ผมได้มีโอกาสนำ Samsung Galaxy A23 5G ไปทดลองใช้งานมาซักระยะหนึ่งเป็นมือถือที่ใช้งานได้ดีเลยทีเดียว แบตอึด เล่นเกมส์ เล่นโซเชียล ดูหนัง ฟังเพลงก็สบายๆเลย  ทำให้ใครที่กำลังมองหามือถือราคาไม่แพงต้องตัวนี้เลยครับ โดยสีที่เปิดขายในไทย มีสีดำและสีฟ้า โดยขนาดของความจุจะมีแค่ขนาดเดียว คือ 8/128 GB ส่วนราคาอยู่ที่ 9,999 บาท ส่วนการใช้งานจะเป็นยังไง ไปลองดูกันได้เลยครับ

Samsung Galaxy A23 5G เป็นมือถือที่มากับราคาน่าสนใจพร้อมกับสเปคที่สามารถใช้งานทั่วไปได้สบายไม่มีสะดุด เล่นเกมส์ลื่น แถมแบตเตอรี่ยังอึด อยู่ข้ามวันได้แบบสบาย ๆ พร้อมจุดเด่นที่กล้องหลังความละเอียดสูง 50MP และยังมีระบบกันสั่น OIS ให้มาอีกด้วย

หน้าจอ FHD+ รีเฟรชเรทลื่น

Galaxy A23 5G มีหน้าจอแสดงผล ขนาด 6.6 นิ้ว ความละเอียด FHD+ พร้อมรีเฟรชเรตสูงถึง 120Hz เวลาไถหน้าจอ ไถฟีดก็จะให้ความลื่นสมูทสบายตากว่าหน้าจอมือถือทั่วไป ส่วนดีไซน์จะใช้แบบ Notch หยดน้ำสำหรับวางกล้องเซลฟี่ ที่ไม่ได้กินพื้นที่มากจนเกะกะสายตาครับ

ถ้าหากต้องการใช้งานธรรมดาไม่ได้เล่นเกมส์หรือดูหนังก็สามารถเลือกปรับหน้าจอเป็นแบบ standard 60 Hz เพื่อประหยัดแบตเตอรี่ได้ แต่ถ้าหากอยากใช้หน้าจอลื่น ๆ ก็ต้องปรับเป็นโหมด Adaptive ที่จะปรับรีเฟรชเรตให้เองระหว่าง 60 / 120Hz (ไม่มีตัวเลือกให้ปรับกลาง ๆ เป็น 90Hz ครับ)

ดีไซน์แบบเพรียวบาง น้ำหนักไม่ถึง 200 กรัม

เจ้า A23 5G เครื่องนี้เมื่อจับถือแล้ว ถึงแม้ว่าตัวเครื่องจะดูยาวไปนิดแต่มีน้ำหนักที่ไม่มาก เพียงแค่ 197 กรัมเพียงเท่านั้น ซึ่งถือเป็นเรื่องดีเลยสำหรับมือถือที่ให้แบตเตอรี่มาถึง 5,000 มิลลิแอมป์ และหน้าจอใหญ่ถึง 6.6 นิ้ว แต่ก็ยังสามารถใช้ด้วยมือเดียวได้ไม่ยาก ใส่กระเป๋ากางเกงก็ไม่ตุงไม่ดันด้วยนะครับ

ด้านหลังของตัวเครื่องมาพร้อมกับกล้องทั้งหมด 4 ตัว โมดูลกล้องนูนขึ้นมาจากตัวเครื่องเล็กน้อย (ถ้าใช้เพียว ๆ แบบไม่ใส่เคสก็เสียวว่าจะขูดพื้นเหมือนกัน) ส่วนฝาหลังของตัวเครื่องใช้วัสดุแบบพลาสติกผิวด้าน ซึ่งเป็นข้อดีตรงที่ไม่เป็นรอยนิ้วมือง่าย โดย Galaxy A23 5G มีทั้งหมดด้วยกัน 2 สี คือ  สีดำ และ สีฟ้า ก็คือตัวที่เราเอามารีวิวนี่เองครับ

ประสิทธิภาพเครื่อง

สเปค Samsung Galaxy A23 5G

  • จอ LCD ขนาด 6.6 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รีเฟรชเรท 120Hz
  • ชิป : Snapdragon 695 5G
  • RAM : 8GB
  • ความจุ : 128GB ใส่ MicroSD ได้ 1TB
  • กล้องหลัง :
    • กล้องหลัก 50MP (f/1.8) กันสั่น OIS
    • กล้องอัลตราไวด์ 5MP (f/2.2)
    • กล้องมาโคร 2MP, (f/2.4)
    • กล้องจับความลึก 2MP, (f/2.4)
  • กล้องหน้า : 8MP (f/2.2)
  • การเชื่อมต่อ : 5G, Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac (2.4G+5GHz), Bluetooth® v 5.1
  • ระบบเสียง Dolby Atmos
  • สแกนนิ้วมือด้านข้าง
  • แบตเตอรี่ : 5,000mAh รองรับชาร์จไว 25W
  • ขนาด / น้ำหนัก : 165.4 x 76.9 x 8.4มม. / 197 กรัม
  • ระบบปฏิบัติการ : Android 12 ครอบด้วย One UI 4.1

