ทีมงานได้ Samsung Galaxy A12 มาทดลองใช้งานและเขียนบทความรีวิวให้เพื่อนๆ ได้อ่านกัน เรียกว่าเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นประหยัดตัวแรกของปี 2021 จากซัมซุง ที่อัดสเปคมาครบในราคาไม่ถึง 5,000 บาท ได้หน้าจอใหญ่ กล้องหลัง 4 ตัว และใส่หน่วยความจำมาให้เยอะสุดๆ ทั้ง RAM 4GB และ ROM 128GB กันเลย ส่วนถึงเวลาเอาไปใช้งานจริงมันจะเป็นยังไง เรามาหาคำตอบกันดีกว่า

ดีไซน์ตัวเครื่อง | DESIGN & FIRST IMPRESSION

ด้วยความที่ Samsung ตั้งใจวางให้ Galaxy A12 อยู่ในเซคเม้นท์มือถือราคาประหยัด ทำให้วัสดุอุปกรณ์งานประกอบต่างๆ จะมาเป็นแบบพลาสติกทั้งหมด ซึ่งต้องบอกว่าสัมผัสจับถือทำออกมาได้ค่อนข้างดีพอสมควรเลยนะ ทุกอย่างรู้สึกแน่น จับถนัดมือ แถมไม่ลื่นมืออีกต่างหาก

จุดเด่นของ Samsung Galaxy A12 จะอยู่ที่กล้องหลัง 4 ตัว ซึ่งถือว่าไม่ค่อยเห็นกันบ่อยในสมาร์ทโฟนราคาประมาณนี้ โดยตัวโมดูลกล้องจะวางในรูปแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้า อยู่บริเวณมุมซ้ายบนของตัวเครื่อง ด้านล่างจะมีไฟแฟลช LED สำหรับถ่ายรูปตอนกลางคืน หรือใช้เป็นไฟฉายเอนกประสงค์ยามฉุกเฉิน

อีกหนึ่งจุดที่ชอบมากๆ ของ Samsung Galaxy A12 ก็คือ พอร์ตชาร์จมาเป็นแบบ USB-C แล้ว ซึ่งถือว่าประทับใจสุดๆ เพราะส่วนมากมือถือราคาประมาณนี้มักจะให้มาเป็นแบบ microUSB กันทั้งนั้น แถมรูหูฟัง 3.5 มม. ก็ยังอยู่

ในส่วนหน้าจอจะเลือกใช้เป็นแบบ Infinity-V Display ชนิดจอ TFT มีติ่งหยดน้ำเล็กๆ รูปตัว V สำหรับใส่กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซลเอาไว้ ซึ่งเอาไปใช้งานจริงๆ จะเป็นยังไง ต้องตามอ่านที่ด้านล่างน้า อันนี้ขอเน้นไปที่ตัวดีไซน์ของเครื่องก่อน

ขอบเครื่องถือว่าไม่ค่อยหนามาก เมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ ในราคาใกล้เคียงกัน แต่จะมีข้อสังเกตนิดหน่อยตรงที่ขอบล่างของ Samsung Galaxy A12 นั้นแอบใหญ่ไปนิด ซึ่งตรงนี้ไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไรต่อการใช้งาน

อ้อ อีกหนึ่งสิ่งที่สังเกตได้ก็คือ น้ำหนักของ Samsung Galaxy A12 น้ันเบามากๆ เรียกได้ว่าถือเล่นทั้งวันก็ไม่น่าจะเมื่อยมืออะ

UI และการใช้งานทั่วไป | GENERAL USE

Samsung Galaxy A12 มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ One UI Core 2.5 บนพื้นฐานของ Android 10 ซึ่งแปลว่าจุดเด่นของมือถือรุ่นนี้จะอยู่ที่การใช้งานแบตเตอรี่ เพราะ Samsung ได้เคลมว่า One UI Core นั้นจะถูกปรับแต่งมาให้เบาขึ้น กินทรัพยากรน้อยลง แต่ยังพยายามจะคงเอาฟีเจอร์ต่างๆ ของ One UI เอาไว้ให้ได้มากที่สุด

