เพิ่งเปิดตัวกันไปสด ๆ ร้อน ๆ สำหรับ Samsung Galaxy Z Flip5 มือถือจอพับสุดฮิตรุ่นล่าสุด ที่มาพร้อมกับจอแสดงผลที่ใหญ่เต็มตา 3.4 นิ้ว และแน่นอนว่าในเมื่อมากับจอขนาดใหญ่ ฟีเจอร์ใหม่ก็ต้องจัดเต็มเช่นกัน โดยในรุ่นนี้จะเน้นฟีเจอร์การใช้งานบนจอนอกเป็นพิเศษ ใครที่ยังลังเลกันอยู่ถ้าได้เห็นฟีเจอร์ใหม่แล้ว อาจจะเปลี่ยนใจกันก็ได้นะ

Play video

Flex Cam ยกเครื่องระบบเซลฟี่จอหน้า

สำหรับใครที่ชื่นชอบเซลฟี่ด้วยจอหน้าเป็นชีวิตจิตใจ Galaxy Z Flip5 ก็มาพร้อมกับระบบ Flex Cam แบบใหม่ที่สามารถซูมภาพเข้า – ออกเพื่อถ่ายภาพ Portrait สวย ๆ ได้ผ่านจอหน้าขนาดใหญ่ 3.4 นิ้ว นอกจากนี้ยังสามารถตั้งค่า Quick Setting เช่นอัตราส่วนภาพ, ตั้งเวลาถ่ายภาพ หรือเปิดโหมด Motion Photo ได้เลยทันที

ใช้ Galaxy Z Flip5 ร่วมกับ Galaxy Watch6 เป็นรีโมตชัตเตอร์สั่งถ่ายรูปได้

ตอนนี้ Galaxy Z Flip5 สามารถใช้งานร่วมกับ Galaxy Watch6 Series เพื่อใช้แอป Camera Controller สั่งการกล้องได้แล้ว โดยตัวแอป Camera Controller จะสามารถดูภาพพรีวิวของกล้องได้ผ่านตัวนาฬิกา สามารถซูมกล้องได้ เพียงหมุนหน้าปัด (เฉพาะรุ่น Classics) แถมยังสามารถสลับโหมดภาพ และวิดีโอได้ผ่านตัวนาฬิกาด้วย

Flex Mode Panel ปรับปรุงใหม่ ใช้ง่ายกว่าเดิม

Galaxy Z Flip5 มาพร้อมกับ One UI 5.1.1 ที่ได้อัปเกรดหน้าตา Control Panel ใน Flex Mode ใหม่ให้สวยงามน่าใช้ โดยสีสันพื้นหลังจะเปลี่ยนตามวอลเปเปอร์ที่เราใช้งาน ไม่ได้ล็อกไว้ที่สีดำเหมือนรุ่นก่อน นอกจากนี้ยังมาพร้อมชุดปุ่มที่สามารถกดใช้คำสั่งต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น จะกดแคปจอ แบ่งหน้าจอ ย้ายหน้าต่าง หรือใช้จอล่างเป็น Touch Pad หรือจะเปลี่ยนเป็นเมนูควบคุมเพลงก็ได้ เรียกได้ว่าน่าใช้งานกว่าเดิมมาก ๆ

Flex Window ระบบจอนอกแบบใหม่ ไฉไลกว่าเดิม

แน่นอนว่าในเมื่อ Galaxy Z Flip5 อัปเกรดไซส์จอแล้ว ทาง Samsung จึงได้ออกแบบ UI ของจอหน้าใหม่ในชื่อ “Flex Windows” ที่สามารถตั้งค่า Quick Setting ได้โดยไม่ต้องกางจอ, ตอบกลับข้อความได้ด้วยคีย์บอร์ด QWERTY แบบเต็มรูปแบบ, สามารถเช็กสภาพอากาศ ดูตารางนัด ดูหุ้นผ่าน Google Finance และอื่น ๆ อีกมากมายได้ผ่าน Widgets ที่ Samsung เพิ่มเข้ามาให้ใช้กันมากมาย

นอกจากนี้หากมี Widget บนจอนอกเยอะ ๆ  Flex Window ยังมาพร้อมกับระบบ Multi Widget View ที่สามารถดูหน้าต่าง Widget ทั้งหมดได้เพียงจีบนิ้ว และถ้าจะใช้ฟีเจอร์ไหน ก็สามารกดเข้าไปดูจากหน้ารวม Widget ได้เลย ไม่ต้องเสียเวลาเลื่อนปัดทีละอัน

