่องมีเพียงรูไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน ส่วนด้านล่างมีทั้งช่องเชื่อมต่อหูฟัง 3.5 มม. รูไมโครโฟนสนทนาหลัก พอร์ต USB-C และลำโพงคู่สเตอริโอ
จอแสดงผลใหญ่ ลำโพงดังมากกก
OPPO A98 5G มาพร้อมจอขนาดใหญ่ 6.72 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ ที่สว่างสูงสุดถึง 680 nits รองรับรีเฟรชเรทระดับสูง 120Hz ทำให้สัมผัสได้ลื่นไหล ติดนิ้ว ส่วนสีสันต่าง ๆ ก็ถือว่าทำได้ดีในระดับมาตรฐานจอ LCD ไม่ถึงกับว่าซีด และไม่จัดจ้านจนเกินไป แต่ก็มีจุดสังเกตอยู่ที่ขอบล่างของจอแสดงผลที่ทำออกมาได้ค่อนข้างหนาไปหน่อย
สำหรับการรับชมคอนเทนต์นั้น รุ่นนี้รองรับมาตรฐาน Widevine L1 ทำให้ดู Netflix ความละเอียด HD ได้ ส่วน YouTube สามารถรับชมคอนเทนต์ได้ที่ความละเอียดสูงสุด 1080P@60FPS ไม่รองรับความละเอียดที่สูงกว่านี้นะ
ทีเด็ดของรุ่นนี้อยู่ที่ลำโพงคู่ทรงพลังที่เสียงดังสะใจ พอมีเสียงเบสเล็ก ๆ ให้ได้ฟังสนุก มาพร้อมระบบ Real Sound ที่สามารถปรับลูกเล่นเสียงให้เข้ากับคอนเทนต์ที่เรารับฟังได้โดยอัตโนมัติ ถ้าหากยังรู้สึกว่าลำโพงยังดังไม่พอ ในรุ่นนี้ยังมาพร้อมกับ Ultra Volume Mode 2.0 ที่สามารถเร่งเสียงให้ดังทะลุหลอด ดังกว่าเดิมถึง 200% ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ตัวเองอีกต่อไป
กล้องพลัง AI ถ่ายคนสวยสุด ๆ
กล้องหลัง 64MP
กล้องหลังของรุ่นนี้มาด้วยกันทั้งหมด 3 ตัว ได้แก่กล้องหลัก ความละเอียด 64MP ที่มาพร้อมกับระบบ AI ช่วยปรับคำนวน สีสันต่าง ๆ ของภาพให้ออกมาเข้ากับสภาพแวดล้อมขณะถ่ายภาพ มีกล้องรอง 2MP ที่ช่วยวัดระยะตื้นลึกขณะถ่ายภาพ และมีไฮไลต์เด็ดอย่างกล้อง Microscope ที่ถ่ายภาพระยะใกล้เหมือนกล้องจุลทรรศน์ได้ ส่วนโหมดการใช้งานก็มีมาให้แบบครบ ๆ ทั้งโหมด Pro, Ultra HD, Slowmotion, Timeslapse
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง
สำหรับคุณภาพของภาพถ่ายจากกล้องหลังนั้น สามารถเก็บสีสัน รายละเอียดต่าง ๆ ในที่สภาวะแสงปกติได้ดี แถมยังถ่ายคนออกมาได้สวยมาก ๆ และเมื่อเปิดโหมด AI ช่วยจะทำให้ภาพออกมามีสีสันที่ดูสดกว่าเดิม ทั้งนี้เมื่อเข้าไปดูภาพในแกลเลอรี่ครั้งแรกหลังถ่ายภาพด้วยกล้อง AI อาจจะต้องรอประมวลผลภาพเล็กน้อย ประมาณ 1 – 2 วินาที
