ตอนนี้ Droidsans เราได้จัด 2 รุ่นใหม่ Xiaomi Mi 8 และ Mi 8 SE มาแล้ว นับเป็น 2 รุ่นท็อปที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อไม่นานมานี้ หนึ่งรุ่นคือเรือธง ส่วนอีกตัวเป็นรุ่นลดขนาดปรับสเปคนิดหน่อย ว่าแต่ทั้ง 2 รุ่นนี้เหมือนและต่างกันตรงไหนบ้าง เราลองมาดูไปพร้อมๆ กันเลยดีกว่าค่ะ
เปรียบเทียบขนาด Xiaomi Mi 8 กับ Mi 8 SE
เริ่มกันจากขนาดของตัวเครื่อง Mi 8 นั้นจะมีขนาดใหญ่กว่า เพราะหน้าจอขนาด 6.21 นิ้วนั่นเอง ส่วน Mi 8 SE นั้นมีขนาด 5.88 นิ้ว และดีไซน์ตัวเครื่องก็จะต่างกันด้วย
สังเกตุง่ายๆ จากด้านหน้าตรง จะเห็นเลยว่า Mi 8 SE นั้นจะดูเหลี่ยมๆ กว่า ส่วน Mi 8 นั้นจะมีความโค้งมนตามมุม
ตำแหน่งของปุ่มกดต่างๆ นั้นอยู่ในที่เดียวกัน ความหนาตัวเครื่องก็ใกล้เคียงกันค่ะ แต่ทั้ง 2 รุ่นมีแบตเตอรี่ที่ต่างกันนิดหน่หน่อย โดย Mi 8 SE นั้นมีความจุ 3120 มิลลิแอมป์ ส่วน Mi 8 นั้นใช้แบตเตอรี่ขนาด 3400 มิลลิแอมป์
ตำแหน่งของช่องถาดซิมอยู่ที่เดียวกัน คือมุมซ้ายบน ซึ่งทั้ง 2 รุ่นก็รองรับการใช้งาน 2 ซิม แต่ไม่สามารถใส่ micro SD เพิ่มได้ ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่แฟนๆ ของ Xiaomi น่าจะรู้กันดี
แต่ส่วนที่เป็นเซอร์ไพรส์คือ Mi 8 SE ดันมีช่อง Infrared หรือ IR Blaster มาให้ใช้งานด้วยนี่สิ ในขขณะที่รุ่นพี่ได้แต่มองตาปริบๆ เพราะถูกตัดออกไป
ส่วนพอร์ตด้านล่างนั้นมีเท่ากันคือแค่ USB Type C ลาช่องหูฟังกันไปก่อน ที่เหลือคือไมโครโฟนและลำโพงขนาบซ้ายขวา
ด้านหลังตัวเครื่องดูเผินๆ อาจไม่แตกต่าง แต่จริงๆ แล้วต่าง ส่วนของสแกนลายนิ้วมือนั้นเหมือนกัน แต่กล้องหลังคู่นั้นใช้เซนเซอร์ต่างกัน โดย Mi 8 SE จะเป็นกล้อง 12MP + 5MP ใช้วัดความลึกเท่านั้น แต่ของ Mi 8 เป็นกล้อง 12MP + 12MP ที่อีกตัวนึงมาพร้อมเลนส์ Optical ซูม 2X
ส่วนรอยบากด้านหน้านั้น Mi 8 ใส่ระบบสแกนใบหน้าแบบ 3D เข้ามา ด้วยการยิงแสง Infrared ทำงานร่วมกับ Infrared lens เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการระบุตัวตน ในขณะที่ของ Mi 8 SE นั้นใช้กล้องปกติทำการสแกนใบหน้าเฉยๆ แต่กล้องหน้าทั้งคู่ความละเอียดเท่ากันที่ 20MP f/2.0
เปรียบเทียบสเปค Xiaomi Mi 8 และ Mi 8 SE
ถ้าพูดถึงในเรื่องของสเปค ทั้ง 2 รุ่นนี้จริงๆ แล้วไม่ได้ต่างกันแค่ขนาดจอกับชิปเซ็ต เพราะ Mi 8 SE ที่เป็น Snapdragon 710 นั้น ถ้าหากเจาะลงไปถึงรายละเอียดแล้วในตัวชิปมันมีอะไรที่ต่างกันเยอะมากทั้งเสา, ภาครับสัญญาณ และยังมีเรื่องอื่นๆ อีกที่ต่างจาก Snapdragon 845 ใน Mi 8