แม้ว่าจะเป็น One UI Core แต่เบื้องต้นหน้าจอ UI และประสบการณ์ใช้งาน UX ต่างๆ ของ Samsung Galaxy A12 ก็เหมือนๆ กับสมาร์ทโฟนของ Samsung ที่ใช้ One UI เวอร์ชั่นปกตินะ สามารถปรับแต่งอะไรต่างๆ ได้เหมือนกัน มีฟีเจอร์ Dark Mode, Blue Light Filter ฯลฯ ต่างๆ ครบ

แต่จะบอกว่า Samsung Galaxy A12 ใช้จอแบบ TFT LCD นะ จะเปิด Dark Mode มันก็ไม่ได้ช่วยให้ประหยัดแบตขึ้นแต่อย่างใด ดังนั้นถ้าใครจะเปิดใช้งานโหมดนี้ ก็ขอให้เปิดเพราะมันสบายตากว่านะ ไม่ต้องคาดหวังว่ามันจะกินแบตน้อยลง เอาเป็นว่าชอบแบบไหนเลือกแบบนั้นไปเลยดีกว่า

การเปิดใช้งาน 2 หน้าจอพร้อมกัน หรือจะให้แอปมันลอย Samsung Galaxy A12 ก็ทำได้เหมือนกัน โดยวิธีเปิดใช้งานก็คือเรียก Recent Apps ขึ้นมา > กดไปที่ไอคอนแอป > เลือก Open in split screen view หรือ Open in pop-up view เท่านี้ก็เรียบร้อยแล้วครับ

หน้าจอของ Samsung Galaxy A12 มาพร้อมกับความละเอียดมาให้แค่ HD+ ส่วนเรื่องของสีสันนั้นพาเนลจอแบบ TFT LCD จะจืดกว่าจอ AMOLED อยู่แล้ว แอบเสียดายที่ในการตั้งค่าไม่มีให้เลือกปรับโทนสีของจอภาพได้ ส่วนความสว่างและการใช้งานนั้นอาจจะไม่เหมาะที่จะเจอแสงแดดจ้าๆ ในเวลาเที่ยง เพราะความสว่างจากจอนั้นไม่สามารถสู้แดดแรงๆ ได้ คือต้องมีเอามือบังแดดให้หน่อย

ลำโพงของ Galaxy A12 ให้มาแค่โมโน หรือลำโพงตัวเดียว ซึ่งคุณภาพเสียงก็ตามสเปคหน้ากระดาษเลย คือไม่ได้แย่และไม่ได้ดี สามารถใช้งานได้ตามปกติ เสียงดังฟังชัด มาพร้อมรูหูฟัง 3.5 มม. ออก ใครอยากได้เสียงที่มันครบรสกว่านี้ ก็สามารถเลือกใช้งานหูฟังตัวโปรดของตัวเองได้

รวมๆ คือใช้งานทั่วไปได้ไม่มีปัญหา แต่เวลาเปิดแอปใหญ่ๆ ข้อมูลเยอะๆ ตอนเปิดอาจจะต้องรอบ้าง 2 – 3 วินาที การใช้งานทั่วไปรวมๆ  Samsung Galaxy A12 ถือว่าสอบผ่านครับ ไม่ได้หวือหวา แต่ไว้ใจได้เสมอ

แต่ถ้าหน่วยความจำขนาด 128GB ที่ Samsung Galaxy A12 มันไม่พอ เราก็สามารถใส่ microSD Card เพิ่มได้ เพราะถาดใส่ซิมที่ให้มาเป็นแบบ Triple Slot แถมยังเพิ่มได้สูงสุดถึง 1TB เลยทีเดียว

กล้องถ่ายภาพ | CAMERA

พูดถึงเรื่องกล้องกันบ้างดีกว่า โดยผมจะขอเริ่มจากกล้องหลังก่อนนะ Samsung Galaxy A12 มาพร้อมกับกล้องหลังทั้งหมด 4 ตัว ประกอบด้วย