ตัวอย่างภาพที่เจอ Over Exposure
และเมื่อถ่ายภาพในสภาวะแสงที่สว่างมาก ๆ จะมีบางจุดของรูปภาพ เช่นท้องฟ้า หรือแสงแดดที่กระทบบนใบไม้ต่าง ๆ จะมีแสงค่อนข้างล้น เป็นสีขาวอย่างชัดเจน (Over Exposure) ดังนั้นอาจต้องระวังเรื่องโฟกัสภาพกันดี ๆ
ตัวอย่างภาพถ่ายโหมด Protrait
ส่วนโหมด Portrait อาจจะต้องถ่ายระยะไกลจากบุคคล หรือวัตถุสักหน่อย ตัวระบบถึงจะตรวจจับเบลอหลังให้ เรื่องการเก็บขอบอาจจะมีในส่วนของผมที่เก็บล้นเข้ามาอยู่บ้าง ส่วนพวกภาพถ่ายวัตถุ ถ้ามีเส้นตัดคมชัด จะเก็บได้ค่อนข้างเนียนพอสมควร
ตัวอย่างภาพถ่ายโหมดกลางคืน
ส่วนการถ่ายภาพกลางคืน หรือสภาวะแสงน้อยก็ถือว่าใช้ได้ในระดับหนึ่ง เมื่อเปิดโหมดกลางคืนแล้ว สามารถชดเชยแสง และสีสันของวัตถุต่าง ๆ กลับมาได้พอประมาณ แต่เมื่อซูมดูแล้วรายละเอียดของภาพจะสูญเสียไปค่อนข้างเยอะ แต่น่าเสียดายที่ในการถ่ายภาพกลางคืนแต่ละครั้ง ค่อนข้างใช้เวลาเล็กน้อย เพราะนอกจากจะกล้องรอให้กล้องเปิดรูรับแสงประมาณ 3 – 5 วินาที แล้วยังต้องรอซอฟต์แวร์ประมวลผลภาพเพิ่มเติมอีกที่ราว ๆ 5 วินาที ใครที่รีบเร่งอาจไม่ทันการ
กล้อง Microscope
ไฮไลต์เด็ดของกล้องรุ่นนี้อยู่ที่กล้องจุลทรรศน์ Microscope ที่สามารถใช้ส่องวัตถุพื้นผิวระยะใกล้ต่าง ๆ ได้สูงถึง 40 เท่า ส่องใบไม้ ดอกไม้ หรือวัตถุของสิ่งของต่าง ๆ ได้ชัดจนน่าขนลุก แต่ส่วนตัวคิดว่ากล้องตัวนี้หาโอกาสใช้งานได้น้อย และค่อนข้างเฉพาะกลุ่ม เพราะต้องส่องวัตถุในระยะที่ใกล้มากถึงจะเห็นพื้นผิวชัด ๆ แถมยังถ่ายได้ค่อนข้างลำบากเพราะภาพจะค่อนข้างวิ่ง มือต้องนิ่งพอสมควร ถึงจะถ่ายได้ดี ถือเป็น 1 ในกล้องกิมมิคเล็ก ๆ ที่เหมาะกับการใช้งานเป็นครั้งคราวเสียมากกว่า
กล้องหน้า 32MP
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า
กล้องหน้าในรุ่นนี้มาในความละเอียด 32MP รองรับการถ่ายเซลฟี่ทั้งในตอนกลางวัน และตอนกลางคืน ส่วนสีสันต่าง ๆ ทำได้ในระดับมาตรฐาน เก็บรายละเอียดผิว รูขุมขนต่าง ๆ ได้คมชัดสุด ๆ แต่ความคมชัดนี้ก็แอบมีจุดสังเกตอยู่เหมือนกัน ใครที่มีปัญหาผิว รูขุมขนกว้าง กล้องหน้าแบบสด ๆ ของ OPPO เก็บให้หมด เห็นเป็น Texture ผิวชัดเจน
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า ปิด Beauty / เปิด Beauty / เปิด Beauty + Portrait Mode
