Samsung Galaxy M53 5G มือถือที่บอกเลยว่าครบเครื่องสุด ๆ ใช้งานได้แบบครอบคลุมทุกอย่างในปัจจุบันด้วยหน้าจอ sAMOLED ขนาดใหญ่สีสวยสด รีเฟรชเรทลื่น ๆ พร้อมสเปคแรง ๆ พร้อมสำหรับการเล่นเกมกราฟิก 3D ได้แบบไม่มีปัญหา แถมยังมีกล้องหลัง 4 ตัว ความละเอียดถึง 108MP ที่มีโหมดต่าง ๆ ให้เล่นเหมือนรุ่นเรือธง กับแบตเตอรี่อึด ๆ ถึง 5000 mAh แต่มากับดีไซน์ตัวเครื่องบางเบาพกพาง่าย…ถ้าใครอยากรู้ว่าของจริงจะน่าใช้แค่ไหน ก็มาดูรีวิวกันได้เลยจ้า

เครื่องดีไซน์บางเบา หนักไม่ถึง 200 กรัม

สิ่งแรกที่เห็นแล้วชอบเลยสำหรับมือถือรุ่นนี้ก็คือดีไซน์ตัวเครื่องที่ต้องบอกว่า บางเบา ของจริง โดยตัวเครื่องมีความบางแค่ 7.4 มม. แถมน้ำหนักยังแค่ 176 กรัมเท่านั้นเอง หากเทียบกับหน้าจอที่มีขนาดถึง 6.7 นิ้ว และแบตเตอรี่ขนาด 5000 mAh ต้องบอกเลยว่านาน ๆ จะเจอซักทีสำหรับมือถือแบตเตอรี่อึด ๆ แต่น้ำหนักไม่ถึง 200 กรัม

ตัวเครื่องด้านหลังมีโมดูลกล้องแบบสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่นูนขึ้นมาเล็กน้อย มีกล้องทั้งหมด 4 ตัว เรียงแบบสมมาตร และมีแฟลชห้อยลงมาอยู่ด้านล่างโมดูล 1 ดวง

ฝาหลังเครื่องทำจากโพลีคาร์บอเนตพื้นผิวแบบด้าน แต่ก็ยังคงมีรอยนิ้วมือให้เห็นจากการใช้งานได้อยู่ ซึ่งตรงนี้ยังไงก็คงหาเคสมาใส่กันอยู่แล้วล่ะเนอะ

หน้าจอ sAMOLED ไหลลื่น 120Hz 

หน้าจอของ Galaxy M53 ก็จัดเต็มมาให้แบบไม่กั๊กกันเลย ด้วยพาเนลแบบ sAMOLED ที่ให้สีสันสดใส สู้แสงตอนกลางวันได้สบาย มาพร้อมความคมชัดระดับ FHD+ แถมยังมีรีเฟรชเรทสูงถึง 120Hz อีกต่างหาก

โดยรีเฟรชเรทนี้เราสามารถปรับได้ 2 ระดับคือ 120Hz และ 60Hz นะครับ

จะใช้ดู Netflix ก็ดูได้แบบ HD คมจัดชัดจริง

ที่น่าเสียดายคืออุตส่าห์ใช้หน้าจอแบบ sAMOLED แล้ว แต่เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือดันไม่ได้อยู่ใต้จอ แต่มาอยู่ตรงปุ่ม Power ซะนี่

สเปคแรงเล่นเกมสบาย

Galaxy M53 มีสเปคที่สามารถใช้งานในปัจจุบันได้แบบลื่น ๆ ทุกอย่าง ด้วยชิป Dimensity 900 และ RAM ขนาด 8GB และยังมากับเทคโนโลยี RAM Plus ไปยืมความจุในตัวเครื่องมาเติมให้ RAM ได้สูงสุด 8GB รวมเป็น 16GB เพิ่มประสิทธิภาพโดยรวมให้ลื่นปรื๊ดกว่าเดิม (จะเปลี่ยนขนาด RAM Plus แต่ละทีต้อง Restart เครื่องนะครับ)

ทดสอบด้วยการเล่นเกมฮิตกราฟิก 3D โหด ๆ อย่างเช่น Genshin Impact ตั้งค่า Default (Low) ก็สามารถเล่นได้ลื่น ๆ เลย…อาจมีสะอึกบ้างนาน ๆ ครั้งเวลาที่มีการเคลื่อนไหวบนหน้าจอเยอะ ๆ ส่วนการตั้งค่าแนะนำว่าเอาเท่าที่ระบบจัดมาให้ก็พอนะครับ เพราะว่าพอลองปรับขึ้นไปสูงอีกหน่อยแล้วพบอาการกระตุกเป็นระยะ

Genshin Impact ตั้งค่า Default เล่นสบายแฮ

Apex Legend ตั้งค่า Default ก็สามารถเล่นได้สบาย ๆ แบบไม่มีอาการกระตุกให้เห็นเลย ส่วน PUBG New State ก็ไม่มีปัญหาใด ๆ เล่นได้ไม่มีปัญหาแม้เจอศัตรูหลายตัวครับ นอกจากนี้ยังไม่เจอพวกอาการทัชหลอนทัชเพี้ยนอะไรด้วยนะ หันเป็นหัน ยิงเป็นยิง

Apex Legend ก็ลื่นปรื๊ด ๆ

กล้องหลัง 108MP พร้อมฟีเจอร์จากรุ่นพี่เรือธง

Galaxy M53 จัดกล้องหลังมาให้ถึง 4 ตัว ประกอบด้วยกล้องหลักความละเอียดสูงถึง 108MP + กล้อง Ultrawide 8MP + กล้อง Macro 2MP + กล้องจับความลึก 2MP และกล้องหน้าให้มาถึง 32MP โดยประสิทธิภาพในการถ่ายรูปต่าง ๆ ก็ลองดูได้จากตัวอย่างด้านล่างนี้ครับ

