เหลือเวลาอีกแค่ไม่กี่วันเท่านั้นที่เราจะได้เห็นการเปิดตัวของว่าที่มือถือเรือธงรุ่นล่าสุดอย่าง Galaxy S10 ซึ่งแน่นอนว่าก่อนหน้านี้ได้มีเหล่าข่าวหลุด ข่าวลือ เกี่ยวกับสเปคและฟีเจอร์ต่างๆ หลุดออกมาไม่ขาดสายในแต่ละสัปดาห์เลยทีเดียว ซึ่งเราก็ขอนำมารวมเอาไว้ให้ดูกันง่ายๆ ในบล็อกนี้ไปเลย ตอนเปิดตัวจริงๆ จะได้รู้ว่าข่าวหลุดข่าวลือพวกนี้มันมีความน่าเชื่อถือขนาดไหน

เรื่องนึงที่เรารู้แน่ชัดแล้วเกี่ยวกับ Galaxy S10 ก็คือวันเปิดตัวในงาน Unpacked ที่กำลังจะจัดขึ้นในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2019 นี้นั่นเอง แต่สำหรับวันเปิดตัว และวันวางจำหน่ายของ Galaxy S10 ในประเทศไทยก็ต้องรอทาง Samsung Thailand อัพเดทกันอีกทีนะครับ แต่ตอนนี้เราไปดูข่าวลือทั้งหมดกันเลยดีกว่า

    1. รุ่นและสเปคของ Galaxy S10
    2. ดีไซน์ของ Galaxy S10
    3. กล้องหลัง 3 ตัว และ 2 ตัว
    4. กล้องหน้า 2 ตัว และ 1 ตัว
    5. ฟีเจอร์ของ Galaxy S10
    6. ผลทดสอบ Geekbench ของ Galaxy S10+ สุดแรงแซง Snapdragon 855
    7. สีที่วางจำหน่าย
    8. หมดปัญหาฟิล์มกันรอย เพราะจะติดมาให้ตั้งแต่โรงงาน
    9. ราคาของ Galaxy S10
    10. เปรียบเทียบสเปค Galaxy S10+, Galaxy S10 และ Galaxy S10e เหมือนและต่างกันตรงจุดไหนบ้าง
    11. รวมฟีเจอร์และวิธีใช้ Galaxy S10
    12. ปัญหาและวิธีแก้ไขเบื้องต้นของ Galaxy S10

1. รุ่นของ Galaxy S10

Galaxy S10 คราวนี้เปิดตัวมาพร้อมกันทั้งหมด 3 รุ่น คือ รุ่นน้องเล็กสุด Galaxy S10e, รุ่นปกติ Galaxy S10, รุ่นท็อป Galaxy S10+ และยังมีรุ่นพิเศษที่กำลังจะตามมาอีกอย่าง Galaxy S10 5G ที่ไม่น่าจะเข้ามาในบ้านเราในปีนี้ (เพราะยังไม่มีเครือข่าย 5G ให้ใช้)

 