การเล่นเกม

สายเกมนี่น่าจะชอบกันเลยเพราะสเปคของ Samsung Galaxy A23 5G สามารถเล่นเกมส์ในปัจจุบันได้ทั้งหมด และเล่นได้ลื่นด้วย (อยู่ที่การตั้งค่า) ทดสอบเล่นเกมกราฟิกโหดสุดฮิตทั้ง Genshin Impact, PUBG, Diablo Immortal และ ROV ก็สบาย แต่บอกอีกครั้งว่าต้องตั้งค่ากราฟิกให้เหมาะสมนะครับ

ROV

การเล่น ROV สามารถเปิดโหมดเฟรมเรทได้ทั้งแบบ 30fps และ 60fps สามารถเล่นได้ลื่นและไม่กระตุกเลย ในขณะเข้าทีมไฟต์ก็มีตกลงมาที่ 57-60FPS แต่ถ้าตอนเข้าไปนัวกันอาจมีอาการทัชหลอนบ้างเล็กน้อย เล่นติดต่อกันได้เลย ไม่ร้อน โดยตัวเครื่องจะแนะนำการตั้งค่าแบบกลาง ๆ เพื่อให้สามารถเล่นได้อย่างลื่นไหล แต่เราก็ลองปรับเพิ่มได้อีกนิดหน่อยอย่างเช่นเฟรมเรทครับ

Genshin Impact

เกมส์นี้สามารถเล่นได้ครับ ตัวเกมจะปรับกราฟฟิคมาเป็นแบบ Low ซึ่งเป็นค่าพื้นฐาน สามารถปรับกราฟฟิคให้เป็นสูงสุดได้ แต่มีการเตือนจากเกมว่า ถ้าหากปรับเป็นสูงสุด เครื่องอาจร้อนเร็วและโอเวอร์ฮีทได้ แต่ก็ลองของดูซักหน่อย ปรับเป็นโหมดกราฟฟิคสูงสุดแล้วก็ยังเล่นได้อยู่ครับ ปรากฎว่ามีกระตุกบ้างพอเล่นได้ แต่เล่นนานมากไม่ได้เพราะเครื่องร้อนและจะโดนลดประสิทธิภาพเครื่องลงทำให้กระตุกกว่าเดิม แนะนำให้เล่นแบบที่ระบบตั้งมาจะดีกว่าครับ

Diablo Immortal

สามารถเล่นได้ในกราฟฟิคระดับกลางแต่ไม่สามารถปรับกราฟฟิคแบบสูงสุดได้ และไม่สามารถปรับเฟรมเรตสูงสุดที่ 60FPS ได้ ปรับได้เพียง 30FPS ซึ่งก็สามารถเล่นได้แบบลื่น ๆ เลยตามการตั้งค่ามาตราฐานจากที่เครื่องแนะนำมา

PUBG

ตั้งค่า Default ก็สามารถเล่นได้สบาย ๆ แบบไม่มีอาการกระตุกให้เห็นเลย แต่ไม่สามารเปิดโหมด HDR ได้นะครับ เปิดได้สูงสุดที่ HD เท่านั้น ทดลองเล่นได้ไม่มีปัญหาแม้เจอศัตรูหลายตัวครับ นอกจากนี้ยังไม่เจอพวกอาการทัชหลอนทัชเพี้ยนอะไรด้วย

กล้องหลัง

กล้องหลังของ Galaxy A23 5G มีทั้งหมด 4 ตัว ประกอบด้วย กล้องหลัก 50MPมีระบบกันสั่น OIS, กล้องอัลตราไวด์ 5MP, กล้องมาโคร 2MP, กล้องจับความลึก 2MP สามารถถ่ายภาพออกมารวม ๆ ได้อยู่ในระดับโอเคครับ และยังมีโหมดกลางคืนให้เลือกใช้ได้ด้วย