โหมดถ่ายวิดีโอบันทึกได้สูงสุดที่ระดับ FHD 60fps และ 4K 30fps ส่วนระบบกันสั่น Super Steady จะได้ใช้เฉพาะความละเอียด FHD 30fps เท่านั้นนะครับ

Play video

FHD Steady

 

Play video

FHD 60fps

 

Play video

4K 30fps

Single take

โหมด Single take เป็นโหมดสนุก ๆ ที่จะให้เราถือกล้องถ่ายอะไรก็ได้เป็นเวลา 10 วินาที และหลังจากนั้นจะใช้ระบบ AI เพื่อคัดเอาส่วนที่น่าสนใจมาทำเป็นภาพนิ่ง และคลิปวิดีโอสั้น ๆ แบบ Boomerang หรือ fast forward ให้ดูกันสนุก ๆ

เลือกได้ว่าภายในเวลา 10 วินาที ต้องการเก็บภาพ+วิดีโอแบบไหนบ้าง

Object Eraser ลบวัตถุที่ไม่ต้องการในภาพ

Galaxy M53 ยังมากับฟีเจอร์เจ๋ง ๆ อย่าง Object eraser ให้เราสามารถลบวัตถุที่ไม่ต้องการออกจากภาพได้ง่าย ๆ ด้วย

เลือก Object eraser แล้วไฮไลท์วัตถุที่ต้องการลบออก

แต่แนะนำว่าถ้าจะให้เนียน พื้นหลังควรเป็นสี + ฉากเรียบ ๆ นะครับ ถ้าเกิดพื้นหลังมีลวดลาย หรือมีวัตถุอื่น ๆ รวมอยู่ด้วย แม้ว่าจะลบวัตถุที่ต้องการออกไปแล้ว แต่มันจะไม่ค่อยเนียนซักเท่าไหร่

ลบรถคันสีขาวออกไปแล้ว…เนียนอยู่นะ

แบตเตอรี่อึด ชาร์จเร็ว

แบตเตอรี่ของมือถือรุ่นนี้ก็ให้มาจุก ๆ ถึง 5000 mAh สำหรับการใช้งานทั่วไปใส่ซิม 5G ออกนอกบ้าน ระหว่างอยู่บนรถไฟฟ้าราว ๆ ชั่วโมงนึงใช้เล่นเว็บ เล่นเกมนิดหน่อย ดูคลิปจาก YouTube บ้าง เข้าออฟฟิศต่อ WiFi ถ่ายรูปถ่ายวิดีโอนิดหน่อย กลับบบ้านค่ำ ๆ ยังมีแบตเตอรี่เหลือเฟือเกือบ 50% เลยล่ะ

ทดสอบแบบหนักหน่วงด้วยการเปิดคลิปจาก YouTube ความละเอียด FHD แสงหน้าจอประมาณ 60% และเสียงจากลำโพงประมาณ 60% เชื่อมต่อกับ WiFi เล่นไปทั้งหมด 9 ชั่วโมงครึ่ง พบว่าเหลือแบตเตอรี่ถึง 36% เรียกว่าดูซีรีส์กันตาแฉะยังเหลือแบตเตอรี่ใช้ได้ต่ออีกเป็นวันเลยนะ ส่วนระบบชาร์จรองรับสูงสุดที่ 25W สามารถชาร์จจาก 0 – 50% ได้ในเวลาประมาณครึ่งชั่วโมงนิด ๆ ครับ

สรุป

ข้อดี

  • หน้าจอ sAMOLED สวยคมชัดสู้แดด
  • รีเฟรชเรทสูง 120Hz
  • สเปคลื่น เล่นเกมฮิต ๆ ได้ทั้งหมด (ขึ้นกับการตั้งค่า)
  • RAM Plus เพิ่มได้ถึง 8GB
  • กล้องหลังคุณภาพดีในสภาวะแสงปกติและแสงน้อย
  • ระบบกันสั่นตอนถ่ายวิดีโอถือว่านิ่งใช้ได้
  • แบตเตอรี่อึด
  • ตัวเครื่องบางเบาสำหรับมือถือที่มีแบตเตอรี่ขนาดนี้

ข้อสังเกต

  • ฝาหลังเป็นคราบง่าย
  • รีเฟรชเรทปรับได้แค่ 60Hz / 120Hz
  • ลำโพงตัวเดียว เสียงไม่ค่อยดังเท่าไหร่
  • ถ่ายรูปในที่แสงน้อยโฟกัสช้าไปหน่อย
  • ยังต้องสแกนนิ้วที่ปุ่ม Power อยู่

บอกเลยว่า Galaxy M53 5G เป็นมือถือที่ครบเครื่องมาก ๆ รุ่นนึง ถ้าใครที่กำลังมองหามือถือดีไซน์บางเบาพกพาง่าย แต่มีแบตเตอรี่อึด ๆ ใช้งานได้ยาวข้ามวันข้ามคืน และยังเป็นสายเกมที่ชอบเล่นเกมกราฟิก 3D รวมถึงกล้องหลังที่มีคุณภาพในระดับดี ก็ขอแนะนำ Galaxy M53 5G เอาไว้ในอ้อมอกอ้อมใจรุ่นนึงเลยครับ ส่วนราคาวางจำหน่ายในบ้านเราอยู่ที่ 13,999 บาท แต่จะมีโปรโมชั่น Early Bird หากสั่งซื้อในวันที่ 1 – 15 มิ.ย. 2565 จะเหลือเพียง 12,499 บาทเท่านั้น แถมยังจะได้ของแถมมูลค่ารวม 2,389 บาท ไปอีกด้วยนะ