สเปค Galaxy S10e, S10 และ S10+

Galaxy S10eGalaxy S10Galaxy S10+
หน้าจอ5.8 นิ้ว (19:9), 2280 x 1080 (FHD+), 438 ppi, Infinity O, AMOLED HDR10+, Gorilla Glass 56.1 นิ้ว (19:9), 3040 x 1440 (QHD+), 550 ppi, Infinity O, AMOLED HDR10+, Gorilla Glass 66.3 นิ้ว (19:9), 3040 x 1440 (QHD+), 522 ppi, Infinity O, AMOLED HDR10+, Gorilla Glass 6
CPU Exynos 9820Exynos 9820Exynos 9820
RAM 6GB  8GB8/12GB
ความจุ  128GB  128GB128/512GB/1TB
กล้องหลัง12MP + 16MP12MP + 12MP + 16MP12MP + 12MP + 16MP
กล้องหน้า 10MP 10MP10MP + 8MP
การเชื่อมต่อWi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/ax, dual-band, BT 5.0Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/ax, dual-band, BT 5.0Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/ax, dual-band, BT 5.0
เซ็นเซอร์Accelerometer, Barometer, Capacitive Finger Print Sensor, Gyro Sensor, Geomagnetic Sensor, Hall Sensor, Proximity Sensor, RGB Light SensorAccelerometer, Barometer, Ultrasonic Fingerprint Sensor, Gyro Sensor, Geomagnetic Sensor, Hall Sensor, Heart Rate Sensor, Proximity Sensor, RGB Light Sensor Accelerometer, Barometer, Ultrasonic Fingerprint Sensor, Gyro Sensor, Geomagnetic Sensor, Hall Sensor, Heart Rate Sensor, Proximity Sensor, RGB Light Sensor
ระบบเสียงรูหูฟัง 3.5 mm., ลำโพงสเตอรีโอ, Dolby Atmosรูหูฟัง 3.5 mm., ลำโพงสเตอรีโอ, Dolby Atmosรูหูฟัง 3.5 mm., ลำโพงสเตอรีโอ, Dolby Atmos
แบตเตอรี่ 3100 mAh รองรับ Wireless Power Share, Fast Wireless Charge 2.0 3400 mAh รองรับ Wireless Power Share, Fast Wireless Charge 2.0  4100 mAh รองรับ Wireless Power Share, Fast Wireless Charge 2.0
น้ำหนัก 150 กรัม 157 กรัม 175 กรัม

2. ดีไซน์ของ Galaxy S10

Galaxy S10 ทั้ง 3 รุ่น ยังคงมีดีไซน์ตัวเครื่องที่แทบจะไม่ต่างจากรุ่นเดิมมากนัก แต่คราวนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างนึงที่เห็นได้ชัดมากๆ ก็คือขอบจอด้านบนที่บางเฉียบกว่าเดิมจนแทบจะหายไปแล้ว เนื่องจากย้ายเอากล้องหน้ามาไว้บนหน้าจอแบบ Infinity-O หรือจอที่เจาะรูเอาไว้ตรงมุมขวาบนนั่นเอง ซึ่งจอ Infinity-O ก็ยังมีความแตกต่างกันอีก คือรุ่น S10+ จะเป็นรูยาวเกือบจะเป็นวงรี เพราะมีกล้องหน้า 2 ตัว ส่วนรุ่น S10 และ S10e จะเป็นแค่รูวงกลมเล็กๆ สำหรับวางกล้องแค่ตัวเดียวเท่านั้น

ส่วนหน้าจอของ Galaxy S10e จะไม่ได้เป็นขอบโค้งแบบ Dual Edge เหมือนรุ่นพี่ทั้ง 2 ด้วย แต่จะเป็นจอแบนราบธรรมดา

3. กล้องหลัง และกล้องหน้า

Galaxy S10 และ S10+ มีกล้องหลังจำนวน 3 ตัว ความละเอียดเท่ากันที่ 12MP (เลนส์ Wide, f/1.5, f/2.4) OIS + 12MP (เลนส์ซูม 12MP, f/2.4) OIS + เลนส์ Ultra-wide 16MP (f/2.2) แต่ Galaxy S10e จะเหลือกล้องหลังแค่ 2 ตัว ความละเอียด 12MP (เลนส์ Wide, f/1.5, f/2.4) OIS + 16MP (เลนส์ Ultra-wide, f/2.2)

แต่ Galaxy S10e จะเหลือกล้องหลังแค่ 2 ตัว ความละเอียด 12MP (เลนส์ Wide, f/1.5, f/2.4) OIS + 16MP (เลนส์ Ultra-wide, f/2.2)