แต่ก็ไม่ต้องกังวลไปเพราะโหมดบิวตี้ของ OPPO เขาขึ้นชื่อในเรื่องของความโหดอยู่แล้ว เมื่อเปิดใช้งานก็จะช่วยเก็บพวกรอยสิว จุดด่างดำต่าง ๆ บนหน้าของเรา ได้แบบเนียนกริบ เป็นธรรมชาติ ไม่เบลอฟุ้งจนเวอร์เกิน แถมยังมีโหมดปรับสัดส่วนใบหน้าต่าง ๆ ให้เราด้วย ส่วนโหมด Portrait ถึงแม้ว่าจะมีการใช้ซอฟต์แวร์ปรับช่วย แต่ก็ทำได้ดีเก็บขอบต่าง ๆ ได้ดีเยี่ยม
ตัวอย่างภาพ Night Mode กล้องหน้า ปิดไฟแฟลช / เปิดไฟแฟลช
สำหรับโหมดเซลฟี่กลางคืนนั้น สามารถเรียกแสงความสว่างกลับมาได้ในระดับหนึ่ง แต่พวกรายละเอียดต่าง ๆ หายไปค่อนข้างเยอะ และต้องเปิดแฟลชกล้องหน้าช่วยด้วยถึงจะได้ภาพที่สว่างขึ้นมาอีกสเต็ป
งานวิดีโอ
กล้องหลังของรุ่นนี้สามารถถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียด 1080p@30FPS (เป็นข้อจำกัดของตัวชิป Snapdragon 695) จากที่ได้ลองทดสอบดูต้องบอกว่า วิดีโอที่ถ่ายออกมาสีสันต่าง ๆ ถือว่าทำได้ดีใช้ได้ รายละเอียดที่ออกมาค่อนข้างคมกริบ และในรุ่นนี้มีระบบกันสั่น EIS ที่เข้ามาช่วยเรื่องการสั่นไหวเวลาเดินลงเท้าได้ในระดับหนึ่ง แต่เมื่อมีการแพนกล้องเร็ว ๆ วิดีโอที่ได้จะมีความกระตุกเป็นบางช่วง
ส่วนวิดีโอกล้องหน้าก็ถ่ายได้ที่ 1080p@30FPS เช่นกัน และงานที่ออกมาจะค่อนข้างสั่นไหวในระดับหนึ่ง แต่พวกสีผิวต่าง ๆ ถ่ายออกมาดูดีสมราคา แต่จุดสังเกตที่เจอคือเรื่องของ Overexposure เช่นกัน ถ้าอยู่ในพื้นที่ที่มีแดดจัด ๆ รายละเอียดส่วนที่โดนแสงแทบจะกลืนหาย กลายเป็นสีขาวไปเลย
ประสิทธิภาพดี เล่นเกมได้
OPPO A98 5G มาพร้อมกับชิปเซ็ตยอดฮิตอย่าง Snapdragon 695 ประกบคู่มากับ RAM LPDDR4x และ ROM UFS 2.2 ขนาดใหญ่จุใจ 8GB + 256GB ทำให้การใช้งานทั่วไปค่อนข้างคล่องตัว สามารถเปิดสลับแอปไปมาได้อย่างรวดเร็ว ใช้งานแบบแบ่งจอได้สบาย ไม่มีกระตุก ถ้าหากใช้ไม่พอก็มีฟีเจอร์ RAM Expansion เพิ่ม RAM จำลองได้สูงสุดรวมเป็น 16GB แถมยังรองรับ microSD Card ได้สูงสุด 1TB ด้วย
ส่วนการใช้งานเล่นเกม ต้องบอกว่า Snapdragon 695 เป็นชิประดับกลางที่ค่อนข้างมีอายุแล้ว (เกือบ 2 ปี) ทำให้การเล่นเกมภาพสวย ๆ อาจเป็นเรื่องที่ชวนขัดใจนิดหน่อย แต่ถ้าถามว่าเล่นได้มั้ย บอกเลยว่าเล่นได้ดีพอสมควร แต่ต้องปรับกราฟิกภาพให้เหมาะสมถึงจะเล่นได้ลื่น ๆ
ROV