  • เซ็นเซอร์หลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.0
  • กล้อง Ultra-Wide ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.2
  • กล้อง Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.4
  • กล้อง Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.4

จากสเปคกล้องด้านบน จะเห็นว่า Samsung Galaxy A12 นั้นใส่มาให้แบบครบๆ จัดเต็มจริงๆ ขาดไปก็แต่กล้อง Telephoto สำหรับการซูมเท่านั้น แต่ในส่วนนี้ใช้ Digital Zoom ดันเข้าไป 2x ก็ถือว่าทำออกมาใช้ได้อยู่นะ คืออาจจะไม่ได้ดีเท่า Optical Zoom แต่ก็ถือว่าเอาไปถ่าย แต่งภาพนิดๆ หน่อยๆ อัปขึ้นไอจี ลงเฟซได้

 

ส่วนโหมดการถ่ายภาพต่างๆ ก็มีแบบพื้นฐานใส่มาให้แบบครบๆ ไม่ว่าจะเป็น Live Focus (หน้าชัดหลังเบลอ), Pro, Panorama, Macro หรือ Food

นอกจากนี้ยังมีโหมด Deco Pic ที่จะใส่ฟิลเตอร์น่ารักๆ ให้หน้าตาของเรานั้นมีความแบ๊วขึ้นไปอีกหนึ่งกรุบอีกด้วย

ส่วนกล้องหลักความละเอียด 48MP อันนี้ก็ถ่ายรูปออกมาได้ตามคุณภาพเซ็นเซอร์ คือมีความละเอียดสูง เก็บรายละเอียดครบได้ดีทั้งกลางแจ้งและในร่ม แต่ในที่แสงน้อยๆ อันนี้อาจจะเจอปัญหาบ้างเล็กน้อย จะเริ่มเห็นนอยส์และวุ้นได้ถ้ามืดมากๆ

ภาพมุมกว้างที่เป็นจุดเด่นของมือถือยี่ห้อ Samsung มาโดยตลอด มาในชื่อของ Samsung Galaxy A12 ก็ไม่ได้แตกแถว เป็นแกะดำนะ ยังทำผลงานออกมาได้เป็นที่น่าพอใจเหมือนเดิม แต่แอบเสียดายที่ไม่มีซอฟต์แวร์กันภาพเบี้ยว หรือ Distortion Correction ใส่มาให้ด้วย ทำให้ภาพที่ได้ขอบมันก็จะดูเบี้ยวๆ ไปนิด

ขณะที่ Macro ของ Samsung Galaxy A12 อันนี้มือถือจะบอกชัดเจนว่ากล้องตัวนี้จะโฟกัสได้ที่ระยะ 3 – 5 ซม. ซึ่งพอไปใช้จริงๆ อันนี้โอเคเลยล่ะ

การตัดขอบวัตถุเวลาถ่ายภาพด้วยโหมด Live Focus อันนี้จะเจอปัญหาตรงที่หากอยู่ในสภาพแสงน้อยๆ การเบลอภาพจะไม่ทำงานทันที ต้องไปถ่ายในที่ๆ มีแสงเพียงพอ

กล้องหน้า | SELFIE

กล้องหน้าของ Samsung Galaxy A12 จะใส่ตัวความละเอียด 8 ล้านพิกเซลมาให้ สามารถเลือกได้ว่าจะถ่ายแบบมุมปกติ หรือมุม Wide ก็ได้ อีกทั้งยังมี Beauty Mode ถ่ายภาพได้แบบเนียนๆ ใส่มาให้ด้วย

 

แถมยังเอาไปถ่าย Live Focus ได้อีกต่างหาก ซึ่งการตัดขอบก็ถือว่าใช้ได้ เนียนพอตัวเลยล่ะ

ประสิทธิภาพความแรงของตัวเครื่อง | PERFORMANCE

เอาล่ะ มาถึงเรื่องที่ใครหลายๆ คนต่างลอยคอ… (รอคอย!!!) กันบ้าง นั่นก็คือเรื่องประสิทธิภาพชิปเซ็ตนั่นเอง ซึ่งเป็นธรรมเนียมอยู่แล้ว ว่าเราจะนำเอาเจ้า Samsung Galaxy A12 ไปทดสอบกับแอป Benchmark ต่างๆ เพื่อให้ผู้อ่านเห็นภาพได้แบบชัดเจนที่สุดไปเลยว่ามือถือรุ่นนี้อยู่ในระดับไหน ได้คะแนนเท่าไหร่