4. กล้องหน้า 2 ตัว และ 1 ตัว

นอกจากจะมีความแตกต่างกันที่กล้องหลังแล้ว กล้องหน้าก็ยังต่างกันอีกเช่นกัน โดยตัวท็อป Galaxy S10+ จะมีกล้องหน้าให้มาถึง 2 ตัว ความละเอียด 10MP (f/1.9) + 8MP (f/2.2) ส่วนรุ่นธรรมดา S10 และรุ่นเล็ก S10e จะมีกล้องหน้าแค่ตัวเดียว ความละเอียด 10MP (f/1.9)

5. ฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่น่าสนใจของ Galaxy S10

ระบบ Reverse Charge ชาร์จไฟแบบไร้สายให้อุปกรณ์อื่น

นอกจากสเปคต่างๆ จะได้รับการพัฒนาให้เร็วแรงขึ้นกว่าเดิม ก็จะต้องมีฟีเจอร์ใหม่ๆ ใส่เข้ามาด้วยเช่นกัน นั่นก็คือระบบ Reverse Charge ที่จะทำให้ Galaxy S10 กลายเป็นแท่นชาร์จไร้สายให้กับอุปกรณ์อื่นๆ ได้ (ฟีเจอร์เดียวกับ Huawei Mate 20 Pro นั่นเอง) อย่างเช่นสมาร์ทวอทช์, หูฟังบลูทูธที่รองรับชาร์จไร้สาย หรือแม้แต่มือถือด้วยกันเอง

สแกนนิ้วมือบนหน้าจอ

ระบบสแกนนิ้วมือบนหน้าจอก็ร่ำลือกันมาตั้งแต่ Galaxy S8 – S9 แล้วเหมือนกัน โดยคราวนี้เราจะได้ใช้กันซักทีในรุ่น Galaxy S10 / S10+ ซึ่งเป็นเซ็นเซอร์แบบ Ultrasonic ที่มีความแม่นยำสูงแถมยังสามารถสแกนได้ทั้งที่นิ้วยังเปียกๆ ได้อีกด้วย ส่วนรุ่น S10e จะเป็นมีเซ็นเซอร์อยู่ตรงข้างเครื่องแทน

ฟีเจอร์ถ่ายภาพกลางคืน

การถ่ายภาพกลางคืนแบบไม่ต้องใช้ขาตั้งที่หลายคนแอบค้อนให้กับค่ายอื่นๆ ตอนนี้ทาง Samsung ก็มีเหมือนกันแล้ว โดยใช้เวลาในการถ่ายไม่ถึง 3 วินาที (ผ่าน Scene Optimizer) โดยภาพที่ได้จะดูสว่างขึ้นกว่าเดิม แต่ความคมชัดอาจจะสู้โหมด Night scape ปกติไม่ได้​ ที่ภาพกลางคืนจะมีความมืดสวยงามในแบบของมัน ถ้าใครไม่ชอบภาพที่มืดแบบฟุ้งๆก็มาปิดโหมดนี้ได้

จัดคอมโพสสวยด้วย AI

มี Shot Suggestion ช่วยแนะนำการจัดคอมโพสหรือช่วยจัดองประกอบภาพให้ดีขึ้น โดยจะขึ้นเป็นวงกลมให้เราขยับกล้องตาม แล้วก็มีบาลานซ์บาร์ให้เราขยับจนกว่าองศาจะตรง ภาพไม่เอียง ช่วยทำให้ได้ช็อตที่ดีที่สุด จะฝากให้แฟน หรือเด็กเสิร์ฟในร้านถ่ายก็ไม่ต้องกลัวว่าภาพจะตกขอบ ถ่ายภาพออกมาบิดๆเบี้ยวๆอีกต่อไป

รองรับถ่ายวิดีโอ HDR10+

Galaxy S10 ถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุด 4K (3840 x 2160 พิกเซล) ที่ 60fps และยังรองรับการถ่ายวิดีโอ HDR10+ ซึ่งจะให้ภาพสีสันสวยสดใสขึ้น แต่จะถ่ายได้แค่ที่อัตราเฟรมเรต 30 fps เท่านั้นนะ

 