แต่นั่นอาจจะเยอะเกินไป งั้นเราของทำเป็นตารางสรุปเอาส่วนที่เหมือนและต่างกันของทั้ง 2 รุ่นมาให้ดูดีกว่า
Mi 8 | Mi 8 SE | |
ระบบปฏิบัติการ | Android 8.1 Oreo | Android 8.1 Oreo |
UI | MIUI 9.5 (รออัพเกรดเป็น MIUI 10) | MIUI 9.5 (รออัพเกรดเป็น MIUI 10) |
หน้าจอ | 6.21 นิ้ว Super AMOLED ความละเอียด Full HD+ | 5.88 นิ้ว Super AMOLED ความละเอียด Full HD+ |
หน่วยประมวลผล | Snapdragon 845 AIE | Snapdragon 710 |
หน่วยประมวลผลกราฟิค | Adreno 630 | Adreno 616 |
RAM | 6GB / 8GB | 4GB / 6GB |
ROM | 64GB / 128GB / 256GB (UFS) | 64GB (eMMC) |
กล้องหลัง | 12MP + 12MP ขนาดพิกเซล 1.4 ไมครอน, มี AI, Dual PD, Optical Zoom 2x | 12MP + 5MP มี AI |
กล้องหน้า | 20MP f/2.0 ขนาดพิกเซล 1.8 ไมครอน | 20MP f/2.0 ขนาดพิกเซล 1.8 ไมครอน |
แบตเตอรี่ | 3400 มิลลิแอมป์ | 3120 มิลลิแอมป์ |
ระบบสแกนใบหน้า | สแกนใบหน้า 3 มิติ ผ่านระบบอินฟราเรด | สแกนใบหน้า 2 มิติ |
ระบบ GPS | Dual GPS จับสัญญาณ 2 คลื่น | GPS |
อินฟราเรด รีโมท | ไม่มี | มี |
พอทำเป็นตารางออกมาให้เห็นแล้ว ความแตกต่างของทั้ง 2 รุ่นนั้นมากเอาการอยู่ เรียกว่าพอเทียบกับราคาแล้ว Mi 8 นั้นดูจะคุ้มค่ากว่า Mi 8 SE เยอะเลยทีเดียว
ประสิทธิภาพ Mi 8 และ Mi 8 SE
เรื่องความแรงของทั้ง 2 ชิปเซ็ตนั้น เราใช้ Antutu วัดออกมาก็ได้ผลตามนี้ค่ะ
คะแนนของ Mi 8 นั้นไต่ขึ้นไปได้ระดับ 268,990 หรือประมาณ 270,000 ซึ่งความแรงก็ถือว่าดีกว่า Snapdragon 710 ใน Mi 8 SE ที่ได้ไปเพียง 168,919 คะแนน ซึ่ง ณ จุดนี้ยังรู้สึกว่าความแรงของ Snap 710 ดูจะยังไม่ได้แตกต่างจาก Snap 660 เท่าไหร่
คะแนนความเร็วในการอ่านเขียนบนหน่วยความจำก็อย่างที่เห็นค่ะ Mi 8 ใช้ UFS ยังไงก็ได้เปรียบ Mi 8 SE ที่เป็น eMMC อยู่แล้ว
ส่วนของ GPS นั้นเฉพาะรุ่น Mi 8 เท่านั้นที่จะมี Dual GPS ที่ใช้คลื่นจาก GPS ทั่วไป และ GPS อากาศยาน ซึ่งหากทำงานร่วมกันแล้วฟ้าเปิดจริงๆ ระยะความคลาดเคลื่อนจะน้อยได้ระดับ 30 เซนติเมตรเลยทีเดียว แต่จากการใช้งานทั่วไปก็ทดสอบลำบากค่ะ เท่าที่เห็นคือ Mi 8 นั้นสามารถจับสัญญาณในเมือง ในตึก ในอาคาร ได้ดีขึ้น ระยะเวลาการหาดาวเทียมน้อยลง
ส่วนการทดสอบด้วยแอปนั้นไม่รู้ว่าทำไม Mi 8 SE ถึงไม่สามารถจะล็อค GPS ได้ ลอง restart เครื่องแล้วหลายรอบก็ยังแปลกๆ