เกมฮิตที่อยู่คู่คนไทยมาหลายปี อย่าง ROV บอกได้คำเดียวว่า ปรับกราฟิกสูงแค่ไหนก็เล่นสบาย เฟรมเรทนิ่ง ๆ ที่ 56 – 60 FPS แม้จะอัดหน้าจอไปด้วย เล่นไปด้วยก็ไม่ใช่ปัญหา
Genshin Impact
สำหรับเกมกินกราฟิกสุดโหดอย่าง Genshin Impact รุ่นนี้ก็สามารถเล่นได้เช่นกัน แต่ขอแนะนำให้ปรับกราฟิกไว้ที่ระดับต่ำสุด และล็อกเฟรมเรทไว้ที่ 30FPS เพราะเมื่อลงดันเจี้ยน มีการต่อสู้ปล่อยเอฟเฟกต์หนัก ๆ เฟรมเรทจะค่อนข้างเหวี่ยงพอสมควร ประมาณ 45 – 28FPS
PUBG Mobile
สำหรับ PUBG Mobile นั้น แนะนำให้ปรับกราฟิกเป็นโหมดสมดุล เพราะเป็นโหมดกราฟิกที่สามารถปรับค่าเฟรมเรทไว้ที่ระดับสูงสุดได้ โดยรุ่นนี้สามารถเล่นได้อย่างลื่นไหล เฟรมเรทไม่เหวี่ยง อยู่ที่ประมาณ 40 – 38FPS ตลอดทั้งเกม
แบตเตอรี่ อยู่ได้ยาวนานทั้งวัน
อีกหนึ่งจุดเด่นของรุ่นนี้อยู่ที่ขนาดแบตเตอรี่ที่เยอะถึง 5,000 mAh สำหรับการใช้งานทั่วไป ทดสอบใส่ซิม 5G เปิดโหมดแสงอัตโนมัติเอาไว้ พร้อมเล่นเกมฮิตอย่าง ROV PUBG และ Genshin Impact ประมาณ 3 ชั่วโมงติดกัน แบตเตอรี่เหลืออยู่ประมาณ 55%
จากนั้นก็ปล่อยสแตนด์บายจนถึงเช้า และหยิบมาฟังเพลงใน Spotify ผ่านหูฟัง Bluetooth นิดหน่อย ดู YouTube 1080p@60FPS ติดต่อกัน 2 ชั่วโมงครึ่ง พร้อมนำออกไปใช้ทดสอบกล้อง สรุปแล้วจาก 1 ทุ่ม – บ่าย 3 โมงของอีกวัน ในระยะเวลาสแตนด์บาย 20 ชั่วโมง แบตเตอรี่เหลืออยู่ที่ 15% ถ้วน ดังนั้นการใช้งานแบบเต็มวันจึงไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวลอะไรมาก
หากใช้งานหนัก ๆ แล้วแบตเตอรี่ใกล้จะหมดก็ไม่ต้องกังวล เพราะ OPPO A98 5G มาพร้อมระบบชาร์จไว SuperVOOC 67W ที่ทางแบรนด์เคลมว่าสามารถชาร์จจาก 0 – 100% ใช้เวลาเพียง 44 นาทีเท่านั้น สามารถใช้หัวชาร์จ และสายชาร์จ USB-C ที่มาพร้อมกับตัวเครื่องเพื่อชาร์จได้เลย
สรุปการใช้งาน
จุดเด่น
- ดีไซน์แบบ OPPO Glow สวยสะดุดตา พรางลายนิ้วมือได้ดี
- ได้หน้าจอแสดงผลแบบธรรมดา ไม่โค้ง (ขึ้นอยู่กับความชอบ)
- จอรีเฟรชเรท 120Hz สัมผัสลื่นไหล
- กล้องเก่งเรื่องถ่ายภาพคน
- มีระบบ AI ช่วยปรับสีภาพ ไม่ต้องแต่งต่อเอง
- โหมดบิวตี้สุดเทพ มีให้เลือกปรับหลากหลาย
- Portrait กล้องหน้าตัดขอบได้ดี
- วิดีโอกล้องหลังมีโหมดกันสั่น EIS
- ลำโพงดังสะใจ มีช่องเชื่อมต่อหูฟัง 3.5 มม.