SUPER STEADY กันสั่นระดับเทพ

อีกฟีเจอร์ที่โดดเด่นไม่แพ้กันของโหมดถ่ายวิดีโอใน Galaxy S10 ก็คือ Super Steady กันสั่นสุดเทพ ที่ถ่ายมาแล้วได้ภาพนิ่งเนียนๆ เหมือนใช้พวก Action Camera เลย

 

SUPER SLOW-MO ถ่ายได้นานขึ้น สูงสุด 0.8 วินาที

อีกหนึ่งลูกเล่นโหมดวิดีโอของ Galaxy S10 อย่างการถ่าย Super Slow-mo ระดับ 960fps ได้นานกว่าเดิมเป็น 0.4 วินาที และหากว่าอยากถ่ายให้นานกว่านั้นเป็น 0.8 วินาที ก็ยังทำได้ด้วยการลดความละเอียดลงไปเหลือ 480p  แถมยังสามารถตัดต่อหรือ edit แก้ไขได้ด้วย ส่วนการถ่าย Slowmotion ที่ 240fps ก็ยังถ่ายต่อเนื่องยาวๆ ได้เหมือนเดิม

 

กล้องหน้าอัพเกรด! ถ่ายวิดีโอ 4K ได้ และมีกันสั่นด้วย 

กล้องหน้าของ Galaxy S10e และ S10 เป็นกล้องเดี่ยว ความละเอียด 10 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องหน้าของ Galaxy S10+ จะเป็นกล้องคู่ (Dual Camera) ความละเอียด10 MP (f/1.9) + 8MP (f/2.2) มีเซนเซอร์ RGB Depth ช่วยเพิ่มมิติภาพมากขึ้น

นอกจากนี้ยังเป็นครั้งแรกที่ใช้เทคโนโลยี Dual Pixel ที่ช่วยให้โฟกัสไวและแม่นยำกับกล้องหน้า รวมถึงยังรองรับการถ่ายวิดีโอ 4K (UHD) และมาพร้อมกันสั่นอีกด้วย

 

6. ผลทดสอบ Geekbench ของ Galaxy S10+ สุดแรงแซง Snapdragon 855

ปกติแล้วชิป Exynos ที่ Samsung พัฒนาขึ้นเอง รุ่นที่ผ่านๆ มา มักจะทำคะแนนการทดสอบประสิทธิภาพได้น้อยกว่าชิปตัวแรงของค่าย Qualcomm อย่าง Snapdragon อยู่เสมอ แต่สำหรับชิปตัวล่าสุด Exynos 9820 จะไม่ออกมาเป็นอย่างเดิมซะแล้ว เพราะผลการทดสอบ Galaxy S10+ ที่ใช้ชิป Exynos 9820 สามารถทำคะแนนเอาชนะ Galaxy S10+ ที่ใช้ชิป Snapdragon 855 ไปได้ (แบบฉิวเฉียด) ทั้งคะแนน Single-Core และ Multi-Core เลยทีเดียว และแน่นอนว่ามันเอาชนะ Mate 20 Pro ที่ใช้ชิป Kirin 980 ไปได้แบบขาดลอยเลยล่ะ ก็ไม่รู้ว่า Galaxy S10+ ตัวสมบูรณ์ที่วางจำหน่ายแล้ว จะสามารถทำคะแนนได้สูงกว่านี้อีกรึเปล่าด้วย

7. สีที่วางจำหน่าย

มือถือเรือธงทั้งซีรีส์ Galaxy S และ Note ในรุ่นหลังๆ มานี้ เราจะเริ่มเห็นว่ามันมีตัวเลือกของสีเพิ่มมากขึ้น รวมถึง Galaxy S10 ก็เช่นกัน โดยตอนนี้มีข้อมูลออกมาแล้วว่าจะมีสีให้เลือกกันหลากหลายเหมือนเดิมตามนี้