กล้องถ่ายภาพ
จากในตอนแรกที่คิดว่ากล้องหลัก 12 ล้านพิกเซลของทั้งคู่น่าจะถ่ายภาพออกมาได้พอๆ กัน แต่พอลองเอาภาพมาเทียบกันจริงๆ แล้ว ดูเหมือนระบบประมวลผลภาพ และพลัง AI เหมือนจะมีส่วนช่วยอยู่พอสมควรเลย
ถึงแม้ทั้ง 2 รุ่นจะมี AI ที่สามารถตรวจสอบ Scene ต่างๆ ของภาพได้เหมือนกัน เช่นภาพดอกไม้ สภาพอากาศเมฆครึ้ม ถ่ายภาพอาหารและอื่นๆ อีกหลายสิบแบบ แต่ภาพที่ถ่ายออกมาก็ไม่ได้เหมือนกันเป๊ะซะทีเดียว ในบางภาพนั้นเหมือนรายละเอียดของ Mi 8 จะทำออกมาได้ดีกว่า Mi 8 SE ค่ะ
ตัวอย่างภาพถ่าย Mi 8
ตัวอย่างภาพถ่าย Mi 8 SE
คลิปรีวิว Xiaomi Mi 8 ปะทะ Mi 8 SE เหมือนต่างกันตรงไหน
ถ้าจะให้สรุปง่ายๆ Mi 8 นั้นโดยรวมแล้วฟีเจอร์และความสามารถนั้นครบเครื่องกว่า Mi 8 SE รุ่นเล็กพอสมควรเลย เอาแค่สเปคในหลายๆ ด้านทั้งการสแกนใบหน้า 3D, กล้องหลังคู่มี Optical Zoom 2X ส่วนเรื่องแบตเตอรี่ของทั้ง 2 รุ่นนั้นผมว่าไม่ได้ต่างกันมาก จากที่ลองมาก็ใช้ได้ประมาณวันนิดๆ ทั้งคู่ ซึ่งงานนี้ใครที่รอเครื่องศูนย์ไทย Xiaomi Mi 8 นั้นจะเข้ามาวางขายในประเทศไทยแน่นอน ส่วน Mi 8 SE นั้นหมดสิทธิ์ เพราะจนถึงตอนนี้ยังไม่มีแผนการจำหน่ายในประเทศอื่นๆ นอกจากที่จีนเลยค่ะ
ส่วนราคาเปิดตัวของ Mi 8 ในประเทศไทยนั้นก็คาดว่าน่าจะเคาะออกมาถูกกว่า Mi Mix 2s ที่เปิดไป 17,990 แต่จะอยู่ที่เท่าไหร่อันนี้ต้องรอ Xiaomi ประเทศไทยประกาศอีกที
อยากดู mi8 ปะทะ mi mix 2s บ้างครับ
กำลังดู 2 รุ่นนี้อยู่เหมือนกันครับ
GPU ดูเกรดเดียวกะพวก 636 660 แหะ แต่ CPU แรงกว่า 820
Mi 8 explorerจะเข้าไทยไหมครับ อยากได้ตัวนี้มากเลย
งงกับเขา MI 8 ไม่มี อินฟราเรด แต่ตัวต่ำกว่า MI 8 SE มี
แล้วตัว MI 8 Explorer จะมี อินฟราเรดเปล่า ???
ผมชอบภาพถ่ายของสองตัวนี้นะครับ ขอบดีเทลของภาพ ถ่ายภาพนิ่งดีมาก แต่งานวิดิโอ เข้าขั้นแย่เลยโดยเฉพาะการบันทึกเสียง
ขอเพิ่มเติม จอของMi8และ8se รองรับ HDR ด้วยครับ ซึ่งสวยมาก ผมชอบจอไม่ใหญ่ ผมใช้Mi8se อยู่ ลงตัวดีมาก ถึงจะรอมจีน ก็ใช้งานได้ดีไม่มีปัญหา กล้องดี ถ่ายสวย เล่นเกมส์ก็ลื่น เพราะ660ว่าแรงแล้ว เจอ710สบายมาก ลำโพง1ตัวแต่เพราะดังไม่แตก เครื่องไม่ร้อน ชาร์จไวมาก GPS จับแม่นมากมากกว้าiPhonex เครื่องหลักผม ไวไฟก็ดี ไม่มีปัญหา ถึงแม้ยังไม่ขายเครื่องก็รองรับคลื่น 2300 Dtac จับ4g ดี เสียดายไม่เข้าไทย หรืออาจจะเข้า อาจจะยังทำรอมยังไม่พร้อม
AR Emoji มีเฉพาะ Explore
Wireless Charge ไม่มีใน SE