- ความจุเยอะ ใช้งานได้ยาว ๆ
- เล่นเกมฮิตได้ครบ (ต้องปรับกราฟิกให้เหมาะสม)
- อุปกรณ์ครบกล่อง มีเคส หัวชาร์จเร็ว ไม่ต้องซื้อเพิ่ม
ข้อสังเกต
- ใช้จอ LCD ขอบจอล่างหนา (ในระดับราคานี้ หลายรุ่นได้จอ OLED แล้ว)
- จอสู้แดดจัด ๆ ไม่ค่อยไหว
- ชิปประมวลผลค่อนข้างมีอายุ ทำให้มีข้อจำกัดหลายอย่าง เช่นถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงไม่ได้ เพราะตัวชิปไม่รองรับการถอดรหัสวิดีโอ 4K และไม่รองรับ Wi-Fi 6
- ภาพถ่ายกลางคืน ใช้เวลาในการถ่าย และประมวลผลภาพค่อนข้างนาน
หากมืดมาก ๆ จะใช้เวลารับแสง 5 วินาที + ประมวลผลภาพอีก 5 วินาที รวมเป็น 10 วินาทีสำหรับ 1 รูป - ไม่มีกล้อง Ultrawide
- กล้อง Microscope หาโอกาสใช้งานได้ยาก
- ถ่ายวิดีโอสูงสุดทั้งกล้องหน้า กล้องหลังได้แค่ 1080p@30FPS
- กันสั่น EIS มีกระตุกเป็นบางช่วงหากแพนกล้องไว
OPPO A98 5G ถือเป็น 1 รุ่นที่ตอบโจทย์คนที่อยากได้มือถือดีไซน์คล้าย OPPO A78 5G แต่สเปคไม่เพียงพอ แต่จะขยับไป Reno 8T 5G ก็ไม่ชอบใช้งานมือถือจอโค้ง หรือสู้ราคาไม่ไหว เพราะในรุ่นนี้มาพร้อมฟีเจอร์หลาย ๆ อย่างที่ยกดีไซน์จากรุ่นเล็ก มารวมเข้ากับจุดเด่นจากรุ่นพี่ทั้ง กล้องหน้า 32MP, กล้อง Microscope, ระบบชาร์จไว SuperVOOC 67W และประสิทธิภาพตัวเครื่องต่าง ๆ ที่คล้ายกันมาก ในราคาที่สบายกระเป๋ากว่าถึงหลักพันเลยทีเดียว
แต่ในราคาที่เบากว่า อาจต้องแลกมากับกล้องถ่ายภาพหลักที่ลดความละเอียดลงมาพอสมควร ทำให้ Night Mode อาจจะยังเก่งไม่เท่ากล้องที่มีความละเอียดสูง ๆ อีกทั้งจอแสดงผลยังได้เป็นจอ LCD ที่สีสันอาจจะไม่สู้จอ OLED เท่าไหร่ แต่ก็ยังดีที่ได้ขนาดจอที่ใหญ่กว่า และแบตเตอรี่ที่เยอะกว่านิดหน่อย ซึ่งถือเป็นจุดที่พอทดแทนกันได้ ดังนั้นใครที่ต้องการมือถือไลฟ์สไตล์ที่ใช้งานได้แบบครบ ๆ จะเก็บ OPPO A98 5G ไว้ในใจอีก 1 รุ่นก็ไม่เสียหายนะ
ราคา และการวางจำหน่าย
OPPO A98 5G (8GB + 256GB) วางจำหน่ายในไทยตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปในราคา 10,990 บาท ตัวเครื่องมีให้เลือกทั้งหมด 2 สี ได้แก่สีดำ Cool Black และ สีฟ้า Dreamy Blue ใครสนใจสามารถหาซื้อได้แล้วที่ OPPO Brand Store ทุกสาขา รวมถึงช่องทางออนไลน์อย่าง Lazada Shopee และ ThisShop
Comment