แต่งจอนอก Cover Screen ได้สวย ๆ ตามสไตล์ตัวเอง

สำหรับใครที่ชื่นชอบการตกแต่ง คัสตอมตัวเครื่องต้องถูกใจฟีเจอร์นี้แน่นอน เพราะฟีเจอร์ Flex Window จะช่วยให้เราตกแต่งจอด้านหน้าในโหมด Standby สามารถจัดวาง Layout เลือก Widgets ต่าง ๆ ให้โชว์ข้อมูลเปอร์เซนต์แบตเตอรี่ หรือจะใส่ภาพเล็ก ๆ ของเราไว้บน Widgets หรือจะตั้งภาพพักหน้าจอเป็นไฟล์ภาพ, GIF หรือวิดีโอได้ด้วย นอกจากนี้ยังมาพร้อม Templates หลากหลายรูปแบบให้เลือกใช้งาน หรือเลือกดาวน์โหลดกันเพิ่มเติม

รองรับการเล่นแอปผ่านจอนอกได้แบบ Native

ด้วยความที่หน้าจอแสดงผลใหม่ มาในขนาดใหญ่มากกว่าเดิม 3.4 นิ้ว ทาง Samsung จึงได้ร่วมมือกับนักพัฒนาแอปดังเพื่อปรับ Optimized แอปต่าง ๆ ให้ใช้งานบนจอนอกได้สะดวกขึ้น ดู YouTube, Netflix คุย Line ผ่านจอหน้าได้โดยไม่ต้องกางจอออกมาให้เสียเวลา โดยตอนนี้จะมีแอปทั้งหมด 11 แอปที่รองรับการใช้งานด้วยจอหน้าแบบเต็มรูปแบบ และในอนาคตยังมีแผนที่จะเพิ่มแอปให้รองรับมากขึ้นด้วย

11 แอปที่รองรับการเล่นบนจอนอก Galaxy Z Flip5 แบบ Native

  • YouTube
  • Netflix
  • Spotify
  • Google Maps
  • Naver Map
  • Line
  • Samsung Message
  • Google Message
  • Kakao Talk
  • WhatsApp
  • WeChat

นอกจากนี้ทาง Samsung ยังมีแผนที่จะปล่อยอัปเดตให้ Good Lock สามารถปลดล็อกให้จอแสดงผลด้านนอกของ Galaxy Z Flip5 ใช้งานแอป หรือเล่นเกมอื่น ๆ นอกเหนือจาก 11 แอปที่ว่านี้ได้ โดยคาดว่าจะมีการอัปเดตกันอีกทีในช่วงเดือนสิงหาคม 2023 นี้

Flip Suit Case เคสแบบใหม่ เปลี่ยน Wallpaper ตามลายเคส

รวมเคสแท้ และอุปกรณ์เสริม Samsung Galaxy Z Flip5 และ Galaxy Z Fold5 ที่วางขายในไทย เริ่มต้น 1,090 บาท

นอกจากนี้ถ้าตกแต่งภายในระบบแล้วยังไม่พอใจ Galaxy Z Flip5 ยังมาพร้อมอุปกรณ์เสริมแบบใหม่ Flip Suit Case ที่มาพร้อมกับ NFC Card ที่เมื่อประกบการ์ดเข้ากับตัวเครื่อง Wallpaper ก็จะเปลี่ยนเป็นสไตล์ของเคสเราทันที ใครที่ชอบของตกแต่งน่ารักแบบนี้ เตรียมตัวเสียเงินเพิ่มกันได้เลย

ราคา และวันวางจำหน่าย Galaxy Z Flip5

ราคาไทย และโปรโมชั่น Samsung Galaxy Z Flip5

Samsung Galax Z Flip5 มีให้เลือกทั้งหมด 4 สีได้แก่ สีครีม Cream, สีดำ Graphite, สีเขียวอ่อน Mint และสีชมพู Lavender และเมื่อสั่งซื้อผ่าน Samsung Online Store จะมีตัวเครื่องสีพิเศษให้เลือกอีก 4 สี ได้แก่ สีเหลือง Yellow, สีเขียวเข้ม Green, สีน้ำเงินเข้ม Blue และสีเทา Grey  พร้อมเปิดให้สั่งจองอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยเปิดราคามาทั้งหมด 2 รุ่น ดังนี้

  • 8GB + 256GB ราคา 39,900 บาท
  • 8GB + 512GB ราคา 45,900 บาท

ส่วนใครที่สงสัยว่าการใช้งาน Flex Window ของจริงจะเป็นอย่างไร ทางทีมงาน DroidSans ก็ได้ไปลองจับ ลองเล่นกันมาแล้ว สามารถเข้าไปอ่านใน Blog Hands-On ได้เลย

Hands-On | สัมผัสแรก Samsung Galaxy Z Flip5 มือถือจอพับสุดคิ้วท์ กับจอนอกใหญ่อลังการ