กล้องหลักความละเอียด 50 MP

แม้กล้องหลักจะมีความละเอียด 50MP แต่ถ้าเราถ่ายโหมด Auto มันจะใช้ระบบ Pixel Binning ที่จะรวมเอาเม็ดพิกเซลหลายเม็ดเข้าเป็นเม็ดเดียวทำให้เก็บแสงและรายละเอียดในที่แสงน้อยได้ดีกว่า แต่หากต้องการถ่ายแบบเต็มความละเอียด ก็มีโหมดนี้ให้เลือกเช่นกันครับ โดยการถ่ายแบบเต็มความละเอียด 50MP อาจถ่ายในที่แสงน้อยได้ไม่ดีเท่าโหมด Auto แต่ข้อดีของมันคือเราสามารถครอปภาพเพื่อซูมดูรายละเอียดได้ค่อนข้างไกล โดยที่รายละเอียดยังพอมีความคมชัดอยู่

กล้องหน้า

มีโหมดบิวตี้หน้าเนียนที่สามารถปรับได้ถึง 3 ระดับ แต่กล้องหน้ายังทำออกมาได้ไม่ดีเท่าไหร่ ทั้ง ๆ ที่ถ่ายรูปที่จุดเดิมสีของกล้องหน้ากลับออกมาไม่เหมือนกัน บางรูปสีออกซีดบางรูปสีออกเข้ม นอกจากนี้ยังสามารถปรับระยะการถ่ายเซลฟี่แบบมุมกว้างและแบบมุมปกติได้อีกด้วย

การถ่ายวีดีโอ

โหมดวีดีโอ สามารถถ่ายได้สูงสุดที่ Full HD 30fps และ HD 30fps เพียงเท่านั้น และมีกันสั่นมาให้เปิดใช้ด้วยแต่ระบบกันสั่นดูแล้วยังไม่สมูทเท่าไหร่ เพราะภาพยังมีอาการกระตุกเวลาเดินลงเท้าอยู่

Play video

Play video

แบตเตอรี่อึด ชาร์จเร็ว 

แบตเตอรี่ที่มีขนาดที่ใหญ่ขนาดนี้ให้ความจุมาถึง 5,000 มิลลิแอมป์ ใช้งานได้ยาวนานต่อเนื่อง ใส่ซิม 5G เล่น Facebook, Instagram เปิด Google Maps นำทางกลับบ้านในช่วงที่รถติดประมาณ 1 ชั่วโมง และเล่นเกมส์กราฟฟิคแรงๆอย่าง Genshin Impact, ROV 3 เกมส์ เปิดกราฟฟิคแบบสูงสุดแบตเตอรี่ก็ยังเหลือให้ใช้งานได้อีกยาว

ทดสอบดู Youtube (ส่วนใหญ่ต่อ WiFi อยู่บ้าน) ความละเอียด FHD เปิดแสงหน้าจอประมาณ 60% และเสียงจากลำโพงประมาณ 60% เชื่อมต่อกับ WiFi เล่นไปทั้งหมด 4 ชั่วโมง พบว่าเหลือแบตเตอรี่ถึง 45% เรียกว่าดูซีรีย์ดูหนังกันได้อย่างยาวนานแล้วยังสามารถใช้งานต่อได้อีก ส่วนระบบชาร์จรองรับสูงสุดที่ 25W สามารถชาร์จจาก 0 – 50% ได้ในเวลาประมาณครึ่งชั่วโมงนิด ๆ ครับ

 

สรุป

ข้อดี

  • หน้าจอรีเฟรชเรตสูง 120 Hz
  • เล่นเกมฮิต ๆ ได้อย่างลื่นไหล (ตั้งค่า Default)
  • แบตเตอรี่ขนาด 5,000 mAh อึดมากใช้ข้ามวันได้สบายเลย
  • กล้องหลักความละเอียด 50MP มี OIS มาให้ด้วย ถ่ายภาพดีในราคานี้
  • โหมดถ่ายภาพกลางคืนที่ค่อนข้างดี
  • มีรูหูฟัง 3.5 มม.
  • ราคาไม่แรง

ข้อเสีย

  • กล้องโหมด Pro ตั้งค่าได้แค่ ISO, EV, WB
  • ยังถ่ายวิดีโอได้แค่ FHD 30fps
  • ระบบกันสั่น OIS ถ่ายวิดีโอแล้วยังไม่ค่อยเนียนเท่าไหร่
  • ปรับเฟรมเรตได้แค่ 60Hz กับ Adaptive

Samsung Galaxy A23 5G วางขายแล้ว ในราคา 9,999 บาท ใครที่กำลังมองหามือถือเครื่องใหม่ที่ราคาไม่แพงมาก รองรับ 5G มีหน้าจอจอใหญ่ รีเฟรชเรทสูง น้ำหนักเบา และดูหนังฟังเพลง เล่นเกมส์ แบตเตอรี่อึดๆ สามารถไปทดลองเล่นตามศูนย์บริการหรือร้านค้าตัวแทนจำหน่ายเพื่อประกอบการตัดสินใจได้เลยครับ