สเปค SAMSUNG GALAXY A12

  • หน้าจอ PLS LCD ขนาด 6.52 นิ้ว ความละเอียด HD+
  • CPU : MediaTek Helio G35
  • RAM : 4GB
  • ความจุ : 128GB รองรับ microSD Card สูงสุด 1TB
  • กล้องหลัง 4 ตัว
    • กล้องหลัก : ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล  (f/2.0)
    • กล้อง Ultra Wide : ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล (f/2.2)
    • กล้อง Macro : ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล (f/2.4)
    • กล้อง Depth : ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล (f/2.4)
  • กล้องหน้า : ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล (f/2.2)
  • การเชื่อมต่อ : Wifi, Bluetooth, A-GPS, USB-C
  • เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านข้างตัวเครื่อง
  • มีรูหูฟัง 3.5 มม.
  • แบตเตอรี่ : 5,000 มิลลิแอมป์ รองรับการชาร์จไว 15 วัตต์
  • ระบบปฏิบัติการ Android 10
  • ขนาดตัวเครื่อง : 164 x 75.8 x 8.9 มม.
  • สีที่วางจำหน่าย: ดำ ฟ้า

เริ่มจาก Geekbench 5 กันก่อนเลยดีกว่า โดย Samsung Galaxy A12 สามารถทำคะแนนแบบ Single-Core และ Multi-Core ไปได้ที่ 162 และ 977 แต้ม ตามลำดับ

แต่ถ้าใครยังไม่เห็นภาพ ผมก็อาสาไปลองโหลด AnTuTu Benchmark มาทดสอบให้กับผู้อ่านโดยเฉพาะเลย ซึ่งคะแนนที่ออกมาก็ตามนี้เลยครับ ถือว่า Samsung Galaxy A12 ทำคะแนนไปได้ค่อนข้างโอเคเลยทีเดียวเมื่อเทียบกับราคาค่าตัว

ขอเตือนไว้เล็กน้อยนะว่าหากไม่จำเป็น ก็ไม่ควรติดตั้งแอป AnTuTu เพราะแอปนี้โดน Google ถอดออกจาก Play Store ไปแล้ว เนื่องจากมีปัญหาด้านความปลอดภัย มีการเก็บข้อมูลและติดตามเครื่อง ซึ่งเมื่อเราทดสอบไปแล้วก็ลบทิ้งทันที

ก็ว่าหายไปไหน.. แอปทดสอบประสิทธิภาพ AnTuTu ถูกถอดจาก Play Store หลังพบเป็นแอปในเครือ Cheetah Mobile

ขณะที่การทำงานของหน่วยความจำ เมื่อเอาไปทดสอบกับแอป AndroBench ก็ได้คะแนนตามด้านล่างเลยครับ ทำผลงานออกมาได้ตามมาตรฐานของหน่วยความจำแบบ eMMC 5.1

การเล่นเกม | GAMING PERFORMANCE

ชิปเซ็ตของ Samsung Galaxy A12 จะใช้เป็นตัว Helio G35 ของ MediaTek ที่ผลิตบนสถาปัตยกรรมขนาด 12 นาโนเมตร โดยในส่วนนี้ทางค่ายได้เคลมว่าชิปตัวนี้อยู่ในเซคเม้นท์ของ “Gaming Chipset” ซึ่งพอเอาไปลองเล่นเกมยอดฮิตอย่าง RoV ก็พบว่าสามารถปรับกราฟิกได้ตามนี้ (ปรับ High Frame Rate ได้อีกต่างหาก)