  • Galaxy S10e : สีขาว (Prism White), สีดำ (Prism Black), สีเขียว (Prism Green), สีน้ำเงิน  (Prism Blue), สีเหลือง (Canary Yellow)
  • Galaxy S10 : สีขาว (Prism White), สีดำ (Prism Black), สีเขียว (Prism Green), สีน้ำเงิน (Prism Blue)
  • Galaxy S10+ : (Prism White), สีดำ (Prism Black), สีเขียว (Prism Green), สีน้ำเงิน (Prism Blue), สี Flamingo Pink
  • Galaxy S10+ รุ่น 12GB / 1TB : สีดำ (Ceramic Black), สีขาว (Ceramic White)

8. หมดปัญหาฟิล์มกันรอย เพราะจะติดมาให้ตั้งแต่โรงงาน

หลายๆ คนที่เคยเจอปัญหาฟิล์มกันรอยขอบเด้งจนฝุ่นเข้าใน Galaxy S รุ่นที่มีจอโค้ง ก็หมดห่วงกันได้เลย เพราะ Galaxy S10 ทั้ง 3 รุ่นจะมาพร้อมกับฟิล์มที่ติดมาให้แบบแน่นหนาจากโรงงาน หมดปัญหาเอาเครื่องไปติดฟิล์มตามร้านแล้วช่างไม่เก่งหรือเจอฟิล์มคุณภาพต่ำทำให้ขอบกระดกเมื่อใช้งานไปนานๆ แถมฟิล์มที่ติดมาให้ยังสามารถใช้งานร่วมกับระบบสแกนนิ้วมือได้แบบไม่มีปัญหาด้วย

9. ราคาของ Galaxy S10

ราคาของ Galaxy S10 และ S10+ ที่ขายในบ้านเราก็มีตามนี้เลย

  • S10e 6GB / 128GB : 26,900 บาท
  • S10 8GB / 128GB : 31,900 บาท
  • S10+ 8GB / 128GB : 35,900 บาท
  • S10+ 8GB / 512GB : 44,900 บาท
  • S10+ 12GB / 1TB : 55,900 บาท

10.เปรียบเทียบสเปคซีรีส์ Galaxy S10

ได้เห็นราคาของ Galaxy S10 ทุกรุ่นที่ขายในบ้านเราไปแล้ว ทีนี้หลายๆ คงคนจะลังเลแล้วล่ะ ว่ารุ่นไหนจะเหมาะกับเรามากกว่า ถ้ายังงั้นก็ลองเข้ามาเช็คสเปคพร้อมเปรียบเทียบกันไปเลยว่ารุ่นไหนจะคุ้มค่ากับการใช้งานของเราที่สุด ในบล็อก เปรียบเทียบสเปค Galaxy S10+, Galaxy S10 และ Galaxy S10e เหมือนและต่างกันตรงจุดไหนบ้าง

11. รวมฟีเจอร์และวิธีใช้ Galaxy S10

เป็นถึงมือถือเรือธงรุ่นใหม่แบบนี้ก็แน่นอนว่ามันต้องมาพร้อมกับฟีเจอร์เด็ดๆ มาเพียบแน่นอน ถ้าใครไม่รู้ว่ามันมีอะไรบ้าง ฟีเจอร์แต่ละอย่างเจ๋งยังไง และใช้งานยังไง ก็เข้าไปดูได้ที่นี่เลย รวมฟีเจอร์และวิธีใช้ Galaxy S10 ที่คนซื้อควรรู้ คนมีต้องใช้

 

12.ปัญหาและวิธีแก้ไขเบื้องต้นของ Galaxy S10

ปัญหาของ Galaxy S10 เท่าที่หลายๆ คนได้ประสบพบเจอในช่วงนี้ก็คือ ปัญหาการสแกนนิ้วมือด้วยเซ็นเซอร์แบบ Ultrasonic นั่นเอง โดยหลักๆ ที่เจอก็คือ สแกนช้าบ้าง หรือหนักหน่อยก็คือสแกนไม่ติดเลย ซึ่งเราก็ได้รวบรวมเอาไว้ให้แล้วด้วย