ตอนแรกก็แอบกังวลนะว่าจะเอาไปเล่นเกมไหวมั้ย แต่พอเอาไป RoV ก็พบว่า เออมันเล่นได้ เฟรมเรทวิ่งสูงปกติเลย บางทีอาจจะมีแกว่งไป 40 ปลายๆ 50 ต้นๆ บ้างตอนบวกกันเยอะๆ แต่รวมๆ ถือว่าโอเค ไม่มีกระตุก

ส่วน PUBG จะปรับได้ไม่สุดเท่า ได้ตามด้านล่างเลยครับ ซึ่งพอเอาไปเล่นจริงๆ ก็เล่นลื่นๆ ไม่มีปัญหาอะไร

เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ | FINGERPRINT SCANNER

Samsung Galaxy A12 มาพร้อมกับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ฝังอยู่กับปุ่ม Power โดยตัวเซ็นเซอร์จะมีขนาดค่อนข้างเล็ก ซึ่งพอเอาไปใช้จริงๆ ก็เป็นไปตามที่กังวลในตอนแรกจริงๆ คือเซ็นเซอร์มันเล็ก เพราะฉะนั้นตอนสแกนบันทึกก็พยายามขยับนิ้วหลายๆ จุดนิดนึง เพื่อให้มันสามารถเก็บลายนิ้วมือเราได้ครบๆ

ส่วนอีกอาการที่เจอคือ ตัวเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ มันชอบลั่นไปเองเวลาเราเอาไปนิ้วไปแตะเฉยๆ แต่อันนี้แก้ได้ง่ายๆ โดยการไปปิดไม่ให้มันเปิดใช้งานตลอดเวลานั่นเอง ต่อไปนี้หากต้องการจะปลดล็อคหน้าจอ จากเดิมแค่แตะๆ อาจจะต้องออกแรงกดปุ่มพาวเวอร์ไปด้วย

ดู Netflix ได้ที่สูงสุดที่ความละเอียด SD

น่าเสียดายที่ Samsung Galaxy A12 สามารถเข้ารหัส Widevine ได้แค่ที่ L3 นั่นแปลว่าสามารถรับชมคอนเทนต์บน Netflix ได้ที่ความละเอียดที่สูงสุด Standard Definition หรือ SD ครับ

GPS

ในส่วนของเรื่องการใช้งาน GPS กับแอป Google Maps อันนี้ Samsung Galaxy A12 สามารถทำผลงานออกมาได้ไม่มีปัญหานะ แต่อาจจะมีคาดเคลื่อนบ้างนิดหน่อยประมาณ 2 – 3 เมตร ตรงนี้ถ้าไม่คุ้นชินกับทาง หรือเดินทางตอนกลางคืนอาจจะมีปัญหาได้

แบตเตอรี่ | BATTERY LIFE

เรื่องนี้รุ่นนี้บอกเลยว่ากินขาด เพราะ Galaxy A12 มาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,000 มิลลิแอมป์ อันนี้เอาไปใช้งานจริงๆ เล่นโซเชียลพบว่าก็ใช้งานได้ทะลุวันจริงๆ แถมแบตยังเหลืออีกเกือบๆ 50% ด้วย แต่ถ้าหากมีเอาไปเล่นเกมด้วยก็ต้องหักลดหย่อนกันไปว่าเล่นมากหรือน้อย

สรุป Samsung Galaxy A12 น่าใช้ไหม?

โดยรวมแล้ว Samsung Galaxy A12 กับราคา 4,999 บาท นั้นถือว่าครบเครื่องเอาการ หน้าจอใหญ่ ชิปก็ยังได้ Helio G35 กล้องหลัง 4 ตัว 48 ล้าน การใช้งานทั่วไปก็ไว้ใจได้ และแบตที่อึดจริง

  • RAM + ROM ให้มาเยอะ ใช้งานครบๆ
  • ใส่ microSD Card ได้ 1TB
  • กล้องหลังหลากหลาย
  • ปรับกราฟิก เล่นเกมได้มากกว่าที่คิด
  • แบตอึดจริง
  • พอร์ตชาร์จ USB-C

ข้อสังเกต

  • จอความละเอียด HD+
  • กล้องไม่มี Night Mode
  • ดู Netflix ได้สูงสุดแค่ SD

Play video